Dealcha! (www.dealcha.com) บริษัทสตาร์ทอัพอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทยซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2015 และประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับเงินลงทุนเพิ่มจาก 500 TukTuks, Solera Investment, NextTech และ Angel Investor โรเบิร์ต ลอมนิทซ์ จาก Bangkok Venture Club เพื่อผลักดันร้านค้าออนไลน์ให้เติบโตต่อ
เซบาสเตียน เลอ บิยอง (CMO) มีพร ไชยูปถัมภ์ (CEO) ปฏิวัติ เซ่งไพเราะห์ (COO) และดนัย ชาง (CPO)
มีพร ไชยูปถัมภ์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Dealcha.com เว็บไซต์แคชแบ็กแห่งแรกของประเทศไทยที่มอบส่วนลดจากร้านค้าออนไลน์กว่า 100 ร้านแก่สมาชิก กล่าวว่า เป้าหมายของ Dealcha! Cashback Website คือการเป็นศูนย์รวมร้านค้าออนไลน์ที่มอบสิทธิประโยชน์พิเศษให้แก่กลุ่มนักช็อปปิ้งออนไลน์ และดีลช่าก็ได้ช่วยสนับสนุนร้านค้าอีคอมเมิร์ซและ SME ต่างๆ ที่ต้องการจะเพิ่มยอดขายสินค้าและสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งบริการลักษณะนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในอาเซียนมากนัก แต่บริการแคชแบ็กเว็บไซต์ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปนั้น ถือว่าประสบความสำเร็จมากทีเดียว
“ในช่วงแรกที่ Dealcha! Cashback Website เปิดตัวในประเทศไทย ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อว่า พวกเขาจะสามารถได้รับ ‘เงินคืน’ ฟรีๆ จากการช็อปปิ้งออนไลน์ แต่นั่นยิ่งผลักดันให้เราค้นหาตัวเลือกส่วนลดจากร้านค้าต่างๆ เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของนักช็อปออนไลน์ให้ได้มากที่สุด เช่น กิจกรรม หรือ Co-campaign ร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่าง dtac Rewards โดยเราจะมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าดีแทคทั้งในระบบเติมเงินและรายเดือน หรือกิจกรรม ‘ช็อปออนไลน์สุดคุ้มด้วยบัตรเครดิต KTC’ ซึ่งผู้สมัครสมาชิกดีลช่า! จะได้รับเครดิตเงินคืน 100 บาทฟรีๆ เมื่อใช้จ่ายผ่าน www.dealcha.com นอกจากนั้นแล้ว เรายังได้เป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ระดับโลกที่อยากจะขยายตลาดในไทยให้กว้างขึ้น อย่างเช่น Nike Official Store”
Dealcha! Cashback Website ให้บริการเงินคืนออนไลน์แก่สมาชิก โดยที่ลูกค้าจะยังได้รับส่วนลด ใช้สิทธิ์คูปอง หรือใช้ร่วมกับโปรโมชันของบัตรเครดิตได้ ขั้นตอนการรับเงินคืนก็ไม่ซับซ้อน เพียงแค่ให้สมาชิกเลือกร้านค้าจากหน้าเว็บไซต์ Dealcha.com และเมื่อคุณสั่งซื้อสินค้าเสร็จสิ้น ทาง Dealcha! จะคืนเงินส่วนหนึ่งจากราคาสินค้าทั้งหมดให้กับคุณในรูปแบบเงินสด
Dealcha! จะได้รับค่าคอมมิชชันจากร้านค้าที่ร่วมรายการ เมื่อมีสมาชิกซื้อสินค้าผ่านหน้าเว็บไซต์ Dealcha! ซึ่ง Dealcha! ได้แบ่งค่าคอมมิชชันส่วนนั้นออกมา แล้วมอบให้กับสมาชิกเป็นแคชแบ็ก หรือเงินคืนนั่นเอง
“Dealcha! เป็นธุรกิจแบบ win-win ทั้งสำหรับลูกค้าและเว็บไซต์ e-commerce” ดนัย ชาง หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและ Director of Business Development ของ Dealcha! กล่าว
“เราจะเห็นร้านค้า e-commerce ทั้งใหม่และเก่าพยายามตีตลาดออนไลน์มากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นจุดที่เราจะเข้ามามีบทบาททันที เช่น พาร์ทเนอร์ยักษ์ใหญ่ของเราอย่าง Central Group ที่ถึงแม้ว่าจะครองตลาดห้างสรรพสินค้าในไทยไปได้แล้ว แต่ก็ยังต้องการเพิ่มเป้ายอดขายในตลาดออนไลน์ จากเดิม 1% เป็น 15% เลยทีเดียว”
นักช็อปออนไลน์ไทยมากกว่า 50% นิยมซื้อสินค้าผ่านตัวแทนร้านค้าอย่าง Lazada, Konvy, Shopat24 และ Central ในขณะที่การซื้อผ่านเว็บไซต์แบรนด์สินค้าโดยตรง กลับมีสัดส่วนไม่ถึง 25% โดยตลาด e-commerce ในไทยนับว่าไม่แตกต่างจากตลาดอาเซียนอื่นๆ มากนัก เช่น ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย เวียดนาม
เซบาสเตียน เลอ บิยอง หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและ CMO ของ Dealcha! กล่าวเพิ่มว่า
“ในปี 2016 ตลาด e-commerce ประเทศไทยสร้างรายได้กว่า 80 ล้านบาท และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในหมวดหมู่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์, ของเล่น, เฟอร์นิเจอร์, แฟชัน และอาหาร ในส่วนของ Dealcha! เองนั้น ก็ยังมีอัตราการเติบโตสูงถึง 30% ต่อเดือน และเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาไปพร้อมๆ กับตลาดในไทย พร้อมผลักดันให้ลูกค้าคุ้นเคยกับการช็อปปิ้งรูปแบบใหม่ได้เร็วขึ้น”
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด