JC&CO ยกระดับวงการ PR ไทย เข้าร่วม AMEC ใช้ข้อมูลวัดผลแทน PR Value

บริษัท เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (JC&CO) ที่ปรึกษาด้านการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ชั้นนำของประเทศไทย เตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการเป็นบริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์สัญชาติไทยรายแรก ที่เข้าร่วมเป็นสมาพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อการวัดและประเมินผลการสื่อสาร หรือ AMEC  โดยมีเป้าหมายยกระดับมาตรฐานการวัดผล จากแบบดั้งเดิมที่ใช้เฉพาะ มูลค่าการประชาสัมพันธ์ (PR Value) สู่การวัดโดยใช้ข้อมูลวิเคราะห์ 

เน้นวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงตามกรอบมาตรฐาน AMEC เช่น ยอด Engagement, Reach, Impressions และการใช้เครื่องมือ Social Listening ที่สามารถบ่งบอกประสิทธิภาพการสื่อสารที่แท้จริง ซึ่งจะทำให้ภาพรวมการวัดผลด้านประชาสัมพันธ์ของไทยเทียบชั้นมาตรฐานโลก ปัจจุบันทั่วโลกรวมถึงแบรนด์ชั้นนำกว่า 60% ได้เปลี่ยนการวัดผลด้วยมูลค่าการประชาสัมพันธ์ (PR Value) มาสู่การใช้กรอบ AMEC แล้ว 

นายณภัทร กาญจนะจัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (JC&CO) กล่าวว่า ข้อมูลจาก Global Entertainment & Media Outlook 2024 – 2028 ของ PwC (PricewaterhouseCooper) คาดการณ์ว่าตลาดสื่อและบันเทิงไทยจะพุ่งแตะ 793,020 ล้านบาท ภายในปี 2571 ขณะที่ PRCA (Public Relations and Communications Association) องค์กรวิชาชีพด้านการประชาสัมพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระบุว่าอุตสาหกรรมการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์โตต่อเนื่องทุกปี ซึ่งเป็นผลมาจากภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนเร็ว องค์กรให้ความสำคัญกับ Brand Storytelling มากขึ้น และความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เพิ่มขึ้น ทำให้การประชาสัมพันธ์โตแซงหน้าบริการอื่น ๆ ในด้านการตลาด

“การประชาสัมพันธ์เป็นเครื่องมือสื่อสารที่มีอิทธิพล ไม่ใช่แค่สร้างการรับรู้แต่เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยสร้างแบรนด์ ดึงดูดผู้บริโภค กระตุ้นการมีส่วนร่วม ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี และสร้างโอกาสและการเติบโตทางธุรกิจ แต่ปัญหาสำคัญคือ PR ไทยส่วนใหญ่ยังคุ้นเคยกับการวัดผลการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์แบบเก่าอย่าง AVE (Advertising Value Equivalency) หรือที่เรียกว่า PR Value ที่วัดจากมูลค่าสื่อแบบดั้งเดิม เช่น การนำมูลค่าโฆษณาคูณด้วย 2 หรือ 3 เพื่อเปรียบเทียบความยากง่ายในการเผยแพร่ ซึ่งไม่สามารถสะท้อนผลลัพธ์การสื่อสารที่เกิดขึ้นจริงกับ target audiences ได้ เนื่องจากไม่สอดคล้องกับภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะสื่อยุคใหม่อย่างสื่อออนไลน์ โซเชียลมีเดียหรือสื่อบุคคลอย่างอินฟลูเอนเซอร์มีบทบาทมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สอดรับกับผลสำรวจจาก AMEC ที่ระบุว่า 75% ของ PR มืออาชีพทั่วโลกไม่ใช้การวัดผลแบบ AVE แล้ว และ 60% ของแบรนด์ชั้นนำระดับโลกหันมาให้ความสำคัญกับการวัดผลตามกรอบมาตรฐานของ AMEC ซึ่งเป็นการวัดผลที่ใช้ข้อมูล (Data-Driven) เช่น ยอดการมีส่วนร่วมของผู้รับสาร (Engagement) จำนวนการมองเห็น (Reach) ยอดการแสดงผลของข่าวสาร คอนเทนต์ และโฆษณา (Impressions) จำนวนการรับชม (View) การวิเคราะห์ความรู้สึกจากผู้รับสารที่มีต่อคอนเทนต์และเนื้อหาต่าง ๆ (Sentiment) และการวิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเพื่อนำมาวิเคราะห์แนวทางการทำตลาดผ่านเครื่องมือ Social Listening เป็นหลัก ซึ่งสามารถวัดผลและประเมินประสิทธิภาพของการสื่อสารได้อย่างแม่นยำและน่าเชื่อถือกว่า PR Value”

นายณภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า JC&CO มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพมาตรฐานการสื่อสารและประชาสัมพันธ์เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด และเล็งเห็นว่าการวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงเป็นสิ่งจำเป็น พร้อมนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยยกระดับคุณภาพมาตรฐาน เช่นเดียวกับที่เป็นเอเจนซี่สัญชาติไทยรายแรกที่เข้าร่วมเป็นสมาชิก AMEC ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 200 องค์กร จาก 86 ประเทศทั่วโลก และริเริ่มนำการวัดผลตามกรอบมาตรฐานของ AMEC มาใช้ เปลี่ยนจากการวัดผลเชิงมูลค่า สู่การวัดผลที่ใช้ข้อมูลซึ่งสามารถสะท้อนผลลัพธ์ที่แท้จริง พร้อมขับเคลื่อนให้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม PR

นอกจากนี้ ในอนาคต JC&CO ยังได้เดินหน้าสร้างความร่วมมือกับองค์กรชั้นนำ สถาบันการศึกษาด้านสื่อสารมวลชน เพื่อร่วมกันยกระดับการวัดผลการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์องค์กรให้มีความแม่นยำ เปลี่ยนมุมมองการเผยแพร่ข่าวสารและคอนเทนต์ในเชิงคุณภาพให้มากกว่าเชิงปริมาณ พร้อมสนับสนุนให้องค์กร

 และผู้เชี่ยวชาญด้าน PR ในประเทศไทยนำวิธีการประเมินตามกรอบ AMEC มาปรับใช้ เพื่อสร้างมาตรฐานอุตสาหกรรมการประชาสัมพันธ์ในประเทศไทยให้ทัดเทียมประเทศชั้นนำในภูมิภาคและทั่วโลก โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นการวัดผลด้วยแนวทางดังกล่าวในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 นี้  

“การเข้าร่วม AMEC ของ JC&CO ไม่ใช่แค่การปรับตัวเพื่อยกระดับธุรกิจที่ดำเนินอยู่เท่านั้น แต่คือความพยายามที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ PR ไทย เพราะปัจจุบันนี้ PR ที่ดี ต้องไม่ใช่แค่สร้างการรับรู้หรือกระแส แต่ต้องสร้างการรับรู้เชิงบวกและการเปลี่ยนแปลงหรือพฤติกรรมที่สามารถวัดผลได้จริง เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้รับบริการ" นายณภัทร กล่าวทิ้งท้าย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

วัน แบงค็อก ต้อนรับ “อโกด้า” หนึ่งในผู้เช่าสำนักงานรายใหญ่ พร้อมเป็นศูนย์กลางของความคิดสร้างสรรค์และการเชื่อมต่อ

Agoda ประกาศย้ายสำนักงานใหญ่เข้า One Bangkok Tower 5 ดีลเช่าพื้นที่ยักษ์ 26,000 ตร.ม. สร้าง Campus Office แห่งอนาคต รองรับพนักงาน 4,000 คน พร้อมย้าย เม.ย. 2026...

Responsive image

BDI เผยวิสัยทัศน์สถาบันข้อมูลและ AI หนุนรัฐ-เอกชนด้วยเทคโนโลยี ขับเคลื่อนนวัตกรรมอนาคตไทย

สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เผย ทิศทางการขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ เดินหน้าแผนงานปี 2569 ผ่านแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลระดับชาติ (D2) และโครงการปัญ...

Responsive image

ปี 2026 รถยนต์ไฟฟ้าจะล้นโลก? Gartner คาดแตะ 116 ล้านคัน จีนครองตลาดเบ็ดเสร็จ 61% และ PHEV โตพุ่ง 32% แซงหน้าตลาดรวม

artner คาดปี 2026 รถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกทะลุ 116 ล้านคัน PHEV มาแรงโต 32% รับเทรนด์ผู้บริโภคที่ต้องการความอุ่นใจ จีนครองตลาด 61% แม้ไร้เงินอุดหนุนแต่วงการ EV ยังพุ่งไม่หยุด...