ลาซาด้า กรุ๊ป ได้จัดงาน “LazMall Brands Future Forum (BFF) 2021” ขึ้นเป็นปีที่ 2 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมมารินา เบย์ แซนด์ ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 1 กันยายน 2564 โดยมีผู้เข้าร่วมภายในงานและรับชมแบบออนไลน์จากทั่วทั้งภูมิภาค
การเสวนาภายใต้หัวข้อ "จับตาอนาคต ‘ดิจิทัลคอมเมิร์ซ’ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Rising to the Future: Southeast Asia’s Digital Commerce)" มีผู้บริหารจากลาซาด้าหลายท่านมาร่วมแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับการเติบโตของ LazMall และการสานต่อความมุ่งมั่นในการช่วยให้แบรนด์พันธมิตรเติบโต การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานอีคอมเมิร์ซและศักยภาพของลาซาด้าทางด้าน AI เทคโนโลยี และโซลูชันการตลาดดิจิทัล ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อพัฒนา journey การช้อปของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น พร้อมมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์แบบพรีเมียม
ในช่วงกล่าวเปิดงาน โดยคุณชุน หลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า กรุ๊ป ได้กล่าวถึงบทบาทของนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยีอันล้ำสมัย รวมถึงประสบการณ์อันน่าทึ่งที่ลูกค้าได้รับว่ายังคงมีส่วนสำคัญในการปรับโฉมอีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่มาสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกว่า 70% ของประชากรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตแล้ว
ลาซาด้ามีผู้ใช้งานมากกว่า 110 ล้านคนต่อปี โดยพบว่าจำนวนผู้เข้ามาใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมีการทำธุรกรรมออนไลน์บนแพลตฟอร์มของเราเพิ่มขึ้นเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อน ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี LazMall เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันมีแบรนด์ในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 32,000 แบรนด์ พร้อมฐานลูกค้าคุณภาพที่พร้อมจะจับจ่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์โปรดที่รู้จัก หรือแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งค้นพบบนแพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ยังมีผู้ซื้อรายใหม่บน LazMall เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน และยังพบว่ามูลค่าการซื้อของลูกค้าบน LazMall เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของผู้ซื้อทั่วไปบนแพลตฟอร์ม ด้วยความไว้วางใจและความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในการซื้อของที่มีมูลค่าสูง LazMall Prestige จึงได้เปิดตัวเป็นศูนย์รวมผลิตภัณฑ์พรีเมียมจากทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่งทำให้นักช้อปสามารถเลือกซื้อแบรนด์ดังอย่าง Bacha Coffee, Bang and Olufsen, Coach, La Mer, Salvatore Ferragamo และอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
คุณเจมส์ ชาง หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ลูกค้าและการค้าปลีก ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า เพื่อเป็นการเน้นย้ำถึงธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ที่เติบโตขึ้น การปรับใช้กลยุทธ์การค้าดิจิทัลในระยะยาวจึงต้องประยุกต์ให้เข้ากับเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ โดยลาซาด้าส่งมอบเครื่องมือและโซลูชันสำหรับธุรกิจและการตลาดที่ประยุกต์ให้เข้ากับความต้องการของแต่ละแบรนด์และลูกค้าของพวกเขาอย่างเต็มที่่ เพื่อการันตีความสำเร็จ
● ประสบการณ์ของลูกค้าอันเป็นหนึ่งเดียว: การสร้างสรรค์คอนเทนต์และประสบการณ์แบบองค์รวมสำหรับช่องทางการเข้าสู่หน้าร้านทั้งหมดผ่านข้อมูลและเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบ การกำหนดเป้าหมายการสื่อสารไปถึงลูกค้าในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดจะช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การเข้าถึงแบรนด์ได้สูงสุด
● โปรแกรมสมาชิกของแบรนด์: เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจว่าโปรแกรมทั้ง 2 ประเภทจะพร้อมใช้ เราได้มีการผสมผสานโปรแกรมสมาชิกของแบรนด์เข้ากับการซื้อสินค้าจากร้านค้าแบรนด์ชั้นนำบน LazMall ได้อย่างอย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม สำหรับแบรนด์ที่ไม่มีร้านค้าออฟไลน์ LazMall ที่พร้อมไปด้วยโซลูชันที่ใช้งานง่าย จะช่วยให้แบรนด์สามารถมอบสิ่งจูงใจแก่ลูกค้าได้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ
คุณเรย์มอนด์ หยาง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการแพลตฟอร์ม ลาซาด้า กรุ๊ป เปิดเผยว่า อีโคซิสเต็มของลาซาด้ามีคุณสมบัติที่สมบูรณ์ครอบคลุมทุกมิติ เช่น เครื่องมือตกแต่งระดับพรีเมียม การจัดประเภทกลุ่มผู้ใช้งาน และ API รวมถึงโซลูชันออนไลน์สู่ออฟไลน์ที่สามารถช่วยขยายฐานลูกค้าของแบรนด์ได้
โซลูชันที่ออกแบบโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ได้แก่
● การจัดการการมีส่วนร่วมของลูกค้า: ฟังก์ชันนี้เน้นมอบประสบการณ์ด้านการปฏิบัติการทันสมัยให้กับแบรนด์ โดยแบรนด์ต่างๆ จะสามารถควบคุมข้อมูลของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และยังสามารถเลือกการมอบรางวัลที่เหมาะสมให้กับลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ โดยอาศัยข้อมูลจากพฤติกรรมการซื้อสินค้า
● แคมเปญช้อปปิ้งหลากหลาย: รับประกันผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน ในแง่ของยอดคำสั่งซื้อและการเพิ่มยอดผู้เข้าชมร้านค้าสำหรับแบรนด์ต่างๆ ด้วยการผสมผสานโซลูชันด้านการตลาดชั้นนำของลาซาด้า เช่น Sponsored Affiliates, Sponsored Discovery และการจัดวางสินค้าตามลำดับความสำคัญ อีกทั้งยังมีการสนับสนุนด้วยอัลกอริทึมอัจฉริยะที่หลากหลาย การคัดเลือกอัตโนมัติและการใช้ประโยชน์จาก SKU คำค้นหา และภาพประกอบ จึงทำให้แคมเปญที่ออกมานั้นมีสินค้าในราคาที่เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น และยังช่วยให้แบรนด์บริหารจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
● เปิดตัวซูเปอร์สตาร์ชื่อดังชาวเกาหลีใต้ ฮยอน บิน ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคคนแรกของ LazMall
● ฟีเจอร์ต่างๆ ให้นักช้อปได้เพลิดเพลินทั้งตอนช้อปปิ้งและจ่ายเงิน เช่น การจำหน่ายสินค้าแบบพรีเซลและการร่วมมือกันของแบรนด์ต่างๆ รวมถึงโปรโมชัน Crazy Brand Mega Offer แฟลชเซล ฟรีค่าส่ง ลาซาด้าโบนัส รวมถึงคูปองส่วนลดสำหรับสินค้าทั้งหมดบนแพลตฟอร์มและสินค้าตามหมวดหมู่
● Lazzie Star ลูกเล่นใหม่ล่าสุดบน LazGames ให้นักช้อปได้ช่วย Lazzie (ลาสซี่) มาสคอตของลาซาด้าในการผลักดันขึ้นเป็นซูเปอร์สตาร์ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานลาซาด้ายังสามารถทำภารกิจประจำวันและมิชชันพิเศษเพื่อรับคูปองส่วนลดสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากแพลตฟอร์มและผู้ขาย รวมถึงรางวัลลาซาด้าโบนัส เพื่อใช้ในแคมเปญ 9.9 ได้อีกด้วย
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองปีที่สามของ LazMall และนับถอยหลังสู่แคมเปญ LazMall 9.9 Mega Brands Sale เมกะแคมเปญแรกในช่วงท้ายปีของลาซาด้า งาน Lazada’s LazMall Brands Future Forum 2021 ในครั้งนี้จึงได้จัดงานมอบรางวัล BFF Awards ครั้งที่สองขึ้นมาอีกด้วย
รางวัล BFF Awards 2021 เป็นรางวัลที่ยกย่องเก้าแบรนด์ชั้นนำ ทั้งแบรนด์ระดับโลกและแบรนด์ในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บน LazMall ที่มีผลงานและนวัตกรรมยอดเยี่ยมที่สุด โดย Estée Lauder คว้ารางวัลสูงสุด รางวัลสุดยอดแบรนด์ LazMall แห่งปีไปครอง ด้าน Samsung ก็สามารถคว้ารางวัลแบรนด์พันธมิตรยอดเยี่ยมไปครองได้สำเร็จ
รางวัลดังกล่าวยังเป็นการสนับสนุนความเป็นเลิศในแวดวงการค้าปลีกออนไลน์ ความสามารถในการปรับตัวและประยุกต์ใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจในสถานการณ์ที่การค้ากำลังพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง รวมถึงการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการจัดกิจกรรมที่สนุกและสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ผู้ได้รับรางวัลในปีนี้
รางวัลแบรนด์ใหม่ยอดเยี่ยม | Nike |
รางวัลแบรนด์ LazMall มาแรง | Coach |
รางวัลผลิตภัณฑ์ใหม่ยอดเยี่ยม | Lancôme for Lancôme Advanced Génifique Youth Activating Concentrate |
รางวัลกิจกรรมการตลาดยอดเยี่ยม | Shiseido Group |
รางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยม | Starbucks |
รางวัลแบรนด์พาร์ทเนอร์ดีเด่น | Synagie |
รางวัลการใช้เครื่องมือโปรโมทสินค้ายอดเยี่ยม | L'Oréal Consumer Products Division |
สำหรับเซสชันงานเสวนาในครั้งนี้ ดำเนินรายการโดย เอ็มมา เพเตอร์ซัน ประธานด้านโซลูชันกลยุทธ์แบรนด์ของ LazMall ระดับภูมิภาค ลาซาด้า กรุ๊ป นอกจากนี้ยังได้ เควิน แมคกิแกน รองประธานและกรรมการผู้จัดการประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และกรรมการผู้จัดการใหญ่ประจำสิงคโปร์ บริษัท 3เอ็ม เจโรม แฮมลิน หัวหน้าฝ่ายอุตสาหกรรมสำหรับอีคอมเมิร์ซ บริษัทกูเกิล และจูเลียนา ชู รองประธานฝ่ายดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากชิเซโด้ เข้าร่วมการเสวนา
ระหว่างการเสวนา เจโรม แฮมลิน จากกูเกิ้ล ได้อ้างอิงถึงรายงานล่าสุดของ e-Conomy Southeast Asia ที่นำเสนอข้อมูลน่าสนใจว่าการเสพสื่อดิจิทัลถือเป็นตัวเร่งที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของ แบรนด์กับผู้บริโภค โดยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปทำให้มีการค้นหาคำว่า “Seller” และ “Seller Center” เพิ่มขึ้นถึงสามเท่าตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น และมีความคาดหวังเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณถึงคุณภาพและบริการที่แบรนด์จะมอบให้จากการช้อปออนไลน์ นอกจากนั้น ยังเสริมว่าผู้บริโภคใช้เวลาดูวิดีโอมากขึ้นผ่านแพลตฟอร์มมากมาย เช่น YouTube และ แบรนด์ควรให้ความสำคัญกับการสื่อสารผ่านวิดีโอมากขึ้น รวมทั้งพิจารณาว่าจะทำงานร่วมกับ ครีเอเตอร์และการโฆษณาที่ใช้ข้อมูลขับเคลื่อนได้อย่างไร
เมื่อพูดถึงประเด็นที่ว่าแบรนด์จะทำอย่างไรให้สามารถรักษาลูกค้าได้อย่างยาวนาน จูเลียนา ชู ได้ยกตัวอย่างถึงชิเซโด้ที่เข้าร่วม LazMall เพื่อนำโซลูชันมาช่วยพัฒนาประสบการณ์ผู้บริโภค ซึ่งช่วยให้แบรนด์ได้ลูกค้าใหม่อีกมาก พร้อมแนะนำว่าแบรนด์สามารถเพิ่ม “ความเหนียวแน่น” และกระตุ้นให้ผู้บริโภคภักดีต่อแบรนด์ได้ด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นประจำผ่านการสร้างประสบการณ์ที่ดีไปยังลูกค้าในกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งรวมถึงการใช้ฟีเจอร์ Shoppertainment ที่ช่วยสร้างประสบการณ์ช้อปให้ “สนุก” ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่มีอายุน้อย รวมถึงการใช้เทคโนโลยีความงามที่ให้ความรู้สึกเสมือนว่ากำลังไปช้อปอยู่ในร้านจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการลองเสื้อผ้า หรือลองเครื่องสำอางแบบเสมือนจริง นอกจากนั้น จูเลียนา ชู ยังเน้นย้ำว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่จะวางแผนการซื้อสินค้าก่อนวันจัดเมกะแคมเปญ ดังนั้น แบรนด์จึงควรวางแผนล่วงหน้า และใช้กลยุทธ์แบบบูรณาการเพื่อเพิ่มยอดขายและทำให้ผู้บริโภคสะดุดตา ซึ่งสามารถทำได้จากการวิเคราะห์พฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภค เพื่อคาดการณ์ว่าจะนำเสนอสินค้าประเภทใดหรือประสบการณ์แบบใดให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละคน
เพื่อให้มั่นใจว่าแบรนด์จะประสบความสำเร็จในช่วงแคมเปญ แมคกิแกนแนะนำให้แบรนด์ต่าง ๆ ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนและเริ่มเตรียมการล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างทีมภายในและลาซาด้า โดยกรอบการทำงานพื้นฐานสำหรับผู้วางแผนเป็นครั้งแรกเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีอยู่เสมอ ก็คือการวางแผนการจัดการสินค้าคงคลังอย่างรอบคอบ และการคาดการณ์ถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นเพื่อทำให้แคมเปญดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
แมคกิแกนได้อธิบายวิธีการที่ 3 เอ็ม ใช้เป็นกลยุทธ์ในการจัดจำหน่ายและการจัดการสินค้า รวมถึงได้พูดคุยถึงความสำคัญของการทำความเข้าใจผู้บริโภคเพื่อทำให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมและผูกพันกับแบรนด์ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งการเรียนรู้ดังกล่าวนั้นครอบคลุมถึงการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่อธิบายได้อย่างชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีความแตกต่างอย่างไรทั้งในด้านคุณภาพและราคาเมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ นอกจากนี้ เขายังให้ความเห็นถึงการค้นพบที่น่าสนใจเกี่ยวกับการรีวิวสินค้าบน LazMall ที่แบรนด์กำลังเรียนรู้ “การทำความเข้าใจผู้บริโภคแบบย้อนกลับ” ซึ่งลูกค้าสามารถแบ่งปันประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด