จากผลการสำรวจเกี่ยวกับ “AI สำหรับการปรับแต่งแบบเฉพาะบุคคล (Personalization)” พบว่าแบรนด์ต่างๆ ราว 36% ได้ทำการปรับแต่งประสบการณ์บนโมบายล์ไซต์ให้เป็นแบบเฉพาะบุคคล และ 12% กำลังทำการปรับแต่งแบบเดียวกันนี้สำหรับโมบายล์แอพ ด้วยเหตุนี้ แบรนด์ที่ต้องการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับความท้าทายในปัจจุบันและอนาคต จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องติดตามเทรนด์โมบายล์อย่างใกล้ชิดเพื่อก้าวให้ทันกระแสการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
เราได้รวบรวมเทรนด์สำคัญๆ สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพและออกแบบประสบการณ์โมบายล์ ซึ่งส่วนหนึ่งคือเทรนด์ที่คุณจำเป็นต้องดำเนินการในทันที และอีกส่วนหนึ่งคือเทรนด์ที่คุณต้องวางแผนเพื่อรับมือในอนาคต
ถ้าหากโมบายล์ไซต์ของบริษัทเป็นเพียงแค่เวอร์ชั่นขนาดย่อของเว็บไซต์หลัก ก็ควรรีบดำเนินการเปลี่ยนแปลงในทันที เพราะจากผลสำรวจ Adobe Digital Insights (ADI) พบว่าผู้บริโภคเข้าดูเว็บไซต์ค้าปลีกผ่านอุปกรณ์มือถือมากกว่าเดสก์ท็อป และภายในปีสิ้นปี 2565 รายได้กว่าครึ่งหนึ่งของผู้ค้าปลีกจะมาจากการซื้อและจ่ายค่าสินค้าผ่านมือถือของผู้บริโภค ดังนั้น ทีมงานควรจะจัดสรรทรัพยากรอย่างเพียงพอสำหรับการปรับแต่งประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคลบนอุปกรณ์มือถือ
เมื่อปีที่แล้ว กูเกิลได้ทำการปรับเปลี่ยนการจัดทำดัชนีโดยให้ความสำคัญกับมือถือเป็นหลักสำหรับเว็บไซต์ใหม่ๆ นั่นหมายความว่าแทนที่จะตรวจสอบไซต์เดสก์ท็อป ตอนนี้กูเกิลจะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับไซต์เหล่านี้โดยพิจารณาจากการแสดงผลบนอุปกรณ์มือถือ ซึ่งจะส่งผลให้การปรับแต่งเสิร์ชเอนจิ้นบนมือถือ (Mobile SEO) มีความสำคัญสูงสุด ด้วยเหตุนี้ แบรนด์ต่างๆ จึงต้องเฝ้าระวังเกี่ยวกับ SEO สำหรับพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากกูเกิลพบว่าการค้นหาข้อมูลผ่านมือถือสำหรับ “สถานที่ซื้อ” “ใกล้ที่นี่” เพิ่มขึ้นกว่า 200% ในช่วงสองปีที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก Accenture ระบุว่าผู้บริโภค 63% ต้องการให้แบรนด์ต่างๆ นำเสนอคำแนะนำแบบเฉพาะบุคคล แต่ปัจจุบัน การแนะนำสินค้าโดยอ้างอิงเฉพาะรายการสินค้าที่เรียกดูล่าสุดไม่เพียงพอที่จะดึงดูดลูกค้าอีกต่อไป เนื่องจากผู้บริโภคคาดหวังว่าบริษัทจะทราบถึงพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของเขา รวมถึงสิ่งที่เขาสนใจเป็นพิเศษ และผู้บริโภคคาดหวังว่าจะได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมโดยอ้างอิงจากข้อมูลดังกล่าว
ปีนี้คือช่วงเวลาที่ 5G จะเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยผู้ให้บริการมือถือรายสำคัญๆ ได้เริ่มเปิดใช้เครือข่าย 5G ตามเมืองใหญ่กันบ้างแล้ว และผู้ผลิตสมาร์ทโฟนก็เตรียมวางจำหน่ายรุ่นที่รองรับ 5G กันมากขึ้น งานวิจัยของ Strategy Analytics ชี้ให้เห็นว่า สมาร์ทโฟน 5G จะครองสัดส่วนครึ่งหนึ่งของยอดขายสมาร์ทโฟนทั้งหมดภายในห้าปีข้างหน้า ดังนั้นแบรนด์ต่างๆ จึงควรวางแผนและเตรียมการเพื่อออกแบบประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคลสำหรับ 5G
ขณะที่ผู้บริโภคยกระดับการติดต่อสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย พวกเขาก็คาดหวังว่าบริษัทต่างๆ จะนำเสนอประสบการณ์สำหรับโลกเสมือนจริงด้วยเช่นกัน ด้วยการเปิดตัว Facebook Horizon ในปี 2563 ประสบการณ์ Virtual Reality (VR) แบบเฉพาะบุคคลจะกลายเป็นที่ต้องการอย่างมาก และโฆษณาแบบเฉพาะบุคคลในโลกเสมือนจริงนี้ก็จะเติบโตอย่างมากด้วยเช่นกัน
ตั้งแต่ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติไปจนถึงตู้แช่อาหาร ทั้งหมดนี้คือช่องทางที่จะนำเสนอประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้บริโภค โดยอาจมีการแสดงโฆษณาแบบเจาะกลุ่มเป้าหมายไว้บนบานประตูของตู้เย็นในห้าง ซึ่งจะปรับเปลี่ยนตามความสนใจของผู้บริโภค หรือส่งข้อความแจ้งเตือนเกี่ยวกับขนมที่ผู้บริโภคชื่นชอบเมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ
ในปี 2020 แบรนด์จะต้องพิจารณาเรื่องการพัฒนาแพลตฟอร์มโมบายล์มากขึ้นเป็นพิเศษ และการปรับแต่งแบบเฉพาะบุคคล (Personalization) คือหนทางที่จะช่วยให้คุณสร้างแต้มต่อและเอาชนะคู่แข่ง รวมถึงกระแสความเปลี่ยนแปลง การทำความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการ ความจำเป็นของผู้บริโภค และการนำเสนอประสบการณ์โมบายล์ที่ผู้บริโภคใช้งานมากที่สุด จะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ พร้อมรับมือกับเทรนด์ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
สุดท้ายที่ ดรู เบิร์นส์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Adobe แนะนำว่า
ยิ่งเรารู้สึกคุ้นเคยมากเท่าไร เราก็จะยิ่งรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์โดยรวมมากขึ้นเท่านั้น และประสบการณ์ดังกล่าวก็จะยิ่งสร้างความประทับใจให้แก่เรามากยิ่งขึ้น
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด