Dell เผยข้อมูลเชิงลึกช่วยองค์กรธุรกิจทั่วเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นเคลื่อนผ่านการทำงานแบบ Hybrid | Techsauce

Dell เผยข้อมูลเชิงลึกช่วยองค์กรธุรกิจทั่วเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นเคลื่อนผ่านการทำงานแบบ Hybrid

ผู้เชี่ยวชาญชี้ 3 กุญแจหลักเพื่ออนาคตการทำงานแบบไฮบริด (hybrid work future) ที่ประสบความสำเร็จและยั่งยืน ประกอบด้วย ความเป็นผู้นำ (Leadership) การวางโครงสร้างที่ดี (Structure) และวัฒนธรรมภายใน (Culture)

Dell

Dell Technologies เผยข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น (APJ) นำพาทีมมุ่งไปสู่อนาคตของรูปแบบการทำงานแบบไฮบริด (hybrid work future) รายงานที่ชื่อว่า Leading the Next Hybrid Workforce นี้เผยข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อเสริมรายละเอียดเพิ่มเติมต่อยอดจากผลลัพธ์ที่ได้จากงานวิจัยดัชนีชี้วัดความพร้อมของการทำงานจากระยะไกล หรือ Remote Work Readiness (RWR) Index ที่เปิดเผยไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

รายงานฉบับนี้มุ่งศึกษาบทบาทขององค์กรธุรกิจในการออกแบบอนาคตของการทำงานในรูปแบบไฮบริด รวมทั้งยังรวบรวมข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ พร้อมทั้งคำแนะนำที่มาจากผู้เชี่ยวชาญสี่คน ได้แก่ ดร.จูเลียน วอเตอร์ส-ลินช์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัย RMIT ประเทศออสเตรเลีย รวมถึง โรเชลล์ คอปป์ ที่ปรึกษาด้านการจัดการประเทศญี่ปุ่น ดร.ราชิมา ราจา อาจารย์ผู้บรรยายจาก National University of Singapore (NUS) ประเทศสิงคโปร์  และ มัลลอรีย์ ลูน ผู้ร่วมก่อตั้ง Work Inspires ในประเทศมาเลเซีย

“ด้วยรูปแบบการทำงานในปัจจุบันที่ไม่ได้ยึดติดอีกต่อไปกับทั้งสถานที่และช่วงเวลา องค์กรธุรกิจต้องหันมาให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่ได้ รวมทั้งต้องมีความพร้อมในการที่จะเข้าไปช่วยพนักงานให้ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของการเป็นมืออาชีพและทั้งในบทบาทส่วนตัวอย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะทำงานจากที่ใดก็ตาม ในขณะที่พนักงาน 8 ใน 10 คนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งประเทศญี่ปุ่นแสดงความพร้อมสำหรับการทำงานแบบรีโมท เวิร์กในระยะยาว แต่ก็ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข” นายนพดล ปัญญาธิปัตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าว “ในเวลาที่เราก้าวเข้าสู่อนาคตของการทำงาน เราหวังว่าข้อมูลเชิงลึกและการเรียนรู้ต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้องค์กรสามารถ กำหนดรูปแบบพนักงานแบบไฮบริดที่พร้อมสำหรับทุกความต้องการทางธุรกิจได้”

รายงานเชิงลึก Leading the Next Hybrid Workforce ของเดลล์ เทคโนโลยีส์ สรุปภาพของสิ่งสำคัญหลักสามประการที่องค์กรธุรกิจต้องให้ความสำคัญเนื่องจากทั้งสามนี้วางเรียงเป็นรากฐานสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จและความยั่งยืนของการตระเตรียมการทำงานแบบผสมผสานหรือไฮบริด เวิร์ก ซึ่งได้แก่ ความเป็นผู้นำ (Leadership) โครงสร้างที่ดี (Structure)และวัฒนธรรมภายใน (Culture)

ความตั้งใจมุ่งมั่น 1: นำองค์กรด้วยการเอาใจใส่และตั้งใจ

ผู้เชี่ยวชาญทั้งสี่คนต่างเน้นย้ำว่าผู้นำ คือผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการประกอบและหลอมรวมชิ้นส่วนต่างๆ ของอนาคตการทำงานแบบไฮบริดเวิร์กเข้าด้วยกัน ผู้นำจำเป็นต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานและการเปลี่ยนแปลงเชิงนวัตกรรมขึ้นภายในองค์กรอย่างชัดเจนเพื่อการเดินหน้าต่อไป กระนั้นยังแสดงออกถึงการเอาใจใส่และความเห็นอกเห็นใจต่อการพยายามที่พนักงานอาจเผชิญอยู่ อาทิ การขาดการสื่อสารแบบตัวต่อตัว ตลอดไปจนถึงเส้นแบ่งที่ลางเลือนระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว

นอกจากนี้ ผู้นำยังต้องพยายามสร้างความไว้วางใจกับพนักงานและยอมรับทัศนคติ (mindset) ที่ขับเคลื่อนด้วยผลลัพธ์เพื่อหลีกเลี่ยงการตกหลุมพรางของการจัดการที่เรียกว่าไมโครแมเนจเม้นต์ หรือการบริหารจัดการที่จับตามองในทุกรายละเอียดปลีกย่อย

ความตั้งใจมุ่งมั่น 2: การสร้างโครงสร้างการทำงานแบบไฮบริดโดยไตร่ตรอง

ในปัจจุบัน องค์กรธุรกิจไม่สามารถเข้าถึงไฮบริด เวิร์กจากเพียงจุดยืนด้านการบริหารจัดการและด้านเทคนิคแล้วใช้รูปแบบ one-size-fits-all ได้ ในทางกลับกัน นายจ้างจำเป็นต้องใช้เวลาในการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับความชอบของพนักงานและความจำเป็นในการให้ความช่วยเหลือเพื่อให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการสภาพแวดล้อมการทำงานจากระยะไกล

ในการร่วมกันออกแบบสถานที่ทำงาน (workplace) แบบไฮบริดที่ครอบคลุม ผู้เชี่ยวชาญแนะนำแนะนำให้มีการสื่อสารแบบเปิดเผย (open communication) ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง

โดยผู้เชี่ยวชาญย้ำถึงความจำเป็นในการหาจุดสมดุลระหว่างการทำงานที่ยืดหยุ่นและการมีระบบระเบียบ ที่มาในรูปแบบของเวลาที่ทุ่มเทให้กับการประชุมทีม หรืออื่นๆ ฯลฯ เพื่อรักษาวัฒนธรรมและการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม

ความตั้งใจมุ่งมั่น 3: ทำให้การสร้างวัฒนธรรมเป็นไปโดยรอบคอบ

ผู้เชี่ยวชาญยังเรียกร้องให้มีความพยายามที่รอบคอบมากขึ้นในการสร้างวัฒนธรรมและการเรียนรู้รวมถึงการพัฒนา เพื่อรักษาและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และการทำงานร่วมกัน ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนถึงความเสี่ยงของการแบ่งวัฒนธรรมระหว่างพนักงานที่ทำงานที่บ้าน และพนักงานในสำนักงาน ซึ่งอาจนำไปสู่ความตึงเครียดในพลังการทำงานภายในออฟฟิศและการรับรู้ถึงความไม่สมดุลระหว่างทั้งสองกลุ่ม

ข้อเสนอแนะหนึ่งคือ ให้นายจ้างเปลี่ยนงบประมาณที่ประหยัดจากค่าใช้จ่ายสำนักงานในแต่ละวัน และลงทุนซ้ำในกิจกรรมที่ทุ่มเทและสม่ำเสมอเพื่อการมีส่วนร่วมทางสังคมในหมู่พนักงาน อาทิ การรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันในทีม หรือการฝึกอบรมแบบที่โต้ตอบกันได้ ซึ่งช่วยสร้างโอกาสเพิ่มเติมสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดแบบออร์แกนิก ตลอดจนโอกาสในการส่งเสริมความไว้วางใจและความสัมพันธ์ในการทำงานที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างสมาชิกในทีม

สำหรับข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลดเอกสารข้อมูลเชิงลึก Leading the Next Hybrid Workforce ฉบับเต็มโดย Dell Technologies ได้ ที่นี่ 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

WHA Group ดึงไฮเออร์ลงทุน 10,000 ล้านบาท ตั้งฐานการผลิตในไทย

WHA Group ดึงไฮเออร์ลงทุน ปักหมุดฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศครบวงจรมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาทในไทย ที่นิคมอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด 3...

Responsive image

NITMX เปิดตัว Hack to the Max Digital Infrastructure ชวนคนรุ่นใหม่ร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินดิจิทัลของไทย

NITMX เปิดตัวโครงการ "Hack to the Max: Digital Infrastructure" Hackathon ระดับชาติ เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจนวัตกรรมการเงินดิจิทัล เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเงินของไทยให้ก้าวไก...

Responsive image

SCB ‘Tap To Pay’ รับเงินผ่านบัตรเครดิต-เดบิต ง่ายแค่แตะผ่านแอปฯ ไม่ต้องพึ่งเครื่องรูดบัตร!

ธนาคารไทยพาณิชย์เปิดตัว ‘SCB Tap To Pay’ นวัตกรรมรับชำระเงินที่เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้เป็นเครื่องรับชำระเงินได้ทันที ตอบรับกระแสสังคมไร้เงินสดที่กำลังมาแรง...