SAP พร้อมขยายเครือข่ายธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก เผยโฉมนวัตกรรมใหม่สำหรับองค์กร | Techsauce

SAP พร้อมขยายเครือข่ายธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก เผยโฉมนวัตกรรมใหม่สำหรับองค์กร

SAP ประกาศวิสัยทัศน์ครั้งสำคัญ ด้านการสร้างเครือข่ายชุมชนทางธุรกิจรูปแบบใหม่ ภายในงานแสดงเทคโนโลยีประจำปี SAPPHIRE NOW เพื่อช่วยปรับปรุงผลลัพธ์ทางธุรกิจ นำพาให้องค์กรสามารถเดินหน้าต่อไปได้ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงผลักดันการมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจในการสร้างความยั่งยืน ขณะเดียวกัน เอสเอพี ได้เผยขั้นตอนแรกสู่การสร้างเครือข่ายธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย SAP® Business Network ซึ่งผนวกรวม Ariba® Network, SAP Logistics Business Network และ SAP Asset Intelligence Network เข้าไว้ด้วยกัน โดยองค์กรกว่า 5.5 ล้านแห่ง ที่เชื่อมต่อกันจะได้รับประโยชน์จากการเป็นสมาชิกของเครือข่ายชุมชนนี้

SAP 01

สำหรับการประกาศเปิดตัวในครั้งนี้ เอสเอพียังได้เผยนวัตกรรมใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงกระบวนการทางธุรกิจให้เป็นดิจิทัลและทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อก้าวสู่การเป็นอินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ นอกจากนี้ ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากชุดแอพพลิเคชั่นธุรกิจด้านความยั่งยืนใหม่ ที่มีความโปร่งใสในการติดตามข้อมูลและความสามารถด้านการวัดผลทั่วทั้งระบบซัพพลายเชนอย่างครอบคลุม

นายคริสเตียน ไคลน์ ซีอีโอและกรรมการบริหารของ เอสเอพี กล่าวว่า “สถานการณ์ต่างๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา ได้ตอกย้ำให้พวกเราเล็งเห็นถึงความสำคัญของเครือข่ายชุมชนทางธุรกิจที่พวกเราต่างเป็นส่วนหนึ่งในนั้น วิสัยทัศน์ใหม่ของเรา คือ การสร้างเครือข่ายชุมชนทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่จะทำให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อกับทุกบริษัทในซัพพลายเชนของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย และเปิดโอกาสในการสร้างเครือข่ายเศรษฐกิจระหว่างอุตสาหกรรม”

ในขณะที่ทุกคนล้วนเคยเห็นพลังของเครือข่ายทางสังคมในชีวิตส่วนตัวมาแล้ว การสร้างเครือข่ายระบบนิเวศน์แบบเดียวกันนี้สำหรับภาคธุรกิจที่ต้องการมองหาพาร์ทเนอร์เพื่อทำธุรกิจร่วมกัน จะมีความแตกต่างกว่าที่เคยเป็นมา สมาชิกของ SAP Business Network เครือข่ายชุมชนทางธุรกิจรูปแบบใหม่ จะสามารถเข้าถึงพอร์ทัลที่รวมศูนย์ไว้ในที่เดียวและสามารถมองเห็นภาพรวมของระบบนิเวศน์ซัพพลายเชน ระบบโลจิสติกส์และการตรวจสอบย้อนกลับ รวมถึงการจัดการและการบำรุงรักษาอุปกรณ์และการดำเนินงาน (สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ “SAP เปิดตัว SAP Business Network”)

แน่นอนว่าช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19  องค์กรที่สามารถปรับตัวได้ดีที่สุดท่ามกลางความไม่แน่นอน คือ องค์กรที่นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการทางธุรกิจ ผู้ที่ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์เพียงอย่างเดียวแต่ไม่ได้ปรับกระบวนการทางธุรกิจหลักสู่ระบบดิจิทัลอาจปรับตัวได้ไม่ดีเท่าที่ควร และเพื่อเป็นการช่วยให้ทุกองค์กรดำเนินงานได้อย่างคล่องตัวในแบบ อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ เอสเอพี เปิดตัว RISE with SAP transformation packages for specific industries ซึ่งต่อยอดจากความสำเร็จในการเปิดตัว RISE with SAP เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดย RISE with SAP transformation packages for specific industries พร้อมมอบบริการที่มุ่งพลิกโฉมทางธุรกิจด้วย 5 โซลูชั่นคลาวด์ที่ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมค้าปลีก สินค้าอุปโภคบริโภค ยานยนต์ สาธารณูปโภค และ เครื่องจักรและส่วนประกอบทางอุตสาหกรรม (สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ “เริ่มการเดินทางสู่การทำดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่นด้วย RISE with SAP for Industries” )

แม้ในปีที่ผ่านมา การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะลดน้อยลงในช่วงสั้นๆ สวนทางกับปีนี้ที่ปริมาณการปล่อยก๊าซเพิ่มสูงขึ้นเป็นอันดับสองในประวัติการณ์ การสร้างความยั่งยืนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของธุรกิจเทียบเท่ากับรายได้และผลกำไร ซึ่งถึงเวลาแล้วที่องค์กรต่างๆ ต้องตระหนักและลงมือผลักดันด้านความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม เอสเอพี ตั้งเป้าหมายหลักในการส่งเสริมให้ ‘การปกป้องภูมิอากาศ’ (Climate protection) สามารถวัดผลได้ พร้อมเดินหน้าผลักดันด้านอื่นๆ อาทิ สนับสนุนความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของพนักงาน การทำให้ความรับผิดชอบตามหลักจรรยาบรรณมีความโปร่งใส

จากความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายนี้และทำให้กระบวนการทางธุรกิจหลักดำเนินงานได้อย่างยั่งยืน เอสเอพี ประกาศเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์เฉพาะด้านความยั่งยืนชุดใหม่ ประกอบด้วยโซลูชั่น SAP Responsible Design and Production ที่มาประสิทธิภาพซึ่งจะช่วยให้นักออกแบบผลิตภัณฑ์มีทางเลือกในการสร้างความยั่งยืนตั้งแต่ช่วงต้นของการสร้างแนวคิดผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการผลิต รวมถึง โซลูชั่น SAP Product Footprint Management ที่ส่งมอบบริการสำหรับติดตามความยั่งยืนผ่านวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ และ โซลูชั่น SAP Sustainability Control Tower ทำให้องค์กรมองเห็นภาพรวมการดำเนินงานที่ครอบคลุม (สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ “การจัดการความยั่งยืนโดยเอสเอพี: เริ่มต้นวันนี้เพื่อวันพรุ่งนี้” )



ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

SCBX ไตรมาส 1 ปี 67 กำไร 11,281 ล้านบาท เตรียมลุย 'Virtual Bank' พร้อมก้าวสู่องค์กร AI-First Organization

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ของปี 2567 จำนวน 11,281 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% จากปีก่อน...

Responsive image

“Money 20/20 Asia” ปักหมุดศูนย์ฯ สิริกิติ์ 3 ปี ส่งเสริมไทยสู่ศูนย์กลางฟินเทคชั้นนำของเอเชีย

เปิดประตูบานใหม่สู่ “Money 20/20 Asia” ครั้งแรกของเอเชีย ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในวันที่ 23 – 25 เมษายน 2567 ที่ดึงดูดผู้คร่ำหวอดด้านฟินเทค และบริการทางการเงินกว่า 20,00...

Responsive image

เตรียมพบกับงานสัมมนา Social Value thailand Forum 2024 เปลี่ยนผ่านประเทศสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน

งานสัมมนาเปลี่ยนผ่านประเทศสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยฐานความรู้ นวัตกรรม และความร่วมมือรัฐ เอกชน สังคม Accelerating Education and Partnership for the SDGs...