การทำงานร่วมกันของกลุ่มบุคคลจากหลากหลายเพศสามารถนำมาซึ่งโซลูชันที่สร้างสรรค์และแปลกใหม่ด้วยมุมมองที่แตกต่างจะส่งผลให้เกิดผลงานที่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตามการเหมารวมว่าวงการเทคโนโลยีเป็นอุตสาหกรรมสำหรับผู้ชายเป็นหลักนั้นอาจทำให้บุคคลากรหญิงไม่เลือกที่จะเดินในสายนี้ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคของความก้าวหน้าด้านการสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นอย่างยิ่ง จึงทำให้เกิดความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการสนับสนุนให้ผู้หญิงหันมาสนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมนี้
เมื่อเร็วๆนี้ ไมโครซอฟท์จัดกิจกรรม #MakeWhatsNext – DigiGirlz 2019 Thailand โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กนักเรียนหญิงไทยให้ตระหนักถึงศักยภาพของตนเองและรับรู้ถึงทิศทางที่ถูกต้อง เพื่อสามารถทำตามความฝันด้านสะเต็มศึกษาให้สำเร็จ ผ่านการแข่งขันการใช้ทักษะดิจิทัล ซึ่งปีนี้ ไมโครซอฟท์ได้นำ micro:bit เข้ามาใช้เป็นปีแรก โดยทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศเป็นกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์วิทยาคม จังหวัดอ่างทอง ซึ่งได้สร้างสรรค์โครงงาน “แบบจำลองการแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้ด้วยระบบ IoT” โดยเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ในบริเวณที่ติดตั้งอุปกรณ์ อุปกรณ์จะสามารถตรวจจับได้ว่าอุณหภูมิสูงเกินค่าที่กำหนดไว้หรือไม่ จากนั้น อุปกรณ์จะทำการแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้ผ่านแอปพลิเคชันการส่งข้อความ พร้อมส่งข้อมูลที่จำเป็น ได้แก่ แผนที่พิกัดที่ติดตั้งอุปกรณ์ อุณหภูมิที่เกิดเหตุ ชื่อของผู้ใช้งาน และเบอร์ติดต่อ ไปที่เว็บไซต์ที่จัดทำให้สำหรับสถานีดับเพลิง โดยในขณะเดียวกัน ตัวอุปกรณ์ก็จะสามารถสั่งงานให้เปิดน้ำเพื่อดับไฟแบบเบื้องต้นได้อีกด้วย โดยทีมผู้ชนะ ซึ่งได้รับรางวัลเป็นทุนการศึกษามูลค่า 30,000 บาท ได้แข่งขันร่วมกับทีมนักเรียนทั้งหมด 13 ทีม และมีนักเรียนหญิงผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 145 คน
นางสาวรัชนี จณะวัตร ผู้อำนวยการฝ่ายที่ปรึกษาดิจิทัล บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะตัวแทนของไมโครซอฟท์ ดิฉันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนเด็กผู้หญิงในการเรียนรู้และการประกอบอาชีพในสาขาสะเต็มศึกษา ผ่านการมอบความรู้และฝึกอบรมทักษะเชิงดิจิทัลที่จำเป็นให้กับพวกเขา และในฐานะที่ดิฉันเองก็เป็นผู้หญิงที่ทำงานอยู่ในวงการเทคโนโลยี ดิฉันรู้สึกชื่นชมเด็กๆ ทุกคนที่เข้าร่วมในงานนี้ ทุกคนมีความตั้งใจ มีความสามารถ และมาเติมพลังด้วยกันในงาน ดิฉันหวังว่าโครงการ #MakeWhatsNext DigiGirlz จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสครั้งสำคัญในการสนับสนุนให้เด็กผู้หญิงหันมาสนใจเรียนรู้และประกอบอาชีพในสาขาสะเต็มศึกษามากขึ้น และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะนำมาซึ่งความสำเร็จในหน้าที่การงานของพวกเขาในอนาคตได้ ดิฉันต้องขอขอบคุณทางสิริเวนเจอร์ที่ได้ให้การสนับสนุนงานด้านการเสริมสร้างทักษะดิจิทัลของไมโครซอฟท์มาโดยตลอด รวมไปถึงภาครัฐอย่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ที่เป็นกำลังสำคัญอย่างแน่นแฟ้นของเราค่ะ ”
นางสาวจุฬาลักษณ์ แตงเอี่ยม หนึ่งในสมาชิกของทีมนักเรียนที่ชนะเลิศการแข่งขัน ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์วิทยาคม จังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า “ก่อนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ สมาชิกทุกคนในทีมของเราไม่เคยมีทักษะด้านการเขียนโค้ดมาก่อนเลย ซึ่งเราได้มีโอกาสพัฒนาทักษะด้านการเขียนโค้ดเป็นครั้งแรกจากการฝึกอบรมที่ทางไมโครซอฟท์จัดขึ้นในวันแรกของการแข่งขัน และเรารู้สึกว่าการเข้าร่วมโครงการนี้เหมือนเป็นการเปิดโลกใหม่ให้กับเรา มันไม่ได้ยากเกินกว่าความสามารถ เมื่อเอามาประกอบความคิดสร้างสรรค์ทำให้เรารับรู้ว่าเราทำได้ โครงงานแบบจำลองการแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้ด้วยระบบ IoT ถูกจัดทำขึ้นเพราะเราเห็นว่าในปัจจุบัน มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้มากขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ปัญหาดังกล่าวสามารถป้องกันหรือลดการสูญเสียได้ด้วยการใช้งานเทคโนโลยีเข้ามาช่วย”
โครงการ #MakeWhatsNext – DigiGirlz 2019 Thailand เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์และพันธมิตรจากภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ และบริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด
นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำด้านการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิต (PropTech) รายแรกของไทย อาทิ Sansiri Home Service Application แอปพลิเคชันสำหรับลูกบ้านแสนสิริ และ Homestore แพลตฟอร์มรวบรวมไลฟ์สไตล์ออนไลน์แบบ One-Stop-Living ใหม่ล่าสุด สิริ เวนเจอร์ส เล็งเห็นถึงความสำคัญของ IoT ซึ่งเป็นพื้นฐานในการพัฒนาเทคโนโลยี Smart Living และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้เยาวชนไทย รวมถึงเด็กผู้หญิง ซึ่งเป็นเป็นกลุ่มคนที่มีศักยภาพในการเรียนรู้และสร้างสรรค์เทคโนโลยี เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับโลกของเรา ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการ #MakeWhatsNext – DigiGirlz 2019 จะเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับน้องๆ ที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกคน พร้อมจุดประกายแรงบันดาลใจในการพัฒนาทักษะเชิงดิจิทัลต่อไป”
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด