findTEMP แพลตฟอร์มจับคู่ผู้จ้างงานกับพนักงานพาร์ทไทม์ หนึ่งใน 5 ทีมบริษัทผู้ชนะโครงการ Accelerate Impact with PRUKSA | Techsauce

findTEMP แพลตฟอร์มจับคู่ผู้จ้างงานกับพนักงานพาร์ทไทม์ หนึ่งใน 5 ทีมบริษัทผู้ชนะโครงการ Accelerate Impact with PRUKSA

“findTEMP” แพลตฟอร์มที่จับคู่ผู้จ้างงานกับพนักงานพาร์ทไทม์ในร้านอาหาร คลังสินค้า โรงแรม และธุรกิจจัดเลี้ยง หนึ่งใน 5 ทีมบริษัทผู้ชนะโครงการ Accelerate Impact with PRUKSA กับแผนการดำเนินงานธุรกิจที่ส่งเสริมสังคมให้ยั่งยืน

คุณวิน ธนวัฒน์ เทียนทองนุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง findTEMP ได้กล่าวถึงความรู้สึกเกี่ยวกับโครงการ “Accelerate Impact with PRUKSA” ตลอดระยะเวลาร่วม 5 เดือนที่ได้เข้าร่วมโครงการ

ผมน่าจะเป็นทีมสุดท้ายที่สมัครเข้าโครงการนี้ จริงๆเกือบจะไม่ทันแล้ว แต่ผมคิดว่าเราก็มีความตั้งใจที่จะช่วยสังคมจริงๆ และทางทีมพฤกษาเองก็น่าจะพิจารณาเรา และสุดท้ายทางทีมพฤกษาก็ได้ให้โอกาสเลือกเราเข้ามาเป็น 5 ทีมบริษัท ที่ได้รับผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ Accelerate Impact with PRUKSA ผมก็ค่อนข้างดีใจที่มีคนเห็นเราทำสิ่งเหล่านี้ แล้วก็คิดว่าจะมาช่วยเหลือเราเพื่อที่จะสร้าง Impact ให้มากขึ้น รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งครับ

findTEMP เป็นแพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างผู้ประกอบการร้านค้ากับพนักงานพาร์ทไทม์ ซึ่ง Pain Point ก็คือทางฝั่งพนักงานพาร์ทไทม์จะเป็นนักเรียน นักศึกษา แต่ว่าที่สำคัญคือพวกเขาไม่ได้มีรายได้ หลายๆคนก็อาจจะเป็นนักศึกษาที่มีพ่อแม่คอยให้การสนับสนุน แต่มันจะมีคนกลุ่มหนึ่งในสังคมที่ถ้าพวกเขาไม่ได้ทำงานพวกเขาจะไม่มีเงิน ไม่ได้กินข้าว ไม่สามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ แสดงว่าพวกเขาต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ซึ่งการทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วยนั้น ทางผู้ประกอบการที่จะรับเขาเข้าทำงานเนี่ย  จะไม่ค่อยมั่นใจในตัวพวกเขา ว่าพวกเขาจะสามารถเป็นพนักงานได้นานแค่ไหน คุ้มค่าที่จะจ้างงานพวกเขาหรือเปล่า ไปรับคนที่ไม่ได้เรียนเข้ามาทำงานให้ยังดีกว่า ผมก็เลยมีความตั้งใจอยากที่จะเข้ามาช่วยตรงนี้ ช่วยเตรียมตัวน้องๆ ให้พร้อมที่จะไปทำงานกับผู้ประกอบการ แล้วก็อีกฝั่งก็คือช่วยเหลือทางผู้ประกอบการในการจะจัดสรรน้องๆ เพื่อที่จะสามารถทำงานร่วมกันกับเขาได้อย่างราบรื่น

จากโครงการ Accelerate Impact with PRUKSA รู้สึกได้รับประโยชน์อย่างไรบ้าง

ปกติแล้ว ทีมผมจะมีเป้าหมายอยู่แล้วว่าในแต่ละปีเราต้องทำอะไรบ้าง แต่ว่าการที่ได้เข้าโครงการ Accelerate Impact with PRUKSA ก็เป็นการที่ทำให้เรามีความแน่วแน่กับเป้าหมายได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ประมาณว่ามีคนมาคอยติดตามขั้นตอนการทำงานของเรา เพราะปกติผมอยู่ในบริษัท ผมอยู่ในธุรกิจตัวเอง เราใหญ่ที่สุดแล้ว เพราะว่าเราเป็นเจ้าของบริษัท คนที่คอยมากำกับดูแลเราก็น่าจะเป็นลูกค้า แต่พอเราได้มาเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ หนึ่งเลยคือโครงการให้ความรู้หลากหลายมาก สองคือทางทีมพฤกษาอยู่เคียงข้างคอยติดตามผลตลอด การที่ทางทีมพฤกษาได้ให้ความรู้แก่พวกเราแล้ว ทางเราก็ได้นำความรู้ไปต่อยอด พัฒนาขึ้นได้เป็นอย่างมาก ถ้าทำแล้วจะประสบความสำเร็จหรือเปล่า ซึ่งพอได้มีการพูดคุยกัน มีการที่เราต้องรายงานผล ทางทีมพฤกษาให้การสนับสนุนและเป็นที่ปรึกษาให้กับเราได้เป็นอย่างดี เราก็จะสามารถที่จะพัฒนาและประเมินให้ตัวเองได้ เพราะปกติเราไม่ค่อยมีใครให้คำแนะนำหรือชี้แนะแนวทางให้กับทางเราเท่าไหร่ เนื่องจากว่าเราใหญ่ที่สุดในบริษัท ก็นับได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก เพราะปกติสิ่งที่เราได้ทำงานออกไป คิดว่าน่าจะใช้เวลาอาจจะหนึ่งปี แต่พอได้เข้าร่วมโครงการแล้วก็เหลือแค่ 3-4 เดือนก็สำเร็จแล้ว สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่ทางเราตั้งใจไว้ได้

เหตุการณ์ที่ทางทีมพฤกษาได้เข้ามามีส่วนช่วยแก้ปัญหาที่เกิดระหว่างทางในโครงการ

ทางทีมพฤกษาที่ผมรู้สึกอยากขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง คือคุณอังคณา ที่อยู่ในส่วนของฝั่งทีมการตลาด ซึ่งจริงๆแล้วก็ถือว่าเป็นการจับคู่ที่ดีมาก เพราะว่าฝั่งผมเองก็ไม่ค่อยเก่งด้านการตลาด แล้วก่อนหน้านี้ที่เราทำงานมาก็ทำงานแบบลูกทุ่งๆ คือเหมือนคนขายเสื้อผ้า ฉันอยากจะนำเสนอขายสินค้าอันนี้ ก็ลงเฟซบุ๊กสักนิดนึง ฉันอยากจะทำอันนี้ก็เสนอขายแบบชาวบ้านๆเลยไม่มีพิธีการอะไรเยอะ แต่พอได้คุณอังคณาและทีมงานคนอื่นๆที่เป็นลูกทีมนั้น ได้เข้ามามีส่วนช่วยในเรื่องการให้คำแนะนำแนวคิดต่างๆในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการใช้เครื่องมือให้เหมาะสม ว่าจะต้องเป็นไปในรูปแบบทิศทางใด อีกทั้งพร้อมเสนอช่วยร่างแบบมาให้ด้วยซ้ำ เพียงแต่ทางผมเองนั้นนำมาวิเคราะห์ต่อยอด นำมาแตกย่อยรายละเอียดและวิเคราะห์ว่าอะไรที่เหมาะสมกับเราและสามารถทำได้จริง ซึ่งตอนนี้ทางผมได้มีการนำวิธีการบางส่วนจากที่ทางทีมคุณอังคณาได้แนะนำ มาพัฒนาต่อยอดเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีหลายส่วนที่ยังไม่ได้นำมาพัฒนาต่อ เพราะคิดว่ามันก็อยู่ใน Pipeline business เรานี่แหละ แต่เราก็จะพยายามค่อยๆทยอยเอาคำแนะนำเหล่านั้นออกมาพัฒนาเรื่อยๆ ซึ่งถ้าผมไปหาจากข้างนอกหรือไปหาเรียนเอง ผมก็อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในราคาที่แพงมาก ก็ต้องขอบคุณทางทีมพฤกษามากๆครับ

findTEMP ได้อะไรจาก Social Impact บ้าง

ผมได้นำความรู้มาพัฒนาตัวแพลตฟอร์มให้ดีขึ้น แล้วก็ไปสร้าง Impact กับน้องๆอีกทีนึง การที่ทางทีมพฤกษาให้ทุนมา ผมไม่ได้เอาทุนนั้นมาให้น้องๆโดยตรง แต่เอามาช่วยพัฒนาตัวแพลตฟอร์มให้มันดีขึ้น เพื่อให้มันเป็นไปในแนวทางที่ควรจะเป็น แล้วตรงนี้ก็สามารถส่งต่อให้ผู้อื่นได้ ซึ่งตอนนี้ ก็ทำให้เราสามารถแบ่งแยกกลุ่มลูกค้าออกเป็นกลุ่มย่อยๆใหม่ได้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมก่อนหน้านี้เราไม่มีแบ่งแยกกลุ่มลูกค้านี้อยู่ ก็รับลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามา และรับน้องๆกลุ่มใหม่ที่เขาสามารถทำงานอย่างนี้ได้เข้ามาเพิ่มขึ้น เช่นนี้ก็สามารถที่จะช่วยเหลือสังคมได้ แต่จริงๆแล้ว ผมไม่ได้มีแค่นี้ ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราทำ และคิดว่าจะอยู่ในการนำเสนอของทางทีมงานกับทีมพฤกษาต่อไป

สุดท้ายนี้ ทาง findTEMP อยากฝากอะไรถึงกลุ่มคนที่มีแนวทางการทำธุรกิจเพื่อสังคมบ้าง

เชื่อว่าธุรกิจเพื่อสังคมเป็นสิ่งที่ประเทศไทยยังขาดอยู่ ใครที่มีกำลังทรัพย์ การมีระยะเวลา หรือว่ามีความสามารถ ผมคิดว่าควรจะเข้ามาช่วยประเทศในการพัฒนา เพราะเท่าที่ผมรู้ ฝั่งนึงบริษัท Microsoft หรือบริษัท Amazon เขาพัฒนา Ai ไปแล้ว ฝั่งนั้นที่ไปไกลมาก หันกลับมาดูอีกฝั่งนึงแทบจะต้องหาข้าวกินแต่ละวันให้รอด ไม่รู้หรอกว่าอะไรคือ Ai ไม่รู้หรอกว่าหุ่นยนต์จะมาแล้ว ไม่รู้ว่าโลกไปถึงไหนแล้ว แต่ฉันต้องรอดไปให้ได้ ซึ่งกลุ่มนี้ถ้าไม่มีใครมาหยิบยื่นโอกาสให้พวกเขา พวกเขาไปหาโอกาสเองคงยากมาก มันมีเรื่องนี้อยู่จริงๆในสังคมนะครับ ตอนแรกผมเป็นเด็ก ผมก็ใสๆ คิดว่าทุกคนก็เท่าเทียมกันหมด แต่จริงๆมันไม่ใช่ มันแล้วแต่ว่าเราเกิดมาแล้วเราเปิดไพ่เจอไพ่ยังไง ถ้าเราเกิดมาแล้วเจอไพ่ดีหน่อย พ่อแม่คอยให้การสนับสนุน ง่ายเลย เราเรียนรู้นิดหน่อย พยายามนิดหน่อยก็ได้แล้ว แต่อีกครอบครัวหนึ่ง ขนาดพยายามมากๆแล้ว ยังไม่สามารถเทียบเท่ากับบางคนที่พยายามนิดหน่อยเลย ก็คิดว่าอยากจะเชิญชวนใครที่มีกำลังทุน กำลังทรัพย์ หรือว่ามีไอเดียอะไร ก็อยากจะให้เข้ามาร่วมโครงการกับทางพฤกษา เพื่อที่เราจะได้มาช่วยกันส่ง Impact ให้กับประเทศไทย

สำหรับโครงการดีๆที่จะช่วยส่งเสริมสังคมในอนาคต สามารถติดตามรายละอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่  https://www.pruksaimpact.com/

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

แอดวานซ์เทค ครบรอบ 20 ปีในไทย ย้ำจุดยืนผู้นำ AI-IoT และ “Edge AI” ยกระดับ Smart Manufacturing, Smart City และ ESG สู่ความยั่งยืน

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม บริษัท แอดวานซ์เทค คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชัน AI, IoT และคอมพิวเตอร์เฉพาะทาง ได้จัดงานฉลองครบรอบ 20 ปีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ...

Responsive image

ยกระดับบริการลูกค้าด้วย AI BOTNOI Voice บน AWS ช่วยองค์กรไทยสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ

AWS ประกาศในวันนี้ว่า BOTNOI สตาร์ทอัพด้าน Generative AI ของไทยที่เชี่ยวชาญในการสร้างผู้ช่วยเสมือนจริงสำหรับการสนทนา ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม BOTNOI Voice ขึ้นบนคลาวด์ของ AWS...

Responsive image

ดีอี ผนึก ‘อว.- ศธ.’ ร่วมมือ UNESCO นำเวที UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025

ประเทศไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพงาน “UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ภายใต้แนวคิด “Ethical Governance of AI in Motion” ย้ำบทบาทผู้นำจริยธรรม AI ระดั...