หลายคนรู้จัก ไฮเออร์ (Haier) ในฐานะแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ที่เริ่มต้นจากการผลิตตู้เย็นขนาดเล็กในเมืองชิงเต่า สาธารณรัฐประชาชนจีน และต่อยอดสู่นวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่หลากหลายประเภทอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

ซึ่งที่ผ่านมา ไฮเออร์ได้มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยแนวคิดที่ต้องการพัฒนาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ และล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าสุดสมาร์ตหลายรายการ อาทิ เครื่องปรับอากาศ รุ่น UV Cool Series  ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ “UVC Sterilization” ที่มีประสิทธิภาพช่วยยับยั้งเชื้อโรคกลุ่ม Covid-19 ได้สูงถึง 99.99% ซึ่งผ่านการทดสอบจากสถาบันระดับโลกอย่าง Texcell และได้รับการรับรองความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานจาก สคบ. แห่งประเทศไทย 

และเครื่องซักผ้า รุ่น Self-Cleaning Series มาพร้อมเทคโนโลยี Self-Cleaning ล้างถังทุกครั้งที่ซักผ้า เป็นรายแรกและรายเดียวที่มี Smart Ball Cleaning สามารถขจัดสิ่งสกปรกได้สูงสุดถึง 99.9% 

คุณธเนศร์ บินอาซัน รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไฮเออร์เป็นผู้ผลิตและผู้นำในด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องไฟฟ้าที่ล้ำสมัยของโลก โดยมีพันธกิจในการสร้างสรรค์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เพื่อความเป็นอยู่ที่ดี ตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของผู้บริโภค กว่า 100 ประเทศทั่วโลก ไฮเออร์ครองแชมป์เครื่องใช้ภายในบ้านอันดับ 1 ของโลก ติดต่อกัน 14 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2552 ถึง 2565 ไฮเออร์ได้สร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานไปทั่วโลกเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปอย่างรวจเร็ว ได้แก่ ศูนย์วิจัยและพัฒนา โรงงานการผลิต บริษัทตัวแทนจำหน่าย รวมถึงเครือข่ายร้านจำหน่ายสินค้า และอื่นๆ”

แบ่งกลยุทธ์การตลาดออกเป็น 3 แบบ

1.กลยุทธ์ Multi-brands โดยที่เรามีแบรนด์ 2 แบรนด์ คือ Casarte ที่เน้นลูกค้ากลุ่ม Luxury Hi-End และ Haier ที่เน้นกลุ่ม Mass ซึ่งจะตรงกับกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์ในไทย

2.Product Innovative ที่จะเพิ่มส่วนของ IoT และ Smart home เข้าไปอยู่ในทุกหมวดของสินค้า

3.การส่งเสริมการทำการตลาด โดยแยกทั้งสองแบรนด์ที่ไม่เหมือนกันเพราะเซกเมนต์ตลาดไม่เหมือนกัน รวมทั้งพัฒนาสินค้าโปรดักท์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด รวมกว่า 10 โปรดักท์

สิ่งที่ทำให้ Haier แตกต่างจากคู่แข่งนั่นคือ เรามองผู้บริโภคเป็นหลัก ในการที่จะออกแบบและพัฒนาธุรกิจ โดยดีไซน์สินค้าให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค

นอกจากนี้ ไฮเออร์ ยังได้เสริมความแกร่งด้วยกลยุทธ์ Multi-brands โดยมีแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเข้ามาเสริมทัพอีกกว่า 3 แบรนด์ด้วยกัน ได้แก่ Casarte แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านระดับไฮเอนด์ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศอิตาลี ชูจุดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และการดีไซน์ที่เหนือชั้น พลิกโฉมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เป็นเหมือนงานศิลปะ ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าโดยเจาะกลุ่มไฮเอนด์ ที่พิถีพิถันในการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้ที่อยู่อาศัย พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลอย่างไร้รอยต่อ 

Candy  หนึ่งในแบรนด์ชั้นนำของยุโรปในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเป็นแบรนด์ยอดนิยมของวัยรุ่นจะเน้นเจาะกลุ่ม Gen Y และ Gen Z ที่มีราคาสมเหตุสมผล ฟังก์ชันใช้งานง่ายโดยเน้นการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ และเริ่มมีการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทางออฟไลน์ เพื่อครอบคลุมและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น 

และสุดท้าย Yudee โดยลูกค้าสามารถเลือกผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า IoT กับทางศรีสวัสดิ์ หรือ Ture Pay Next Extra ได้กับร้านตัวแทนจำหน่าย โดยสามารถเลือกผ่อนสูงสุดได้ถึง 36 เดือน Yudee แอปพลิเคชันยังสามารถใช้สั่งงานและควบคุมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตให้กับผู้บริโภคอีกด้วย ขณะที่งบการทำการตลาดที่วางไว้ในปี 2023 อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท 

คุณปิยะศักดิ์ ศรีบัว ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับปีนี้ ทางไฮเออร์ได้มีการตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2022 กว่า 20%  โดยกลยุทธ์ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2023 ไฮเออร์ได้วิจัย คิดค้น การเก็บข้อมูลเชิงลึกด้านพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มในประเทศไทย ให้ครบทั้งความสะดวกสบายและการดูแลสุขภาพ 

ตั้งเป้าเพิ่มไลน์สินค้ากลุ่ม Smart Home และสินค้ารุ่นไฮเอนด์ / IoT

และยังคงมุ่งนำเสนอสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าเพิ่มไลน์สินค้ากลุ่ม Smart Home และสินค้ารุ่นไฮเอนด์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถเข้าถึงสินค้าที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (IoT) ได้โดยง่าย และเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์อีกด้วย ส่วนโปรดักท์ที่มียอดขายสูงสุดในปี 2022 ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ที่มียอดขาย ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า ตามลำดับ 

ขณะที่โรงงานในประเทศไทยที่ผลิตสินค้า 2 อย่างคือ เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น ที่เป็นฐานการผลิตและส่งออกไปยังตลาดในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา 

ทั้งนี้ Business Strategy ในปี 2023 แบ่งออกเป็นดังนี้ 1.Professional PC  2.Training 3.Activity and Exhibition 4.Key Product 5.SGH / TWD / DO HOME / MAKRO

ส่วนในประเด็นเรื่องของค่าไฟที่กำลังเป็นที่สนใจนั้น ทาง Haier มองว่า ด้วยผลิตภัณฑ์ทุกตัวของบริษัทได้รับมาตรฐาน 5 ดาว ฉะนั้นมองปัญหาตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากเรื่องของค่าไฟเป็นเบสิกพื้นฐานของธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะต้องผ่านไปให้ได้ก่อนในการทำการตลาดในอนาคต

อีกหนึ่งไฮไลต์ของงานคือการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ถึงสองคน ได้แก่ คุณบอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ผู้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของไฮเออร์มาถึง 5 ปีติดต่อกัน และเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ล่าสุด คุณปอป้อ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย  นักกีฬาแบดมินตันดีกรีแชมป์โลกประเภทคู่ผสม เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่นและไม่ยอมแพ้ เพื่อพาตัวเองไปสู่เป้าหมาย เสมือนกับทางไฮเออร์ที่ไม่เคยหยุดคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค 

งานแถลงข่าวในครั้งนี้ได้ตอกย้ำถึงความทุ่มเทของไฮเออร์ที่ได้ลงทุนพัฒนาเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคน อีกทั้งได้แสดงถึงความใส่ใจในสุขภาพด้วยแคมเปญกีฬาต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้ ไฮเออร์จะยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไม่หยุดยั้ง ในฐานะที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับหนึ่ง 14 ปีซ้อน