CIBA_มธบ.เปิดผลวิจัยปัจจัยกระทบต่อราคาหุ้น IPO พร้อมปัจจัยสาเหตุ | Techsauce

CIBA_มธบ.เปิดผลวิจัยปัจจัยกระทบต่อราคาหุ้น IPO พร้อมปัจจัยสาเหตุ

CIBA_มธบ. เปิดเผยผลการศึกษาถึง “ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาหุ้นในการเสนอขายครั้งแรก (IPO Underpricing) ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” อะไรบ้างที่ส่งผลกระทบจาก “กลไกภายนอก” และ “กลไกภายใน” ก่อนนำไปสู่การวางแผนทางธุรกิจและนำไปใช้ในการตัดสินใจในการลงทุน

ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยว่า หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการบัญชี วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เน้นผลิตนักวิจัยทางด้านบัญชีที่มีมุมมองด้านเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงเน้นให้นักศึกษาปริญญาเอกทำวิจัยงานเกี่ยวกับบัญชีที่จะแก้ปัญหาหรือมีประเด็นต่างๆที่จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม ยกตัวอย่างเช่น หัวข้อวิจัย “ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาหุ้นในการเสนอขายครั้งแรก (IPO Underpricing)ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” โดยนางสาว รักชนก สำเนียงล้ำ นักศึกษาปริญญาเอกของเรา ซึ่งนำประสบการณ์ในการเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ และนำปัญหาที่พบในการทำงานมาค้นคว้าวิจัยหาคำตอบว่ามีปัจจัยใดบ้างที่มีผลกระทบต่อราคาของหุ้นไอพีโอ เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาจะพบว่ามีบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์จำนวนมาก ดังนั้น ไอพีโอของประเทศไทยจึงเติบโตตามไปด้วย แต่ตลาด MAI (Market for Alternative Investment ) กับตลาด SET(Stock Exchange of Thailand) จะมีความต่างกัน ปัจจัยที่สัมพันธ์กับราคาหุ้นก็ต่างกัน จึงเป็นที่มาของการศึกษางานวิจัยชิ้นนี้  ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งผลงานวิจัยที่จะช่วยในการวางแผนทางธุรกิจและนำไปใช้ในการตัดสินใจลงทุนให้กับนักลงทุนในตลาดหุ้นได้

ด้าน คุณรักชนก สำเนียงล้ำ เปิดเผยว่า การศึกษาในหัวข้อ “ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาหุ้นในการเสนอขายครั้งแรก (IPO Underpricing)ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” ในครั้งนี้เพื่อวิเคราะห์ลักษณะกลไกภายนอกบริษัท และลักษณะกลไกภายในบริษัทที่มีผลต่ออิทธิพลต่อราคาหุ้นในการเสนอขายครั้งแรก (IPO Underpricing)ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงการวิเคราะห์ ความสัมพันธ์ในทิศทางต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อการเกิด IPO Underpricing ซึ่งมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการลงทุนในด้านการเจริญเติบโตของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย ในช่วงปี 2557-2561

สำหรับเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษามาจากประชากร คือ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหลักทรัพย์ใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกในระหว่างปี 2557 – 2561 จำนวน 81 บริษัท แบ่งเป็นประเภทของกลุ่มอุตสาหกรรม 8 กลุ่มอุตสาหกรรม

ผลจากการศึกษาสะท้อนให้เห็นได้ว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อราคาหุ้นIPO ซึ่งแบ่งออกเป็น “กลไกภายนอก” และ “กลไกภายใน” โดยในส่วนของ “กลไกภายนอก” มี 6  ปัจจัยสำคัญที่อาจจะมีอิทธิพลต่อการกำหนดราคาต่ำกว่ามาตรฐาน  ได้แก  

1. ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์    

2. จำนวนผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์  

3. ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA)     

4. ผู้ตรวจสอบบัญชี (Audit)  

5. ช่วงเวลาการนำหุ้นเสนอขายครั้งแรกแก่ประชาชนทั่วไป  

6. วิธีการกำหนดราคาขายหุ้นสามัญ

ส่วน “กลไกภายใน” ที่มีผลกระทบต่อราคาหุ้นมีผลกระทบต่อราคาหุ้น มีด้วยกัน  6   ปัจจัยที่อาจจะมีอิทธิพลต่อการกำหนดราคาต่ำกว่ามาตรฐาน ได้แก่ 

1. อัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ย้อนหลัง 3 ปีก่อนเข้าตลาด)  

2. อัตราการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA)(ย้อนหลัง 3 ปีก่อนเข้าตลาด)  

3. อัตราการเติบโตของยอดขาย(ย้อนหลัง 3 ปีก่อนเข้าตลาด)  

4. สัดส่วนผู้ถือหุ้นแบบกระจายตัวและสัดส่วนผู้ถือหุ้นแบบกระจุกตัว 

5. ความสัมพันธ์ทางการเมืองของประธานบริษัทมีอิทธิพลต่อการกำหนดราคาต่ำกว่ามาตรฐานในการเข้าตลาดครั้งแรก (IPO Underpricing) 

6. ผู้ตรวจสอบภายใน IA

คุณรักชนก กล่าวว่า ผลจากการศึกษาในครั้งนี้ สามารถนำไปปรับใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ในหลายทาง ได้แก่ 

1. สำนักงานคณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สามารถนำข้อมูลมาใช้ในการควบคุมบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเรื่องของการกำหนดราคาหลักทรัพย์ IPO ของแต่ละบริษัทมีถูกต้อง เหมาะสม และมีความน่าเชื่อถือ ก่อนที่จะเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่ประชาชน ทั้งยังเป็นการเพิ่มเสถียรภาพ ประสิทธิภาพ ความมั่นคงให้กับองค์กร

2. บริษัทต่างๆ สามารถนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาองค์การของตนเองในด้านต่างๆ อาทิ แหล่งเงินทุนในการพัฒนาหรือขยายธุรกิจรวมทั้งเป็นการวางแผนบริหารภายในและภายนอกของบริษัทเพื่อใช้ในการตัดสินใจในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

3. นักลงทุนสามารถนำข้อมูลที่ได้จากการศึกษาและวิเคราะห์ไปกำหนดทิศทางการลงทุนให้ทันต่อสถานการณ์ รวมทั้งสามารถใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจในการลงทุนในหลักทรัพย์ IPO

4. ประชาชนทั่วไป นักศึกษา นักวิชาการ และผู้ที่สนใจในการศึกษาสามารถนำข้อมูลไปเป็นแนวทางพัฒนาองค์ความรู้ต่อไปในอนาคต

ในภาพรวมแล้วประโยชน์จะเกิดขึ้นทั้งกับบริษัทที่ต้องการหาแหล่งเงินทุนในการพัฒนาหรือขยายธุรกิจสามารถนำผลการศึกษาในครั้งนี้สามารถไปใช้ในการวางแผนในการเตรียมตัวนำบริษัทเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่นักลงทุนสามารถนำผลการศึกษาในครั้งนี้ไปใช้ในการวิเคราะห์ เพื่อตัดสินใจในการลงทุนในหลักทรัพย์ IPO ของตลาดหลักทรัพย์ได้


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เปิดตัว 7 สตาร์ทอัพ FinTech ในงาน Money20/20 Asia เสริมแกร่งอุตสาหกรรมการเงินในภูมิภาค

Money20/20 Asia ผู้จัดงานงานฟินเทคโชว์สุดยิ่งใหญ่เปิดตัวบริษัทสตาร์ทอัพทั้ง 7 ที่เชื่อว่าจะผลักดันพร้อมปฏิวัติโลกของการเงิน...

Responsive image

Betagro เปิดตัว Betagro Ventures ตั้งกองทุนหนุนสตาร์ทอัพ สาย FoodTech & AgriTech

“BTG” เปิดตัว “Betagro Ventures” มุ่งบ่มเพาะและพัฒนาธุรกิจ “FoodTech & AgriTech” พร้อมเดินหน้าลงทุนสตาร์ทอัพ ผ่านกองทุน 30 ล้านเหรียญสหรัฐ สร้างโอกาสเติบโตที่ยั่งยืน...

Responsive image

หัวเว่ย จัดประชุม Huawei Digital and Intelligent APAC Congress ยุคเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในเอเชียแปซิฟิก

หัวเว่ย และ มูลนิธิอาเซียน (ASEAN Foundation) ร่วมจัดการประชุม Huawei Digital and Intelligent APAC Congress...