One Bangkok กับแนวคิด “เมืองที่พร้อมอยู่เสมอ” รองรับด้วยมาตรฐานระดับโลก

การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ มาพร้อมกับความท้าทายหลากหลายด้าน ทำให้หลายคนมองหา “เมืองที่เหมาะกับการอยู่อาศัย” ที่ตอบโจทย์ได้รอบด้าน รายงาน Global Liveability Index 2025 จาก The Economist Intelligence Unit (EIU) ชี้ว่า เมืองอย่างโคเปนเฮเกน เวียนนา และซูริก ติดอันดับต้น ๆ เพราะมีคุณภาพชีวิตที่ครบถ้วน ทั้งในเรื่องความปลอดภัย การดูแลสุขภาพ สิ่งแวดล้อม การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน คำถามคือ กรุงเทพฯ มีพื้นที่แบบนี้หรือไม่?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายโครงการอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ เริ่มพัฒนาพื้นที่โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตมากขึ้น ทั้งการวางผังที่รอบคอบ การออกแบบที่คำนึงถึงผู้คน ไปจนถึงการนำเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ ๆ มาใช้ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยและสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของเมืองในอนาคต

วัน แบงค็อก เป็นหนึ่งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ถูกวางแผนและพัฒนาอย่างรอบด้าน ตั้งแต่การออกแบบ การก่อสร้าง ไปจนถึงการบริหารจัดการ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิด “เมืองที่พร้อมอยู่เสมอ” ไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มอาคารขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ถูกออกแบบให้เป็น Green Smart City ที่ขับเคลื่อนด้วย 3 แนวคิดหลัก คือ People-Centricity, Sustainability และ Smart City Living ซึ่งถูกนำมาใช้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดวางผังเมือง การเลือกวัสดุ ไปจนถึงระบบจัดการภายใน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตอย่างราบรื่นและมีคุณภาพ 

ความมั่นคงปลอดภัย รากฐานสำคัญของชีวิตคุณภาพ

วัน แบงค็อก ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยของผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ โดยมี District Command Center (DCC) เป็นศูนย์กลางคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เก็บข้อมูลจากเซ็นเซอร์กว่าล้านจุดและกล้องวงจรปิดกว่า 5,000 ตัว ทำให้สามารถติดตามสถานการณ์ได้แบบเรียลไทม์ ระบบนี้ทำงานร่วมกับ Integrated Security System ที่ใช้เทคโนโลยี AI ตรวจจับความผิดปกติและส่งสัญญาณเตือนทันที รวมถึงระบบควบคุมการเข้าออกด้วย QR Code และการจดจำใบหน้า เพื่อช่วยให้พื้นที่มีความปลอดภัยมากขึ้น

โครงการยังมีระบบ Disaster Management สำหรับจัดการเหตุฉุกเฉิน โดยวางขั้นตอนการทำงานไว้ 4 ด้าน คือ การรับรู้สถานการณ์จากข้อมูลที่อัปเดตทันที (Situational Awareness) การสนับสนุนข้อมูลให้ผู้บริหารตัดสินใจ (Decision-Making Support) การสื่อสารและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (Communication & Coordination) และการรับมือความขัดข้องของระบบได้ทันท่วงที ด้วยการตรวจสอบอัจฉริยะเพื่อลดผลกระทบ (Incident Management)

นอกจากการดูแลความปลอดภัยในชีวิตประจำวันแล้ว วัน แบงค็อก ยังใส่ใจเรื่องความมั่นคงของโครงสร้างอาคารเป็นพิเศษ ทุกอาคารถูกออกแบบให้ทนต่อแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว โดยใช้เสาเข็มลึกถึง 80 เมตร ซึ่งถือว่าลึกที่สุดในประเทศไทย และมีฐานรากขนาดกว่า 100,000 ตารางเมตร ที่ออกแบบให้เชื่อมกับโครงสร้างอาคารอย่างยืดหยุ่น เพื่อรองรับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ด้านการจัดการน้ำท่วม โครงการมีบ่อกักเก็บน้ำฝน รวมความจุ 15,000 ลูกบาศก์เมตร เสริมด้วยกำแพงและประตูน้ำที่สามารถติดตั้งได้ภายใน 2 ชั่วโมง รวมถึงมีแผนป้องกันน้ำท่วมฉุกเฉิน โดยใช้สถานีตรวจอากาศ 4 จุด และระบบติดตามระดับน้ำเพื่อคาดการณ์และแจ้งเตือนล่วงหน้า ช่วยลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมและเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตในพื้นที่

เชื่อมต่อกับชีวิตเมืองแบบไร้รอยต่อ

วัน แบงค็อก ถูกออกแบบให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมือง และสนับสนุนการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายในโครงการมีทางเดินเท้าและเลนจักรยาน เพื่อให้คนสามารถเข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ ได้สะดวก นอกจากนี้ โครงการยังเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะครบวงจร ทั้งสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน สถานีลุมพินี และมีทางเข้าออกรอบโครงการถึง 6 จุด รวมถึงทางเชื่อมตรงเข้าสู่ทางด่วน สำหรับความสะดวกเพิ่มเติม ยังมีบริการ EV Shuttle Service รับ-ส่งฟรี ระหว่างโครงการกับ BTS สถานีเพลินจิต ช่วยให้การเดินทางในชีวิตประจำวันง่ายขึ้น 

สุขภาวะที่ดี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

วัน แบงค็อก ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้พื้นที่ โดยออกแบบอาคารให้สภาพแวดล้อมภายในเหมาะกับการใช้ชีวิต เช่น การใช้กระจกฉนวนกันความร้อนช่วยรักษาอุณหภูมิภายใน ลดเสียงรบกวนจากภายนอก และลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ช่องเปิดและหน้าต่างได้รับการวางตำแหน่งให้แสงธรรมชาติส่องเข้าถึงภายในอาคาร ทำให้บรรยากาศโปร่งสบาย

คุณภาพอากาศภายในอาคารได้รับการดูแลด้วยไส้กรอง MERV 8 และ MERV 14 ที่กรองฝุ่น PM2.5 และ PM10 พร้อมรังสี UV สำหรับฆ่าเชื้อโรค และเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ นอกจากนี้ พื้นที่สาธารณะมีระบบไร้สัมผัส เช่น การสแกน QR หรือจดจำใบหน้า ลดการสัมผัสร่วม เครื่องกรองน้ำดื่มถูกติดตั้งทุกชั้น ใช้ไส้กรองคาร์บอนและท่อไร้สารตะกั่ว พร้อมทดสอบคุณภาพน้ำอย่างสม่ำเสมอ วัสดุก่อสร้างและตกแต่งเลือกใช้วัสดุปลอดภัย ปราศจากสารพิษ เช่น ตะกั่ว ปรอท และสารระเหยสูง เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพในชีวิตประจำวัน

มาตรฐานระดับโลกเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

วัน แบงค็อก เป็นโครงการแรกในไทยที่ได้รับการรับรอง LEED for Neighbourhood Development (LEED ND) ระดับ Platinum ซึ่งสะท้อนถึงการวางแผนพื้นที่รอบโครงการให้เหมาะกับการเดินและการพักผ่อน การเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในระยะเดิน การเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะ การจัดการพลังงาน น้ำ และทรัพยากร รวมถึงสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้คนที่มาใช้พื้นที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว

วัน แบงค็อก ยังมุ่งไปสู่การรับรอง WELL Building Standard ระดับ Platinum ซึ่งครอบคลุมคุณภาพอากาศ น้ำ แสงสว่าง การออกกำลังกาย สาธารณูปโภค และการออกแบบภายใน เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

นอกจากนี้ อาคารสำนักงานและที่พักอาศัยของโครงการยังได้รับการรับรอง WiredScore Platinum สำหรับการเชื่อมต่อดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ และ SmartScore Platinum ที่นำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้เพื่อประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้งาน ส่งผลให้ทั้งโครงการได้รับการรับรองระดับ Neighborhood เป็นโครงการแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

มาตรฐานเหล่านี้ทั้งด้านโครงสร้าง ระบบอัจฉริยะ และความยั่งยืน ช่วยสนับสนุนเป้าหมาย ESG และยืนยันว่าทุกองค์ประกอบของโครงการถูกออกแบบเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ “เมืองที่พร้อมอยู่เสมอ” รองรับทุกการใช้ชีวิตอย่างสะดวกและยั่งยืน

เมืองที่ไม่หยุดนิ่ง พร้อมต้อนรับทุกคน

วัน แบงค็อก เป็นศูนย์รวมพื้นที่ชอปปิงและไลฟ์สไตล์ที่เชื่อมต่อกันผ่านเส้นทาง Retail Loop ครอบคลุมร้านค้ากว่า 900 ร้าน นอกจากนี้ โครงการยังผสมผสานธรรมชาติ ศิลปะ และวัฒนธรรมไว้ด้วยกัน มีพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งกว่า 50 ไร่ เช่น One Bangkok Park, One Bangkok Boulevard, Wireless Park และ Parade Park ที่ออกแบบให้เป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับทุกคน มีทางเดินร่มไม้ยาวกว่า 5 กิโลเมตร และ Art Loop เส้นทางศิลปะและวัฒนธรรมยาวกว่า 2 กิโลเมตร ช่วยให้ผู้คนใกล้ชิดศิลปะและวัฒนธรรมได้ตลอดทั้งโครงการ 

โครงการออกแบบให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายตามหลัก อารยสถาปัตย์ (Universal Design) ไม่ว่าจะเป็นทางสำหรับผู้ใช้รถเข็น ทางเท้าสำหรับผู้มีปัญหาสายตา หรือป้ายและสัญลักษณ์นำทางทั่วโครงการ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เวิร์คช็อป นิทรรศการ และการพบปะพูดคุย เพื่อช่วยให้คนเรียนรู้และพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ พร้อมทั้งจัดอีเวนท์ตลอดปี เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สนุกและใช้เวลาที่นี่อย่างคุ้มค่า

เร็ว ๆ นี้ วัน แบงค็อก จะเปิด Community Hub พื้นที่สำหรับคนทำงานในอาคารสำนักงาน ให้พักผ่อน พบปะแลกเปลี่ยนไอเดียและสร้างเครือข่ายธุรกิจ ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเอื้อต่อการพูดคุย 

ทั้งหมดนี้คือปัจจัยซึ่งทำให้ วัน แบงค็อก เป็น "เมืองที่พร้อมอยู่เสมอ" ที่จะส่งเสริมให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มศักยภาพในทุกมิติ ในทุก ๆ วัน ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของวัน แบงค็อก ได้ที่ www.onebangkok.com หรือติดตาม Facebook: One Bangkok Retail, Instagram: parade.onebangkok , TikTok: onebangkok.retail หรือแอด LINE: @onebangkokretail เพื่อรับทราบข้อมูลก่อนใคร