Microsoft ประเทศไทย และ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปองค์กรด้วยดิจิทัล ในพิธีที่จัดขึ้นในรูปแบบเสมือนจริง (Virtual MoU Signing Ceremony) ในวันนี้ ภายใต้จุดมุ่งหมายในการยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานและศักยภาพในการบริการภาคธุรกิจและประชาชน ให้กับหน่วยงานภาครัฐไทย ทั้งในด้านการทำ Digital Transformation และการยกระดับทักษะทางดิจิทัล โดยข้อตกลงดังกล่าวยังรวมถึงการที่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย จะสนับสนุน NT ในด้านการปฏิรูปองค์กรด้วยดิจิทัล ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ตั้งแต่การพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงานและบุคลากร ไปจนถึงการร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ และความร่วมมือด้านโอกาสเชิงธุรกิจ

นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)  หรือ NT เป็นหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบในการให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมและดิจิทัลแก่ทุกภาคส่วนรวมถึงประชาชนทุกคนด้วยบริการที่มีศักยภาพ สามารถใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจได้อย่างเหมาะสม และที่สำคัญ NT เป็นหน่วยงานหลัก ในการผลักดันนโยบาย Digital 4.0 เพื่อให้องค์กรภาครัฐมีการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัล Thailand 4.0 (e-Government) รวมถึงเป็นผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคม และดิจิทัลแก่ภาครัฐ โดยเฉพาะบริการที่เกี่ยวข้องกับการบูรณาการข้อมูลภาครัฐเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และความปลอดภัยของประเทศ ที่ผ่านมา NT ได้ให้บริการทั้งโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) และบริการโทรคมนาคมและดิจิทัล มาอย่างต่อเนื่อง การได้ร่วมมือกับบริษัทไมโครซอฟท์ประเทศไทยในครั้งนี้ ผมเชื่อมั่นว่าจะนำมาซึ่งรูปแบบวิธีการทำงานและบริการที่ทันสมัยมีศักยภาพพร้อมให้ทุกภาคส่วนก้าวเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต”

นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ทำให้เราได้มีส่วนร่วมในการยกระดับศักยภาพของประเทศไทย ผ่านการนำองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีของเรามาต่อยอดในการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ เพื่อสร้างประโยชน์ทั้งในระดับองค์กรและระดับประเทศ โดยนอกจากการสนับสนุนในด้านเทคโนโลยีอย่างคลาวด์ ข้อมูล AI และความปลอดภัยแล้ว เรายังมุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนด้านการพัฒนาทักษะบุคลากร ด้วยทรัพยากรการเรียนรู้และความรู้ความเชี่ยวชาญที่ครอบคลุมของเรา ตลอดจนสร้างเครือข่ายความร่วมมือเชิงธุรกิจที่แข็งแกร่งร่วมกับ NT พร้อมกันนี้ เรายังจะได้ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ทันสมัย และตอบโจทย์ความต้องการของภาครัฐและกลุ่มลูกค้าของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ

“ข้อตกลงความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์และ NT นับเป็นการต่อยอดความมุ่งมั่นของไมโครซอฟท์ในการขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีในทุกภาคส่วน รวมถึงการยกระดับนวัตกรรมดิจิทัลในหน่วยงานภาครัฐ พร้อมส่งเสริมโอกาสในกลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต (New S-Curve) โดยสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล” นายธนวัฒน์กล่าวเสริม

ทั้งนี้ ความร่วมมือนี้ครอบคลุมการดำเนินงานรวม 4 ด้านใหญ่ๆ ได้แก่

• ปฏิรูประบบการดำเนินงานของ NT ด้วยการปรับโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัย เพื่อให้ NT เดินหน้าและแข่งขันได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมใช้งานนวัตกรรมทั้งคลาวด์, Modern Workplace, การวิเคราะห์ข้อมูล, AI หรือ IoT ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมด้วยรากฐานที่มั่นคงจากมาตรฐานระดับโลกด้านความปลอดภัย ยกระดับระบบงานสู่ความเป็นเลิศทั่วทั้งองค์กร
• พัฒนาทักษะด้านคลาวด์ พร้อมด้วยวัฒนธรรมการทำงานแบบดิจิทัล ด้วยการเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นในอนาคตแก่บุคลากรของ NT ในทุกระดับ โดยต่อยอดจากโครงการพัฒนาทักษะเชิงดิจิทัลของไมโครซอฟท์ พร้อมส่งเสริมการเรียนรู้จากแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (best practice) และมุ่งเน้นในการปรับใช้วัฒนธรรม แนวทางปฏิบัติ และเครื่องมือ DevOps เพื่อเสริมศักยภาพในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพิ่มความมั่นใจในการพัฒนาโซลูชั่น และบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้เร็วขึ้นอีกด้วย
• ส่งเสริมการให้บริการด้านโซลูชั่นคลาวด์ โดยไมโครซอฟท์และ NT จะร่วมกันสร้างโอกาสเชิงธุรกิจที่ตอบโจทย์และอำนวยความสะดวกให้กับการปฏิรูปองค์กรด้วยดิจิทัลของหน่วยงานภาครัฐในประเทศไทย ผ่านการดำเนินงานร่วมกันในฐานะพันธมิตรด้าน Digital Transformation โดยมุ่งสร้างโอกาสและความเปลี่ยนแปลงผ่านเครือข่ายและช่องทางของทั้งสองฝ่าย
• พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการร่วมกัน ไมโครซอฟท์และ NT จะนำความรู้ความเชี่ยวชาญ เครื่องมือ เทคโนโลยี และทรัพยากรต่างๆ ของทั้งสององค์กรมาประยุกต์ใช้ เพื่อร่วมพัฒนาโซลูชันและโมเดลธุรกิจใหม่ร่วมกัน โดยมุ่งเน้นตอบโจทย์ความต้องการของภาครัฐต่อบริการด้านข้อมูล การเปิดโอกาสในการทำงานร่วมกันข้ามหน่วยงาน การดำเนินงานที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และโซลูชัน 5G เป็นต้น

“เรามั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพให้กับ NT และประเทศไทยได้อย่างรอบด้าน นับตั้งแต่การสร้างทักษะเชิงดิจิทัลระดับสูงในกลุ่มบุคลากรของภาครัฐ และ NT ไปจนถึงการยกระดับด้านความปลอดภัย บริการสาธารณะแบบดิจิทัล การใช้ข้อมูลเพื่อสาธารณประโยชน์ และการเสริมสร้างวัฒนธรรมที่กระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมและความคล่องตัวมากขึ้นในระดับองค์กร” นายธนวัฒน์ กล่าว

นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “NT มีความพร้อมและมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์รูปแบบและแนวทางการดำเนินชีวิตที่ดีขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมและดิจิทัล เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเท่าทันการเปลี่ยนเปลงของเทคโนโลยีที่รวดเร็วและที่สำคัญ คือ NT พร้อมเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะขับเคลื่อนนโยบายในการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ให้ก้าวสู่สังคมดิจิทัลอย่างสมบูรณ์”