Gartner ฟันธง! ตลาดดาวเทียม LEO ทะยานสู่ 1.48 หมื่นล้านเหรียญในปี 2569 ปลดล็อกอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทุกที่ทั่วโลก

โลกกำลังจะถูกเชื่อมต่ออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อ Gartner บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำของโลก ออกโรงคาดการณ์ว่า ตลาดบริการสื่อสารผ่านดาวเทียมวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit หรือ LEO) ทั่วโลกจะมีมูลค่าการใช้จ่ายพุ่งทะยานแตะ 14.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2569 ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตที่น่าจับตามองถึง 24.5% จากปี 2568 สะท้อนให้เห็นถึงจุดเปลี่ยนสำคัญที่เทคโนโลยีนี้กำลังจะก้าวจากการเป็นเพียง "ทางเลือก" สำหรับพื้นที่ห่างไกล สู่การเป็น "เทคโนโลยีกระแสหลัก" ที่จะพลิกโฉมทั้งโลกธุรกิจและไลฟ์สไตล์ของผู้คน

ตลาดดาวเทียม LEO กำลังจะมาแรง

Khurram Shahzad ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายนักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์ ชี้ว่า "เดิมทีดาวเทียม LEO ถูกมองว่าเป็นเพียงโซลูชันสำหรับพื้นที่ที่เครือข่ายภาคพื้นดินเข้าไม่ถึง แต่ปัจจุบัน Use Case ใหม่ๆ ทั้งในฝั่งผู้บริโภคและภาคธุรกิจกำลังผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ผลักดันให้ผู้ให้บริการสื่อสาร (CSPs) ต้องขยายตลาด และทำให้ดาวเทียม LEO กลายเป็นเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหลักในระดับองค์กร"

ด้วยคุณสมบัติเด่นที่โคจรใกล้โลกกว่าดาวเทียมแบบดั้งเดิม ทำให้ดาวเทียม LEO สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วกว่าและมีค่าความหน่วง (Latency) ต่ำกว่ามาก ตลาดนี้กำลังเข้าสู่ช่วงเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีผู้เล่นกว่า 20 รายในสนาม และคาดการณ์ว่าจะมีดาวเทียมลอยโคจรอยู่บนฟ้ามากกว่า 40,000 ดวงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

"เมื่อ Use Case เติบโตขึ้น ทั้งบริษัทและผู้บริโภคจะสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เสถียรและเชื่อมต่อกับทุกสรรพสิ่งผ่าน IoT ได้จากทุกที่บนโลก ไม่เว้นแม้แต่บนเครื่องบิน กลางทะเล หรือบนแท่นขุดเจาะนอกชายฝั่ง" Shahzad กล่าวเสริม

เปิด 4 Use Cases พลิกโลก ขับเคลื่อนการเติบโต

Gartner ได้จำแนก Use Cases ที่กำลังเกิดขึ้นใหม่ออกเป็น 4 หมวดหมู่หลัก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตครั้งนี้:

  1. บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Fixed and Mobile Broadband): นี่คือสมรภูมิหลักที่เห็นได้ชัดที่สุด ตั้งแต่การให้บริการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกล, ไซต์งานก่อสร้างชั่วคราว, ไปจนถึงการให้บริการ Wi-Fi ความเร็วสูงฟรีบนเครื่องบินโดยสารในสหรัฐฯ หรือแม้แต่การใช้โดรนที่เชื่อมต่อดาวเทียม LEO เพื่อกู้ภัยพิบัติในออสเตรเลีย
  2. การเชื่อมต่อ IoT ทั่วโลก (Global IoT Connectivity): ดาวเทียม LEO กำลังจะกลายเป็นกระดูกสันหลังใหม่ของโลก IoT ที่ต้องการการครอบคลุมทั่วโลก ตั้งแต่การติดตามทรัพย์สิน, การเกษตรอัจฉริยะ, ไปจนถึงการใช้งานด้านการทหาร ตัวอย่างที่น่าสนใจคือผู้ผลิตรถยนต์ในจีนที่ปล่อยดาวเทียม LEO ของตัวเองเพื่อพัฒนาระบบนำทางสำหรับรถยนต์ไร้คนขับ
  3. การเสริมทัพอินเทอร์เน็ตมือถือ (Supplementing Mobile Broadband): เทคโนโลยีการเชื่อมต่อตรงจากดาวเทียมสู่อุปกรณ์ (Direct-to-Device หรือ D2D) จะมาช่วยอุดช่องโหว่ของสัญญาณมือถือ เช่นในนิวซีแลนด์ที่ผู้ใช้สามารถส่งข้อความผ่านดาวเทียมได้ในพื้นที่ 40% ของประเทศที่ไม่มีเสาสัญญาณ
  4. โครงข่ายสื่อสารหลัก (Infrastructure Backhaul): สำหรับองค์กรขนาดใหญ่หรือหน่วยงานภาครัฐที่ต้องการการเชื่อมต่อที่มั่นคงและปลอดภัยในพื้นที่ห่างไกลหรือแม้แต่ในเขตแดนข้าศึก ดาวเทียม LEO สามารถทำหน้าที่เป็นโครงข่ายหลักที่เชื่อถือได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาสายสัญญาณภาคพื้นดิน

อย่างไรก็ตาม Shahzad ย้ำว่าเส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ "อุตสาหกรรมนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ยังมีอุปสรรคด้านกฎระเบียบในหลายประเทศ ข้อจำกัดด้านความจุของเครือข่ายในบางพื้นที่ รวมถึงปัญหาการโรมมิ่งและการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ให้บริการ"

ดังนั้น ผู้ให้บริการจึงจำเป็นต้องประเมินกลยุทธ์อย่างรอบคอบ โดยพิจารณาจาก Use Case ที่ต้องการให้บริการเป็นหลัก แต่ที่แน่ชัดคือ คลื่นการเปลี่ยนแปลงจากการสื่อสารผ่านดาวเทียม LEO ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และมันกำลังจะซัดเข้ามาเปลี่ยนโลกของเราในไม่ช้า



ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

วีซ่า เผย 5 ประเด็นสำคัญ ด้านความปลอดภัยและการสร้างความมั่นใจในระบบชำระเงินดิจิทัลไทย จาก Visa Forum 2025

วีซ่า ผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก ประกาศเดินหน้ายกระดับมาตรฐานความปลอดภัยธุรกรรมการเงินไทย ผ่านงานฟอรัมใหญ่แห่งปีในธีม “Navigating Tomorrow: Enabling Trust, Driving...

Responsive image

depa ปิดฉากความสำเร็จ ODOS Summer Camp รุ่นที่ 1 สร้างปรากฏการณ์ปั้นดิจิทัลทาเลนต์รุ่นใหม่

depa ปิดฉากความสำเร็จ ODOS Summer Camp รุ่นที่ 1 สร้างปรากฏการณ์ปั้นดิจิทัลทาเลนต์รุ่นใหม่ พัฒนาและยกระดับศักยภาพเยาวชนไทยผ่านหลักสูตรการเรียนรู้ด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีระดับนานาชาต...

Responsive image

กรุงเทพธุรกิจปักหมุด “SUSTAINABILITY FORUM 2026” ชูแนวคิด Shift Forward: Overcoming Challenges สัญญาณแรงจากยูเอ็น–รัฐ–เอกชน เร่งไทยสปีดความยั่งยืนก่อนหมดเวลา

สรุปไฮไลต์งาน SUSTAINABILITY FORUM 2026 โดยกรุงเทพธุรกิจ ภายใต้แนวคิด Shift Forward ผนึกกำลังภาครัฐ-เอกชน เร่งไทยสู่ Net Zero และ SDGs รับมือความท้าทายโลกเดือด...