เผยเคล็ดลับ! ลงทุนอย่างไร ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวลง | Techsauce

เผยเคล็ดลับ! ลงทุนอย่างไร ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวลง

นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนที่มีชื่อเสียงหลายท่าน เช่น Robert Shiller นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลมองว่า ในปี 2020 โอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย Recession น้อยกว่า 50% แต่อาจเป็นปีเริ่มต้นของช่วง Recession

ขณะที่ทางด้าน Ray Dalio ผู้จัดการกองทุน Bridge water มองว่าในปี 2020 มีโอกาสเกิด Recession 25% และแม้แต่บริษัท Berkshire Hathaway ของสุดยอกนักลงทุนอย่าง Warren buffet ก็ยังถือเงินสดสูงถึง 120,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 60% ของพอร์ตการลงทุน 

แม้แต่นักลงทุนที่มีฝีมือและมีชื่อเสียงยังกังวลกับเศรษฐกิจ แล้วเราในฐานะนักลงทุนรายย่อยก็ควรจะต้องหาวิธีรับมือสำหรับการลงทุนในแนวโน้มที่เศรษฐกิจโลกเติบโตช้าลงและไม่สดใสในอีก 1-2 ปีข้างหน้ากันบ้าง

คุณศรชัย สุเนต์ตา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลด้านการลงทุนและที่ปรึกษาการลงทุน (CIO Office) ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ช่วงตุลาคม 2007 - สิ้นปี 2008 ที่ตลาดหุ้นทั่วเกือบทั่วโลกปรับตัวลดลงกว่า -50% นั้น ยังมีหุ้นบางกลุ่มที่ปรับตัวลดน้อยกว่าตลาด หรือแม้กระทั่งให้ผลตอบแทนบวกสวนทางกับดัชนีตลาดหุ้น

เพราะถึงแม้เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ก็ยังมีสินค้าหรือบริการที่ผู้บริโภคอย่างเราจำเป็นต้องซื้อสินค้าและใช้บริการ เช่น หุ้นกลุ่มค้าปลีกอย่าง CPALL และ WALMART มีผลตอบแทน 8.85% และ 26.06% ตามลำดับ   หรือ หุ้นกลุ่มอาหารอย่าง McDonald’s ที่เป็นร้านอาหาร Fast Food ยอดนิยมและมีสาขากระจายไปยังทั่วโลกก็ปรับตัวสูงขึ้น 16.36% เหตุผลที่หุ้นกลุ่มดังกล่าวข้างต้นได้รับผลกระทบน้อยกว่าอื่นนั้นไม่ได้มาจากอุตสาหกรรมอย่างเดียว 

แต่มาจากการที่ธุรกิจนั้นมีกระแสเงินสดที่ดีและวงจรเงินสดที่สั้น ธุรกิจเหล่านี้เวลาขายของให้ลูกค้าจะได้รับเป็นเงินสดจากลูกค้า แต่เวลาซื้อของกับคู่ค้านั้นได้เครดิตการค้าอีก 2-3 เดือน จึงค่อยจ่ายชำระค่าสินค้า ซึ่งแตกต่างกับธุรกิจอื่นที่มักขายเชื่อให้กับลูกค้าและเมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงก็ทำให้ลูกค้าอาจขอเลื่อนขยายการชำระเงินหรือเป็นหนี้เสียได้

ทั้งนี้ CIO Office มองว่า เราอาจไม่สามาถทำนายได้อย่างแม่นยำว่าวิกฤตเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่เราสามารถเตรียมพร้อมรับมือให้กับการลงทุนของเราได้ โดยการลดความเสี่ยงของสินทรัพย์ที่นักลงทุนถือ เช่น ลดการใช้ Leverage และ Margin ในการลงทุน , เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive หรือบริษัทที่มีความสามารในการแข่งขันที่สูง (Competitive Advantage) เน้นบริษัทที่มีกระแสเงินสดที่ดี 

ตามคำพูดที่ว่า “Cash Flow is King” อย่างไรก็ตาม การกระจายความเสี่ยงก็เป็นเรื่องที่สำคัญเทียบเท่ากับเลือกสินทรัพย์ที่ดี ดังนั้นอย่าลืมการจัดพอร์ตการลงทุนที่มีสินทรัพย์ที่หลากหลายหรือไม่ควรถือไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว

เขียนโดย: SCB Chief Investment Office

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

SCBX ไตรมาส 1 ปี 67 กำไร 11,281 ล้านบาท เตรียมลุย 'Virtual Bank' พร้อมก้าวสู่องค์กร AI-First Organization

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ของปี 2567 จำนวน 11,281 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% จากปีก่อน...

Responsive image

“Money 20/20 Asia” ปักหมุดศูนย์ฯ สิริกิติ์ 3 ปี ส่งเสริมไทยสู่ศูนย์กลางฟินเทคชั้นนำของเอเชีย

เปิดประตูบานใหม่สู่ “Money 20/20 Asia” ครั้งแรกของเอเชีย ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในวันที่ 23 – 25 เมษายน 2567 ที่ดึงดูดผู้คร่ำหวอดด้านฟินเทค และบริการทางการเงินกว่า 20,00...

Responsive image

เตรียมพบกับงานสัมมนา Social Value thailand Forum 2024 เปลี่ยนผ่านประเทศสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน

งานสัมมนาเปลี่ยนผ่านประเทศสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยฐานความรู้ นวัตกรรม และความร่วมมือรัฐ เอกชน สังคม Accelerating Education and Partnership for the SDGs...