DHL Express ผู้ให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศระดับโลกขยายพื้นที่ขนส่งสินค้าทางอากาศภายในเอเชียด้วยการเพิ่มเครื่องบินโบอิ้ง B737-800 ที่ดัดแปลงเพื่อการขนส่งสินค้า รับการเติบโตของ e-Commerce โดยเฉพาะในช่วงพีคซีซั่นที่จะมาถึง เครื่องบินขนส่งสินค้าลำใหม่นี้ให้บริการโดย K-Mile Asia พันธมิตรของ DHL เดินทาง 6 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากฮานอยไปฮ่องกงและกรุงเทพฯ และกรุงเทพฯ กลับมายังฮานอย รวมพื้นที่ขนส่งสินค้าทั้งหมดเกือบ 140 ตันต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 30% จากเดิมที่ขนส่งด้วยเครื่องบินโบอิ้ง B737-400SF เอื้อต่อการเตรียมความพร้อมรับปริมาณชิปเมนต์ที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นภายในเดือนที่จะถึงนี้
พื้นที่ขนส่งสินค้าที่มากขึ้นและความถี่ในการบินขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นจาก 5 เที่ยวบิน เป็น 6 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จะทำให้การขนส่งระหว่างประเทศรวดเร็วขึ้น รวมถึงทำให้ภาคธุรกิจและผู้บริโภคในสามประเทศดังกล่าวได้รับประโยชน์จากโอกาสการค้าที่เติบโตขึ้นภายในภูมิภาคเอเชียด้วย
เคน ลี CEO, DHL Express APAC กล่าวเกี่ยวกับการเพิ่มเที่ยวบินใหม่ว่า “เอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่ปรับตัวได้ดีแม้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่จริงแล้ว เรามองเห็นกิจกรรมการค้าและธุรกิจ e-Commerce ระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นภายในภูมิภาคนี้ อันเป็นผลจากระบบโลจิสติกส์ที่พัฒนาดีขึ้น การเชื่อมต่อถึงกันในระดับนานาชาติ รวมถึงอุปสรรคการค้าที่ลดลงด้วย เรามั่นใจว่าการเพิ่มพื้นที่ขนส่งสินค้าด่วนทางอากาศของ DHL Express ครั้งนี้จะช่วยให้ภาคธุรกิจในประเทศไทย เวียดนามและฮ่องกงเชื่อมต่อถึงกันได้มากขึ้น ผ่านเครือข่ายการบินระดับโลกของเรา และมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในแต่ละประเทศด้วย”
การขยายตัวของเศรษฐกิจภายในเอเชียแปซิฟิกเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวและมีแนวโน้มอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเกิดจากการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ภายในภูมิภาค การส่งออกมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วเนื่องจากเครือข่ายซัพพลายเชนที่แข็งแกร่งขึ้นและการริเริ่มนโยบายต่าง ๆ ในอาเซียน เช่น ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่ส่งเสริมบูรณาการระหว่างเศรษฐกิจของแต่ละประเทศภายในภูมิภาค
นอกจากนี้ ธุรกิจ e-Commerce ในเอเชียแปซิฟิกยังเติบโตอย่างไม่หยุดหย่อน โดยคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าแตะ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2568 เนื่องจากประชากรเข้าถึงสมาร์ทโฟนและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างแพร่หลาย การซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศจึงเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา จากการสำรวจ พบว่านักช้อปออนไลน์ในฮ่องกงเกือบ 75% และในไทย 50% ซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าจากต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ในเวียดนามเองก็มีการเติบโตของ e-Commerce ข้ามพรมแดนด้วย
เครื่องบินโบอิ้ง B737-800 ลำใหม่ที่ DHL Express เพิ่มเข้ามานี้มีเส้นทางการบินระหว่างกรุงเทพฯ ฮ่องกง และฮานอย เสริมทัพการบินขนส่งด่วนระหว่างประเทศนอกเหนือจากเครื่องบินขนส่งสินค้า 3 ลำที่ปัจจุบันมีเส้นทางครอบคลุมฮ่องกง พนมเปญ สิงคโปร์และจาการ์ตา การเพิ่มเครื่องบินใหม่และเส้นทางบินตรงเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนเกือบ 60 ล้านยูโรเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเครือข่ายการบินภายในเอเชียแปซิฟิก นอกจากนี้ เครื่องบินโบอิ้ง B737-800 สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ 15% เทียบกับเครื่องบินโบอิ้งรุ่น B737 คลาสสิก
“ภาวะโรคระบาดกระตุ้นให้ผู้บริโภคทั่วโลกหันมาใช้ e-Commerce มากขึ้น รวมถึงผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีการเชื่อมต่อระหว่างประเทศมากที่สุด อ้างอิงจากดัชนีการเชื่อมต่อระหว่างประเทศของ DHL (DHL Global Connectedness Index – GCI 2020) การเพิ่มพื้นที่ขนส่งสินค้าด่วนทางอากาศระหว่างประเทศในเอเชียช่วยให้ธุรกิจในท้องถิ่นเข้าถึงลูกค้าภายในภูมิภาคได้มากขึ้นและสร้างโอกาสทางธุรกิจได้เต็มที่จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ e-Commerce” เฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ DHL Express ประเทศไทยและหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน ครอบคลุมประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา เมียนมาร์และลาว กล่าว
DHL Express ให้บริการขนส่งสินค้าด่วนระหว่างประเทศแบบ door-to-door รับส่งพัสดุและเอกสารสำหรับองค์กรธุรกิจและลูกค้ารายย่อย ปัจจุบัน DHL Express มีเครื่องบินขนส่ง 280 ลำทั่วโลก ครอบคลุมสนามบินกว่า 500 แห่ง โดยมีการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศให้ลูกค้ากว่า 2.7 ล้านราย คิดเป็นการขนส่งประเภทขนส่งด่วนภายในเวลาที่กำหนด (Time Definite) จำนวน 286 ล้านชิ้นต่อปี ครอบคลุม 220 ประเทศทั่วโลก สำหรับ DHL Express ในประเทศไทย เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 โดยมีเที่ยวบินขนส่งระหว่างประเทศราว 40 เที่ยวต่อวันจากศูนย์กลางที่ฮับและเกตเวย์ สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์ขนส่งสินค้าระดับภูมิภาคของ DHL Express และเป็นเกตเวย์เชื่อมต่อสู่อินโดจีน
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด