บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล อินเดีย จำกัด (SCG INTL INDIA) ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ร่วมทุนกับ “Big Bloc Construction Limited” (BCL) ประเทศอินเดีย ดำเนินธุรกิจอิฐมวลเบาและแผ่นผนังมวลเบา ตั้งโรงงานผลิตมูลค่าโครงการ 410 ล้านบาท โดยมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 2.6 ล้านตารางเมตร (หรือประมาณ 250,000 ลูกบาศก์เมตร) ในรัฐคุชราต ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่การก่อสร้างมีมูลค่าสูงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้การร่วมทุนระหว่าง SCG INTL INDIA และ BCL มีมูลค่า 891 ล้านรูปีอินเดีย (หรือประมาณ 410 ล้านบาท) มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 48 และ 52 ตามลำดับ ซึ่งภายหลังจากการลงนามในข้อตกลงร่วมทุน คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างโรงงานประมาณ 1 ปี ก็จะสามารถเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ได้
Big Bloc Construction Limited (BCL) ก่อตั้งในปี 2558 เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินเดียซึ่งเป็นผู้นำในตลาดอุตสาหกรรมก่อสร้าง ทางตะวันตกของอินเดีย โดยอิฐมวลเบาและแผ่นผนังมวลเบา เป็นวัสดุก่อสร้างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการก่อสร้างได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นวัสดุที่สามารถลดระยะเวลาและต้นทุนในการก่อสร้างได้
“เรามีความยินดีอย่างยิ่งในการร่วมมือกับเอสซีจี ที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นผู้นำเรื่องวัสดุก่อสร้าง ทั้งในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการร่วมกันขยายตลาดวัสดุก่อสร้างและเพิ่มไลน์สินค้าของ Big Bloc เราเชื่อว่าแผ่นผนังมวลเบาที่จะถูกพัฒนาขึ้นจากการร่วมมือกันในครั้งนี้ จะทำให้การก่อสร้างอาคารในอินเดียก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น เพราะสามารถตอบโจทย์ทั้งเรื่องของความเร็ว และคุณภาพในการก่อสร้าง นอกจากนี้เรามีความพร้อมอย่างมากในการตอบสนองความต้องการและการเติบโตของตลาดที่จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว” นายนารายัน ซาบู ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บิ๊ก บล็อค คอนสตรัคชั่น จำกัด กล่าว
SCG INTL INDIA โดย เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น มีความมุ่งมั่นในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญด้านการตลาดต่างประเทศ เทคโนโลยีและองค์ความรู้ในธุรกิจก่อสร้าง ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในโครงการร่วมทุนครั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องไปกับเป้าหมายของ เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น ที่ต้องการเป็น ‘The Most Trusted International Business Partner’ ในขณะเดียวกัน BCL ก็ได้ใช้จุดแข็งเรื่องเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น กลุ่มสถาปนิก และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในการต่อยอดและบุกตลาดอุตสากรรมการก่อสร้างของประเทศอินเดียในครั้งนี้เช่นเดียวกัน
“เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ดำเนินธุรกิจภายใต้หลัก ESG (Environment, Social & Good Governance) เราจึงมีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบโซลูชันที่ตอบโจทย์ลูกค้า และต้องการให้ชุมชนในที่ที่เราไปดำเนินธุรกิจมีการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ดังนั้นเราจึงทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยใช้ความรู้และประสบการณ์ของเราในการนำเสนอโซลูชันที่ครบวงจร มากกว่าแค่การขายสินค้าเพียงอย่างเดียว การร่วมทุนกับ Big Bloc ในครั้งนี้เป็นจึงก้าวสำคัญอย่างมากของเอสซีจี ที่จะเข้าสู่ตลาดโซลูชันการก่อสร้างในประเทศอินเดีย ซึ่งในประเทศไทยนั้นมีการใช้แผ่นผนังมวลเบาอย่างแพร่หลาย สะท้อนประโยชน์ที่มากมายในการก่อสร้างอาคาร เช่น ช่วยลดระยะเวลาในการก่อสร้าง ลดการใช้แรงงาน และเป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การร่วมทุนครั้งนี้จึงเป็นการร่วมมือที่แข็งแกร่ง เพราะได้ใช้จุดแข็งของแต่ละบริษัทเข้ามาพัฒนาโปรเจคนี้ร่วมกัน” นายอบิจิต ดัดต้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าว
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด