ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ซีอีโอ เอสซีบี อบาคัส ร่วมให้แนวคิดผู้แทนนักเรียนไทย เตรียมสู้ศึกโอลิมปิกวิชาการระดับนานาชาติ ในงาน “3 ทศวรรษ น้ำพระทัยสมเด็จเจ้าฟ้าสู่โอลิมปิกวิชาการ”
ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด (SCB Abacus) ในฐานะอดีตผู้แทนนักเรียนไทยที่เคยเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระดับนานาชาติ ร่วมเสวนา “โอลิมปิก ทอล์ก” (Olympic Talk) ในงาน “3 ทศวรรษ น้ำพระทัย สมเด็จเจ้าฟ้าสู่โอลิมปิกวิชาการ” ที่เปิดโอกาสให้อดีตผู้แทนนักเรียนไทยรุ่นพี่ทั้ง 5 ท่านที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับในหลากหลายสาขาอาชีพ มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ การเข้าสู่โครงการโอลิมปิกวิชาการ ความสำเร็จในชีวิต ความภาคภูมิใจ
พร้อมแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้จากการเข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อเป็นแนวคิดให้กับกลุ่มผู้แทนนักเรียนไทยสามารถนำไปใช้พัฒนาศักยภาพของตนเอง และเตรียมความพร้อมสู่การแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระดับนานาชาติทั้ง 8 สาขาวิชา ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด อดีตผู้แทนนักเรียนไทยที่เคยไปแข่งขันเคมีโอลิมปิกระหว่างประเทศ (ICho) ครั้งที่ 23 และในปีพ.ศ. 2550 ได้แบ่งปันประสบการณ์สำคัญภายใต้หัวข้อ ชัยชนะไม่ใช่ทุกสิ่ง ‘Winning isn’t Everything’ ว่า “โลกใบนี้ผู้ชนะเท่านั้นที่จะถูกจดจำ หลายๆ คนคงจะทราบกันดีว่า ยอดเขาเอฟเวอเรสต์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก แต่ใครบ้างที่จะรู้จักยอดเขาเคทู (K2) ที่มีความสูงเป็นอันดับที่ 2 ทั้งๆ ที่ยอดเขานี้มีความสูงน้อยกว่ายอดเขาเอฟเวอเรสต์เพียง 200 เมตรเท่านั้น”
“ครั้งหนึ่งดิฉันได้มีโอกาสได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน ผู้นํารุ่นใหม่จากสถาบัน Asia Society โดยคัดเลือกมาจากผู้นำที่มีความโดดเด่นทั่วโลกมารวมตัวกันที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งหนึ่งในข้อคิดสำคัญที่ได้จากงานนั้นคือคำถามสำคัญในการรับคนเข้าทำงานของผู้บริหารระดับสูงของหนึ่งในบริษัทที่รับคนเข้าทำงานยากที่สุดในโลกที่ว่า “คุณเคยเป็นที่ 1 เรื่องอะไรบ้างในชีวิตที่ผ่านมา” ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนมักจะจำได้แต่ชัยชนะของตนเอง แต่ที่จริงแล้วคนที่เป็นที่ 2 จะจำความรู้สึกนั้นได้ชัดเจนกว่า เพราะหลังจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เขาจะกลับไปทบทวนถึงบทเรียนที่ได้รับ และเห็นถึงจุดอ่อน เพื่อจะนำมาพัฒนาตนเองในอนาคต” ดร.สุทธาภากล่าวต่อ
“ซึ่งความผิดหวังครั้งแรกของดิฉันเกิดขึ้นในวัย 16 ปี ในขณะที่ร่วมแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระดับนานาชาติ ซึ่งในช่วงของการสอบภาคปฏิบัติ ดิฉันมีปัญหากับการใช้อุปกรณ์ที่ไม่คุ้นเคย ทำให้ดิฉันเสียเวลาไปกับการหาวิธีใช้งานค่อนข้างนาน และทำให้ผลสอบในวันนั้นไม่เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น บทเรียนที่ได้คือ “สติ” เป็นสิ่งสำคัญ
หลังจากวันนั้นมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ดิฉันต้องทำการสอบ แข่งขัน หรือเริ่มต้นงานใหม่ๆ ก็ได้สติที่ทำให้ผ่านพ้นมาได้เพราะฉนั้นเวลาที่ดิฉันสัมภาษณ์คนเพื่อร่วมงานด้วย ดิฉันจะไม่มองหาคนที่เป็นที่ 1 แต่มักจะถามว่าอะไรคือจุดล้มเหลวของคุณ และคุณแก้ไขมันอย่างไร เพราะฉนั้นอย่ากลัวที่จะพ่ายแพ้ให้ลองสู้และเรียนรู้จากสิ่งเหล่านั้น” ดร.สุทธาภากล่าวปิดท้าย
กิจกรรม “3 ทศวรรษ น้ำพระทัย สมเด็จเจ้าฟ้าสู่โอลิมปิกวิชาการ” จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และมูลนิธิส่งเสริม โอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษาในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (สอวน.) รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ( สพฐ.) ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทั้ง 2 พระองค์ทรงทรงให้ความอนุเคราะห์ สนับสนุนโครงการฯมาโดยตลอด โดยในวันงานได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดงานอย่างเป็นทางการอีกด้วย
ซึ่งนอกเหนือจากการเสวนา “โอลิมปิก ทอล์ก” ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรม Olympic Think Tank ชมห้องเรียนจำลองโอลิมปิกวิชาการ 8 สาขาวิชา เสวนาวิชาการ มายาคติของการศึกษาและเคล็ดลับการเรียนที่ถูกต้องสำหรับวัยรุ่นไทย การแข่งขัน Mini Science & Math Olympiad รอบสุดท้าย เสวนาวิชาการ เด็กไทยยุคใหม่ เก่ง ดี มีความสุข กิจกรรมมหาวิทยาลัยเด็ก กิจกรรมจากศูนย์โรงเรียนและมหาวิทยาลัยในการขยายผลโครงการโอลิมปิกวิชาการ รวมถึงนิทรรศการและกิจกรรมวิชาการอีกมากมาย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด