เจาะ 5 เทรนด์ Web3 ที่กระแสมาแรงในปีนี้ | Techsauce

เจาะ 5 เทรนด์ Web3 ที่กระแสมาแรงในปีนี้

เมื่อตลาดอยู่ในช่วงขาลง เรามักจะได้ยินเสมอว่า “คริปโตถึงกาลอวสานแล้ว” แต่แท้จริงแล้ว ราคาคริปโตไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวที่บ่งชี้ถึงภาวะของอุตสาหกรรมคริปโต เพราะในปีที่ผ่านมาความสนใจ การลงทุน และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เทรนด์ต่างๆ ในตลาดปัจจุบันยังสะท้อนถึงทิศทางที่ดีขึ้นของการพัฒนาอุตสาหกรรมคริปโต ซึ่งอาจเป็นการปูทางสู่ช่วงเวลาของตลาดกระทิงในอนาคตอันใกล้นี้


1. องค์กรต่างๆ กำลังลงทุนในคริปโต

ในปีที่ผ่านมา บริษัทผู้ทรงอิทธิพลกว่า 40 แห่ง เช่น Google, Microsoft และ Blackrock ได้ประกาศการลงทุนใน Web3 และมีแนวโน้มว่าจะมีรายชื่อบริษัทอื่นๆ เพิ่มขึ้นตามมาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทเหล่านี้ได้ทุ่มเงินเกือบ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในการพัฒนาสตาร์ทอัพและโครงการด้านบล็อกเชน พร้อมมองเห็นถึงความสำคัญของแนวคิด “การช้อนซื้อเมื่อราคามีการปรับตัวลดลง (buy the dip)” ซึ่งเห็นได้จากการที่พวกเขาพยายามมองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ และส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการด้านนวัตกรรม พร้อมผลักดันบริษัทสู่การเป็นผู้นำเพื่อสร้างคุณค่าระยะยาวให้แก่แบรนด์และลูกค้าของตนเองผ่าน Web3 นั่นเอง

2. ธุรกิจ B2C ยุคใหม่คือการซื้อ ขาย จ่าย ด้วย Web3

ทั้งนี้ บริษัทต่างๆ ไม่เพียงทุ่มเงินมหาศาลในการลงทุนด้าน Web3 เท่านั้น หากแต่ยังสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าผ่านการนำเสนอบริการด้วย Web3 อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น Fidelity, Goldman Sachs และ Blackrock ที่กำลังนำเสนอบริการซื้อขายบิตคอยน์กับลูกค้าของพวกเขา ด้านแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง McDonalds และ Mastercard ก็ได้ประกาศเปิดระบบให้ลูกค้าสามารถชำระค่าสินค้าและบริการด้วย BTC และเหรียญคริปโตเคอเรนซีอื่นๆ แล้วในบางประเทศ ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องในการผลักด้นการใช้คริปโต เนื่องจากการชำระเงินด้วยคริปโตเป็นหนึ่งในวิธีการใช้งานที่เข้าใจง่ายที่สุดและสามารถทำได้ทันที

3. นานาประเทศกำลังเปิดรับคริปโต

การปฏิวัติของ Web3 ได้รับการตอบรับไม่ใช่แค่ในระดับองค์กรเท่านั้น แต่รวมถึงในระดับประเทศด้วย โดยประเทศญี่ปุ่น บาห์เรน ไนจีเรีย และโดมินิกา ต่างเล็งเห็นถึงโอกาสทั้งในเชิงเศรษฐกิจและวัฒนธรรมจากคริปโตซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชากรภายในประเทศ ตั้งแต่การสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยี การประกอบกิจการ ตลอดจนโครงการที่สร้างสรรค์และการเชื่อมต่อสังคมเข้าด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น ธนาคารกลางญี่ปุ่นเตรียมทดสอบการใช้งานเยนดิจิทัล ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ช่วยผลักดันการริเริ่มใช้สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC)  และสำหรับประเทศตุรกี Binance ได้ส่งมอบเหรียญ BNB (Airdrop) มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้แก่ผู้ใช้งาน Binance ทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด เป็นต้น

4. Web3 ช่วยเปิดประตูบานใหม่ให้โลกความบันเทิงและการมีส่วนร่วมของชุมชน

การนำเทคโนโลยี Web3 มาประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมบันเทิงถือเป็นการเพิ่มตัวเลือกในการสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ตลอดจนปูทางไปสู่อนาคตที่เนื้อหาความบันเทิงจะมีความสมจริง เฉพาะเจาะจง และโต้ตอบสื่อสารได้มากกว่าเดิม อีกทั้งเทคโนโลยีนี้ยังส่งผลให้เกิดการพลิกโฉมรูปแบบของผลตอบแทน (incentive) ลิขสิทธิ์ของเจ้าของผลงาน และช่องทางการสร้างรายได้ผ่าน NFT อีกด้วย

ทั้งนี้ แบรนด์ระดับตำนานเริ่มนำเทคโนโลยี Web3 มาประยุกต์ใช้นอกเหนือไปจากการรับชำระเงินหรือซื้อขายทั่วไปด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น Starbucks ที่เริ่มใช้งาน NFT กับสมาชิก ในขณะที่ Coca-cola, LG, Reddit และ eBay ได้เริ่มประกาศเปิดตัวโครงการ NFT ใหญ่ๆ ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ จากงานวิจัยล่าสุดของบริษัทดีลอยท์เผยว่า NFT ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาจะสร้างเม็ดเงินกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2022 โดยในช่วงฟุตบอลโลกที่ผ่านมา ฟีฟ่าหรือองค์กรฟุตบอลระดับโลกได้สร้างบัญชีและแพลตฟอร์ม NFT ร่วมกับ Algorand ผู้พัฒนาเครือข่ายบล็อกเชน เพื่อให้แฟนฟุตบอลโลกได้เป็นเจ้าของโมเมนท์สำคัญที่เกิดขึ้นในรูปแบบ NFT นอกจากนี้ แบรนด์สินค้ากีฬาสุดไอคอนิกอย่าง “Nike” ยังได้ประกาศเปิดตัวคอลเลกชันของสะสมแบบดิจิทัลให้ลูกค้าที่สนใจด้วยเช่นกัน โดย Dune Analytics เปิดเผยว่าสินค้าดังกล่าวของไนกี้ซึ่งอยู่ในรูปแบบ NFT กวาดรายได้ไปแล้วกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว

5. นวัตกรรมคริปโตและการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง 

การพัฒนา Web3 และการประกอบกิจการในอุตสาหกรรมยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องแม้ตลาดจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม โดยในปี 2022 บรรดาบริษัทธุรกิจเงินร่วมลงทุนได้ทุ่มเงินกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเพื่อดำเนินโครงการ คริปโตใหม่ๆ โดยกว่า 4,000 โครงการนั้นได้สร้างความตื่นตัวให้กับชุมชนนักลงทุน พร้อมทั้งยังมีโครงการที่มีความสามารถหรือศักยภาพในการใช้งานจริงเข้าสู่ตลาดในปีที่ผ่านมาอีกด้วย ซึ่ง Binance เองก็ได้เล็งเห็นโอกาสอันมหาศาลจากการช่วยพัฒนา Web3 จึงได้เดินหน้าลงทุนในโครงการนวัตกรรมคริปโตอย่างไม่หยุดยั้ง รวมถึงการร่วมเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ดังที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ที่สามารถเพิ่มอิสรภาพทางการเงินของผู้คนทั้งการฝากเพื่อผลตอบแทน ถือครอง ใช้จ่าย และแจกจ่าย เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจของ Binance ในการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานในการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก ซึ่งการเติบโตและการพัฒนาในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรม แม้สภาวะตลาดจะอยู่ในช่วงขาลงก็ตาม


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ดีอี ผนึก ‘อว.- ศธ.’ ร่วมมือ UNESCO นำเวที UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025

ประเทศไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพงาน “UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ภายใต้แนวคิด “Ethical Governance of AI in Motion” ย้ำบทบาทผู้นำจริยธรรม AI ระดั...

Responsive image

เสริมสร้างความร่วมมือไทย-ฟินแลนด์ ศึกษาดูงานและขยายโอกาสนวัตกรรม

รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศและเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ นำคณะผู้แทนไทยศึกษาดูงานที่ฟินแลนด์ เพื่อกระชับความร่วมมือด้านนวัตกรรม พลังงานหมุนเวียน และเศรษฐกิจหมุนเวียน...

Responsive image

ไทยพบเอสโตเนีย แลกเปลี่ยนมุมมองรัฐบาลดิจิทัล ศึกษาต้นแบบ e-Government

ไทยเปิดใจเรียนรู้จากเอสโตเนีย ระบบ e-Government ที่ประชาชนไว้วางใจ...