บทสรุป Marketing Cloud จากงาน Microsoft Azure Summit 2017 | Techsauce

บทสรุป Marketing Cloud จากงาน Microsoft Azure Summit 2017

G-ABLE | Mverge ในฐานะ Partner of The Year ที่มีความสามารถด้าน Digital อย่างยอดเยี่ยมได้รับการชวนจาก Microsoft ให้ไปขึ้นพูดบนเวทีปราศรัยในงาน Microsoft Azure Summit 2017 ‘Discover The Cloud Opportunity’ ในหัวข้อ “Marketing Clouds” โดยคุณปณต กาญจนศูนย์ Head of Marketing and Digital Solutions โดยงานได้จัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ณ โรงแรม คอนราด กรุงเทพ ซึ่งเราได้รวบรวมเป็นบทสรุปมาไว้ที่นี่

ทำไม C-Level และ All Business Managers ต้องซีเรียสเรื่อง Cloud?

เมื่อพูดถึง Cloud แล้วในตลาดมีผู้ให้บริการ Cloud อยู่มากมายโดย Microsoft ก็เป็นผู้ให้บริการอันดับต้นๆที่รู้จักกันดี การนำระบบ Cloud ไปใช้กับธุรกิจนั้น คนใช้ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็น IT Manager เท่านั้น แต่กลับว่า Marketing Manager, HR Manager จนไปถึง C-Level ก็จำเป็นต้องใช้ Cloud อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งสังเกตุง่ายๆว่าคนทั่วไปอย่างเราๆก็ใช้ Cloud กันอยู่ทุกวันเช่น Hotmail, G-mail ก็คือ Cloud หรือแม้แต่การซื้อ Google Ads เพื่อทำแคมเปญขายสินค้าบน Facebook ก็เป็น Cloud อีกเช่นกัน

จะเห็นได้ว่าการทำ Marketing เราใช้ Cloud กันทุกวันอย่างไม่รู้ตัว แต่ในระดับที่คนเราใช้กันอยู่ทุกวันก็จะเป็นสเกลเล็ก หรือ ระดับ SME แต่ถ้าเราพูดถึงบริษัทขนาด Enterprise ที่มีพนักงานเป็นพันคน การนั่งกดปุ่ม Run Adwords หรือกดปุ่ม Run Campaign อย่างเดียวคงไม่สามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างแน่นอน บริษัทขนาดใหญ่จึงต้องอาศัย Digital Platform Intergrator เข้าไปโยง Cloud Technologies ต่างๆเข้ามาใช้ โดย Azure คือ เทคโนโลยีหนึ่งที่รองรับการ Integrate ได้หลากหลาย Stack

แม้ลูกค้าที่ไม่ได้ใช้ Platform Microsoft อยู่ก็สามารถย้ายจาก On Premise มาเป็น Cloud ได้ ซึ่งทุกอย่างสามารถเชื่อมกันได้หมดด้วยเทคโนโลยี API เมื่อเราเอาทุกอย่างมาบน Cloud ก็จะทำให้ทั้งฝั่ง IT และ Marketing จนถึง Business Manager อื่นๆ สามารถทำงานกันได้อย่างกลมกลืน ลื่นไหลมากขึ้น

แท้จริงแล้ว Digital คืออะไร เราเข้าใจอะไรผิดไปไหม?

ตามลักษณะของธุรกิจสมัยก่อน ทีม Marketing มักจะดูมีความสำคัญน้อยกว่าทีม Sales เสมอ เพราะ Sales สามารถวัดผลได้ชัดเจน ในขณะที่ Marketing แบบเดิมๆไม่สามารถวัดผล (Measurable) ได้ ซ้ำร้าย Digital Marketing แบบที่กำลังเป็นอยู่ในไทยก็ยังไม่ได้เข้ามาตอบโจทย์เรื่องการวัดผลแต่กลับให้ความสำคัญด้าน Creative Ads ซะส่วนใหญ่ ฉะนั้นหัวใจของการทำ Digital Marketing ที่แท้จริงต้องเน้นที่ 3 สิ่ง

  1. Measurable : สาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่โฆษณาที่ดูสวยงาม แต่ต้องเป็นการวัดผลได้ว่าเงินที่จ่ายไปก่อเกิดรายได้กลับมามากขนาดไหน ซึ่ง Marketing Cloud จะช่วยให้บริษัทสามารถเข้าไปแตะ Customer Journey ได้ในทุกขั้นตอน รู้ได้ว่ามี ROI กลับมาเท่าไหร่ หรือ Cost Per Click เท่าไหร่
  2. Automationable : ใช้คนน้อยลง โดยการใช้ระบบเข้ามาช่วยบริหาร
  3. Scalable : ไม่ต้องห่วงเรื่อง On premise หรือ Infra การนำ Digital Markrting มาใช้ก็สามารถช่วยธุรกิจ ขยายตัวภายในหน่วยนาทีได้ เช่น ถ้าเรารู้ว่าอีกหนึ่งชั่วโมงจะมีคนเข้ามาจองตั๋วหนังในเว็บไซต์เป็นล้านคน เราใช้ Cloud Optim ได้ง่ายมาก

Digital Marketing VS Online Marketing

คนมักเข้าใจผิดว่า Digital marketing คือ Online Marketing จริงๆแล้วไม่ใช่

Online Marketing คือภาพเล็กๆของ Digital Marketing ซึ่งขณะนี้ Digital Marketing คือ "New Normal" Marketing ที่เปลี่ยนการทำมาร์เก็ตติ้งรูปแบบเดิมๆไป เช่น เรามาออกบูธงานอีเวนท์ ก็จะมีการเก็บ Questionair กิจกรรมที่เป็น Offline แต่มันก็ยังอยู่ในหมวดของ Digital Marketing เพราะเมื่อเราได้ Lead จาก Offline มาแล้ว เราก็อัปโหลด Lead ขึ้น Cloud เข้า CRM Cloud ซึ่ง CRM Cloud นี้อยู่ภายใต้ Concept ของ Digital Marketing แทนที่จะเก็บเป็นรูปแบบกระดาษแบบเดิมๆ แต่เราสามารถส่งข้อมูลไปให้ Sales ได้เลย และทีมมาร์เก็ตติ้งเองก็นำข้อมูลที่ได้ไปทำแคมเปญการตลาดได้เลย

ฉะนั้นโลกของ Marketing ยุคใหม่คือ IT กับ Marketing ต้องทำงานร่วมกัน หมดยุคการทำมาร์เก็ตติ้งแบบเดิมที่เอาแต่ดารามาถ่ายรูปคู่สินค้าไว้ก่อน หรือทำ Viral Ad ไว้ก่อน ซึ่งยอดขายอาจไม่ขึ้นก็ได้ แต่มาร์เก็ตติ้งยุคใหม่ คือ ทำยังไงให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดต่อสินค้านั้นๆ จะเห็นได้ว่าบริษัทระดับโลกหลายบริษัทเองก็ไม่ได้จ้างพรีเซนเตอร์ หรือดาราแพงๆมาโฆษณา แต่สร้าง Customer Journey ให้ตรงใจลูกค้า

ความคืบหน้าของ G-ABLE ในการทำ Digital Transformation ในปีที่ผ่านมา

G-ABLE เอง แม้เราจะเติบโตมาจาก SI ในขณะที่ทุกคนกล่าวว่า SI กำลังจะตายก็จริงแต่เราเป็น SI ที่มีความเข้าใจต่อความต้องการ และความเปลี่ยนแปลงของลูกค้า และปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเวลาที่ G-ABLE ทำโปรเจ็ค เราจะวางตั้งแต่ Digital Srategy ให้ลูกค้า แบ่งเป็น Marketing Strategy, Coporate Strategy และ Platform strategy และช่วย Implementation ตั้งแต่การทำ

  • Omni Channel Management : ระบบบริหารช่องทางการตลาดแบบรวมศูนย์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
  • CRM Platform : ระบบเก็บข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้าจากหลายช่องทางไว้ในที่เดียว
  • Marketing Automation : ระบบการเชื่อมต่อและสร้าง Marketing Activities แบบอัตโนมัติที่รองรับงานขนาดใหญ่โดยไม่ต้องใช้คนจำนวนมาก
  • Advanced Marketing Analytics: ระบบวิเคราะห์ตลาดแบบครบวงจรตั้งแต่ Dashboard ผ่าน Cloud system, Social, Competitor, Ads, Public Relation ซึ่งตอบโจทย์นักการตลาดสมัยใหม่ ซึ่งถูกเสริมพลังโดย Big Data Platform ของ G-ABLE
  • Advanced Marketing Technology: เช่นการทำ Chatbot ทั้งในรูปแบบของ E-Commerce หรือ Knowledge Management, การเขียนอัลกอริทึม และ Machine Learning สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูล Big Data ขนาดใหญ่
  • High Performance Website: เว็บสมรรถนะสูงระดับ Enterprise เพื่อการตอบสนองที่รวดเร็ว รองรับกระแสวิดีโอคอนเทนต์ การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Granular

ดังนั้นตอนนี้เราจึงเรียกตัวเองว่าเป็น  Digital Transformation Agent ไม่ใช่แค่ SI เหมือนเดิม เพราะการทำ Digital transformation ต้องอาศัย Multi Discipline ที่จะ Integrate ระบบที่ซับซ้อนให้เป็น One Platform  ทั้งยังเสริมให้ธุรกิจเป็นไปตามวิศัยทัศน์ของผู้บริหารทุกคน ซึ่งคือ Offering ที่ทาง G-ABLE ให้กับลูกค้า

ภาพบรรยากาศงาน

ดร. ศิษฏพงศ์ เศรษฐภัทร Head of Data and Analytics (คนที่ 6 จากซ้ายมือ) ถ่ายรูปร่วมกับ Chis Weber (Corporate Vice President, Worldwide Commercial Business,Microsoft) และทีมจาก Microsoft

เรียงภาพจากซ้าย คุณปณต กาญจนศูนย์ Head of Marketing and Digital Solutions, คุณเพรวแพร คงเสรี (รองประธาน Mverge), คุณสิริกร อรวรานนท์ (Sales and Business Development Executive), คุณนพพล เจริญเฟื่องฟู (Solution Implementation), คุณเกศจุฑาภร เกิดคำ (Senior Data & Analytics Engineer), คุณณัฏฐพิชา เฟื่องฟุ้งกุล (Marketing Project Specialist)

 

เกี่ยวกับ G-ABLE

G-ABLE คือบริษัทผู้พัฒนา, ติดตั้งจนถึงให้บริการด้านระบบ IT และ Digital ในไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำระดับโลกในด้าน Modern Digital solutions, enterprise business solutions และ IT infrastructure solutions โดยมีกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำในภาคเอกชนและรัฐบาล

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.g-able.com

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

OR มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เป้าหมาย Net Zero ปี 2050 ผ่าน 3 กลยุทธ์

OR เร่งเครื่องสู่การเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาด พร้อมมุ่งสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน ผ่านการปฏิบัติจริง...

Responsive image

MFEC ตั้งเป้า ปี 67 รายได้โต 15% ปักธงฟื้นเศรษฐกิจไทยด้วยเทคโนโลยี

MFEC ตั้งเป้าหมายปี 2567 สร้างรายได้เติบโต 15% และฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี ชูกลยุทธ์ผสานโซลูชันไอที พร้อมเดินหน้าเพิ่มขีดความสามารถและยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้านเทคโ...

Responsive image

KBank เดินหน้า Net Zero ภายในปี 2030 ชวนธุรกิจไทยรับมือ Climate Game ผ่าน 4 กลยุทธ์

KBank พลิกโฉมสู่ธนาคารแห่งความยั่งยืนรับยุค Climate Game จัดเตรียมยุทธศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมปี 2024 ที่อยากชวนธุรกิจไทยก้าวสู่โลกธุรกิจรูปแบบใหม่ TOGETHER ‘Transitioning Away’ ผ่าน ...