DHL Express ผู้นำระดับโลกด้านการขนส่งด่วนระหว่างประเทศในเครือดอยช์โพสต์ DHL เผย 5 ตลาดสำคัญในเอเชียที่ทำการค้าระหว่างประเทศกับไทย และระบุว่า E-Commerce ระหว่างประเทศได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในตลาดใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถสร้างยอดขายให้เติบโตจากการขยายตลาดสู่ประเทศอื่นๆ
จากรายงานของ DHL Express นำเสนอข้อมูลเชิงลึก (Market Insight) 5 ตลาดหลักที่ทำการค้าอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศสูงที่สุดในเอเชีย ได้แก่ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย ดังนี้:
จีน – ตลาด E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยปริมาณการซื้อขายสูงกว่าประเทศอื่นๆ
- เกือบหนึ่งในสี่ (24%) ของผู้ซื้อออนไลน์ในจีนทำการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศในปี 2017 เพิ่มขึ้น 11.5% เมื่อเทียบกับปี 2016
- ผู้บริโภคชาวจีนส่วนใหญ่เชื่อว่าการซื้อสินค้าจากต่างประเทศจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพดีกว่า ข้อเสนอดีกว่า มีความหลากหลายมากกว่า และสินค้าเป็นของแท้
- ลูกค้าชาวจีนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมจากเดิมที่สนใจเรื่องราคาเป็นหลัก มาให้ความสำคัญกับเรื่องของคุณภาพ แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ผู้ซื้อชาวจีนจะยอมรับสินค้าที่มีราคาแพงกว่า ถ้าหากสินค้านั้นมีคุณภาพสูงกว่าและชื่อเสียงของแบรนด์ที่ดีกว่า
อินเดีย – ตลาด E-Commerce ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
- อินเดียมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 462 ล้านคน และมีอัตราการเติบโตของตลาด E-Commerce สูงสุดที่ 51% ต่อปี และ 60% ของการซื้อสินค้าออนไลน์เกิดขึ้นในช่วงเวลาทำการปกติ
- ยอดขาย E-Commerce แบบค้าปลีกในอินเดียคาดว่าจะแตะระดับ 7.94 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2563
- เหตุผลสำคัญที่สุด 3 ข้อที่จูงใจให้ผู้บริโภคชาวอินเดียซื้อสินค้าจากต่างประเทศได้แก่ คุณภาพดีกว่า (42%) ความน่าเชื่อถือ (37%) และข้อเสนอที่ดีกว่า (26%)
- ตลาด E-Commerce ในอินเดียมีการแข่งขันอย่างดุเดือด โดยมีผู้เล่นรายสำคัญในท้องถิ่น เช่น Flipkart, Snapdeal และ Amazon India ที่กำลังแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด
ญี่ปุ่น – ปลายทางยอดนิยมสำหรับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย
- ญี่ปุ่นมีประชากรสูงวัยจำนวนมาก และชาวญี่ปุ่นที่มีอายุเกินกว่า 55 ปีมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเชื่อมต่อออนไลน์
- สินค้าที่สั่งซื้อจากต่างประเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับชาวญี่ปุ่น ได้แก่ หนังสือ ซีดี วิดีโอเกม (27%) เครื่องสำอาง (21%) และเสื้อผ้าและรองเท้า (20%)
- Rakuten, Amazon Japan และ Yahoo Japan Shopping เป็นตลาด E-Commerce ระหว่างประเทศ 3 อันดับแรกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
- โดยทั่วไปแล้วนักช้อปชาวญี่ปุ่นไม่ชอบความเสี่ยง และมักจะมองหาแบรนด์ที่ตนเองรู้จักและไว้ใจ อัตราการคืนสินค้าต่ำและการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยมเป็นสิ่งที่ลูกค้าชาวญี่ปุ่นคาดหวังว่าจะได้รับจากการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์
เกาหลีใต้ – ตลาด E-Commerce ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
- การซื้อสินค้าออนไลน์ภายในประเทศยังคงสร้างรายได้อีคอมเมิร์ซมากที่สุดให้กับเกาหลีใต้ แต่ E-Commerce ระหว่างประเทศก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน
- จากการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ ชาวเกาหลีใต้พบว่าหลังจากที่รวมค่าขนส่งและภาษีนำเข้าของสินค้าแล้ว สินค้ายังคงมีราคาถูกกว่าที่ซื้อจากเว็บไซต์ในประเทศ ทั้งนี้คาดว่าใน 2-3 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคชาวเกาหลีที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
- 60% ของชาวเกาหลีที่มีอายุระหว่าง 20 ถึง 29 ปี ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์หลักในการซื้อสินค้าออนไลน์
- Amazon และ eBay เป็นตลาด E-Commerce ต่างประเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากผู้บริโภคชาวเกาหลีใต้
ฮ่องกง – โอกาสที่ดีสำหรับตลาด E-Commerce
- นักช้อปออนไลน์ในฮ่องกงคาดหวัง 3 สิ่งจากการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ ได้แก่ ค่าจัดส่งฟรี ความสะดวกที่ได้รับจากการสั่งซื้อสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลา และส่วนลดพิเศษสำหรับการซื้อทางออนไลน์
- 48% ของประชากรฮ่องกงอ่านรีวิวเกี่ยวกับสินค้าทางออนไลน์ก่อนที่จะตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าออนไลน์
- มีนักช้อปออนไลน์ในฮ่องกงเพียง 38% เท่านั้นที่ระบุว่าตนเองรู้สึกพึงพอใจในมาตรฐานการให้บริการ ดังนั้นผู้ค้าออนไลน์จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นหากนำเสนอบริการทางออนไลน์ได้อย่างดีเยี่ยม
“ E-Commerce ระหว่างประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ลูกค้าคาดหวังว่าจะได้รับสินค้าตามต้องการ ทุกที่ ทุกเวลา ตลาดในเอเชียแปซิฟิก เช่น จีน และอินเดีย มีจำนวนนักช้อปออนไลน์ระหว่างประเทศมากที่สุดในโลก และผู้ประกอบการไทยก็ต้องการตัวเลือกด้านบริการจัดส่งสินค้าที่ยืดหยุ่นและไว้ใจได้เพื่อเพิ่มส่วนต่างกำไรและส่วนแบ่งตลาด” คุณปาริชาติ ประมุขกุล รองประธานฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “DHL Express มุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในประเทศสำหรับการสร้าง Ecosystem ที่มีความคล่องตัว และสามารถขยายตลาดสู่ต่างประเทศได้อย่างง่ายดาย โดยล่าสุดได้เปิดตัว iExpressByDHL แพล็ตฟอร์มการขนส่งสินค้าด่วนระหว่างประเทศที่สามารถตรวจสอบราคาขนส่งได้ทันที นัดหมายการจัดส่ง พิมพ์เอกสารนำส่งและชำระค่าบริการผ่านบัตรเครดิตได้ทันที นอกจากนี้ DHL Express ยังช่วยผู้ประกอบการไทยเดินหน้าบนเวทีการค้าโลกด้วยการให้ความรู้มาร์เก็ตอินไซท์ที่ทันสมัยเกี่ยวกับตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง”
ธุรกิจ E-Commerce ระหว่างประเทศที่กำลังขยายตัวส่งผลให้ความต้องการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่ามูลค่าของตลาด Logistic ในส่วนของ E-Commerce ระหว่างประเทศทั่วโลกจะเติบโตราว 2.41 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในระหว่างปี 2017-2022 และคาดว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะครองตลาดตลอดระยะเวลาดังกล่าวจากปริมาณการค้า E-Commerce ที่เพิ่มขึ้นในประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย และจีน
ไล เซ ชอง รองประธานด้านการปฏิบัติงาน บริษัท โพเมโล่ แฟชั่น จำกัด ผู้นำแบรนด์ค้าปลีกแบบ Omni-Channel กล่าวว่า “เมื่อพิจารณาถึงเศรษฐกิจ พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล Logistic และอื่นๆ ภูมิภาคเอเชียมีโอกาสในการเติบโตของ E-Commerce ได้อีกมาก อ้างอิงจากแหล่งข้อมูล พบว่าจากรายได้ทั้งหมดของตลาด E-Commerce ในเอเชียนั้น สินค้ากลุ่มแฟชั่นมียอดการเติบโตสูงสุดกว่าสินค้าอื่นๆที่ 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจะยังครองอันดับหนึ่งเช่นนี้ไปจนถึงปี 2021 ด้วยมูลค่า 357 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การเข้าใจมาร์เก็ตอินไซต์ของแต่ละประเทศจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับเจ้าของแบรนด์หรือผู้ประกอบการในการรุกตลาดต่างประเทศ ภูมิภาคเอเชียนับเป็นตลาดหลักของเรา และ DHL Express ได้เข้ามามีบทบาทด้านการบริการ Logistic ให้ราบรื่นขึ้น พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ผู้ประกอบการเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต และรักษาตำแหน่งตลาดที่แข็งแกร่งในภูมิภาคนี้”