กลุ่มดุสิตธานีลุ้นครึ่งหลังปี 64 ท่องเที่ยวฟื้น หลังผลงานไตรมาส 4 ส่งสัญญาณดีขึ้นเดินหน้ากลยุทธ์กระจายความเสี่ยง | Techsauce

กลุ่มดุสิตธานีลุ้นครึ่งหลังปี 64 ท่องเที่ยวฟื้น หลังผลงานไตรมาส 4 ส่งสัญญาณดีขึ้นเดินหน้ากลยุทธ์กระจายความเสี่ยง

กลุ่มดุสิตธานีเผยผลประกอบการปี 2563 ขาดทุน 1,011 ล้านบาท หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีความรุนแรงและยืดเยื้อกว่าที่คิด แม้ผลประกอบการรวมจะขาดทุน แต่มีสัญญาณดีขึ้นทุกไตรมาส ลุ้นครึ่งหลังของปีนี้ที่ธุรกิจท่องเที่ยวจะค่อยๆ ฟื้นตัว หลังประเทศไทยได้รับวัคซีนและการเดินทางเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น ผู้บริหารย้ำไม่ถอดใจ มั่นใจหลักการกระจายการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายช่วยกระจายความเสี่ยงและลดผลกระทบได้มาก ชี้ช่วงโควิดระบาด ธุรกิจการศึกษาและธุรกิจอาหารยังเติบโตได้ดีเดินหน้าสร้างรายได้ตามเป้าหมาย เช่นเดียวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยังเป็นไปตามแผน ขณะที่องค์กรเรียนรู้บทเรียนสำคัญตลอดหนึ่งปีด้วยการปรับตัว ทั้งลดรายจ่ายอย่างเคร่งครัด และเพิ่มประสิทธิภาพในการแสวงหารายได้ ย้ำแผนดำเนินการโรงแรมในต่างประเทศยังเดินหน้าต่อ หวังเก็บเกี่ยวหลังการท่องเที่ยวทั่วโลกปลดล็อค

คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ว่าผลประกอบการของดุสิตธานีในปี 2563 ที่ผ่านมา จะประสบภาวะขาดทุน แต่ก็เป็นไปตามที่ฝ่ายบริหารคาดการณ์ไว้ เนื่องจากธุรกิจท่องเที่ยวและบริการได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งระลอกแรกในช่วงปี 2563 และระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปีเดียวกัน ทำให้การเดินทางหยุดชะงักและจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง อย่างไรก็ตาม ด้วยการประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบของดุสิตธานี ผนวกกับกลยุทธ์หลักของบริษัทฯ ที่เน้นการกระจายความเสี่ยงให้กับธุรกิจ ด้วยการกระจายการลงทุนที่หลากหลาย ทำให้สามารถลดผลกระทบที่เกิดขึ้นได้อย่างค่อนข้างมีประสิทธิภาพ 

“ธุรกิจโรงแรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งในส่วนที่เราเป็นเจ้าของและรับเป็นผู้บริหารต่างก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โรงแรมต้องหยุดให้บริการในช่วงไตรมาสสองจากการแพร่ระบาดในระลอกแรก จนเมื่อการเดินทางผ่อนคลายได้บ้างในช่วงกลางปีที่แล้ว จึงเริ่มเห็นสัญญาณการค่อยๆ ฟื้นตัวของรายได้ในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 2563 โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับไตรมาสต่อไตรมาสเพิ่มขึ้น 60.3%  แม้จะได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกสองในปลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ เรายังเห็นความคืบหน้าในการแจกจ่ายวัคซีนทั่วโลกและในหลายประเทศ ซึ่งให้ความสำคัญกับบุคลากรที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวเป็นลำดับแรกๆ โดยทีมงานของดุสิตฯ ในประเทศต่างๆ ก็ได้รับการฉีดวัคซีนกันเป็นส่วนมากแล้ว ทำให้เราเริ่มมั่นใจว่าจะเห็นการท่องเที่ยวค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งที่ผ่านมา ดุสิตธานีไม่ได้หยุดนิ่ง แต่ปรับโมเดลเดินหน้าสร้างรายได้ผ่าน non-room business  และเตรียมการรองรับกับการกลับมาของการท่องเที่ยว โดยปรับรูปแบบการท่องเที่ยวให้น่าสนใจมากขึ้น อย่างกรณีของโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ที่เราพัฒนาเป็นแหล่งกิจกรรมท่องเที่ยวในแนววิถีธรรมชาติ มีแปลงนาที่ปลูกข้าวและเก็บเกี่ยวแล้ว ซึ่งเราเชื่อว่าจะเป็นจุดขายที่มีความโดดเด่นในอนาคต และเราจะใช้โมเดลนี้ในโรงแรมต่างๆ ของกลุ่มดุสิตธานีด้วย” คุณศุภจีกล่าว

สำหรับธุรกิจอื่นๆ ของกลุ่มดุสิตธานี ยังคงมีแนวโน้มที่ดี โดยธุรกิจการศึกษา ในส่วนของวิทยาลัยดุสิตธานีสามารถรับนักศึกษาได้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 17% โดยทางวิทยาลัยมีหลักสูตรที่ตอบรับกับความต้องการของผู้ที่ต้องการเรียนเพื่อหารายได้เสริมและไปประกอบวิชาชีพเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจการศึกษาให้เติบโตต่อเนื่องด้วยการเปิดโครงการ Food School เพื่อเพิ่มทางเลือกสำหรับตลาดบน เช่นเดียวกับธุรกิจอาหารที่ยังมีแผนเติบโตต่อเนื่องจากปี 2563 ซึ่งปัจจุบันรายได้จากธุรกิจอาหารยังเป็นไปตามเป้าหมาย โดยรายได้หลักยังคงมาจาก Epicure Catering ซึ่งให้บริการจัดหาอาหาร (Catering) ให้แก่โรงเรียนนานาชาติ ซึ่งปีที่ผ่านมาได้ขยายการลงทุนไปยังเวียดนาม และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2564 ในขณะที่ธุรกิจอาหารภายใต้แบรนด์ “คาวาอิ” ในปีที่ผ่านมา ได้เพิ่มจุด grab & go ที่เวอร์จิน ฟิตเนส คลับ อีก 3 แห่ง ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ ห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์ และตึกเอ็มไพร์  ส่วนปีนี้จะเปิด flagship store เพิ่มในเดือนพฤษภาคม  

ทางด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มดุสิตธานีจะเริ่มเปิดการขายโครงการที่พักอาศัย “ดุสิต เรสซิเดนเซส” ในโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ให้กับลูกค้าในช่วงไตรมาสสองของปีนี้  หลังจากที่มียอดขายจาก Private sales ในปีที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจ

“ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงด้วยการกระจายการลงทุนในธุรกิจที่มีความหลากหลายของกลุ่มดุสิตธานี ทำให้เราสามารถสร้างสมดุลให้กับธุรกิจได้ แม้ว่ารายได้หลักจะมาจากธุรกิจโรงแรมที่ได้รับผลกระทบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ภาพรวมของกลุ่มดุสิตธานีต้องหยุดชะงัก และหลังจากนี้เราเชื่อว่า เราจะสามารถสร้างการเติบโตได้ภายใต้ฐานรากที่แน่นหนา  เพราะบทเรียนตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ทำให้เราเรียนรู้ที่จะปรับตัว เราลดค่าใช้จ่ายอย่างเคร่งครัด และการแสวงหารายได้ก็เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเมื่อโลกปลดล็อคจากโควิด-19 เราเชื่อว่า ฐานรากที่เราวางไว้จะสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน”  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มดุสิตธานีกล่าว

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

แอดวานซ์เทค ติดท็อป 5 ‘Best Taiwan Global Brands’ 7 ปีซ้อน ขับเคลื่อน Edge AI ด้วยมูลค่า 2.8 หมื่นล้าน

แอดวานซ์เทค (Advantech Co., Ltd.) ผู้นำด้านอุตสาหกรรม IoT ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 5 แบรนด์ชั้นนำระดับโลกของ "2024 Best Taiwan Global Brands" ด้วยมูลค่าแบรนด์ 851 ล้านดอลลาร์...

Responsive image

PLEX MES ก้าวสู่อนาคต ยกระดับอุตสาหกรรมการผลิต ด้วย Smart Manufacturing Solutions

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา วงการอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการแนะนำ PLEX MES โซลูชันที่เปรียบเสมือน "สมองดิจิทัล" สำหรับโรงงานยุคใหม่ ระบบนี้ถูกออกแบบ...

Responsive image

ทีทีบี คว้ารางวัลธนาคารที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าธุรกิจ Thailand Best Bank for Corporates

ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) คว้ารางวัล Thailand Best Bank for Corporates จาก Euromoney Awards 2024 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนธุรกิจไทยด้วยโซลูชันดิจิทัลและความยั่งยืนผ่านกรอบ B+ESG พร...