Thai Startup จับมือภาคีเครือข่าย 10 องค์กร จัด Hack Thailand 2575 “48 ชั่วโมง พลิกโฉมประเทศไทย สู่ภาพอนาคตหลังเลือกตั้ง” ระดมความเห็นและสร้างนโยบายจากประชาชนส่งต่อรัฐบาลใหม่ ขับเคลื่อนประเทศไทย 

สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย (Thai Startup) ร่วมกับภาคีเครือข่ายกว่า 10 องค์กร เปิดเวที “Hack Thailand 2575: 48 ชั่วโมง พลิกโฉมประเทศไทย สู่ภาพอนาคตหลังเลือกตั้ง” ในระหว่างวันที่ 18-20 เมษายน 2566 ณ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ด้วยเครื่องมือ “Policy Hackathon” ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางสังคมรูปแบบใหม่ ที่นำเสนอวิธีการแก้ปัญหาในมิติต่าง ๆ ของประเทศโดยประชาชน 

ซึ่งได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐ เอกชน เยาวชน Start-up และผู้สมัครจากพรรคการเมือง เข้าร่วมร่วมระดมความคิดเห็น สร้างนโยบาย เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา พร้อมเสนอโมเดลต้นแบบในการบริหารจัดการประเทศ ใน 6 ประเด็นสำคัญ คือ การศึกษา, สาธารณสุข, รัฐและความมั่นคง, สิ่งแวดล้อม, เศรษฐกิจ และสังคม ภายใต้ 12 โจทย์ ที่มาจากเสียงของประชาชน 

ผศ. ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ นายกสมาคม Thai Startup กล่าวว่า วิสัยทัศน์ ของสตาร์ทอัพ คืออยากเปลี่ยนประเทศจากที่เป็นผู้บริโภคให้เป็นผู้ผลิตเทคโนโลยี โดยการรวมกลุ่มและการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคมทุกมิติ และแคมเปญ Hack Thailand 2575 “48 ชั่วโมง พลิกโฉมประเทศไทย สู่ภาพอนาคตหลังเลือกตั้ง” ก็ทำให้ได้เห็นการรวมตัวกันของคนจำนวนมากและหลายภาคส่วนที่มาทำภารกิจเดียวกันพร้อม ๆ กัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศ

“Hackathon มาจากคำว่า “Hack” กับ “Marathon” ซึ่งโดยปกติ Hackathon จะใช้เวลายาว ๆ 3 วัน 2 คืนอยู่กับปัญหาเดียว ปัญหาเดิม แต่ลองหาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ โดยฟังความเห็นจากคนรอบข้าง ฟังความเห็นจากคนที่มีพื้นฐานเบื้องหลังที่แตกต่างกัน เช่น สตาร์ตอัพ, พรรคการเมือง, คนที่อยู่ระดับนโยบาย, ข้าราชการประจำ, ประชาชน หรือผู้เชี่ยวชาญ เมื่อได้ความเห็นที่รอบด้านขึ้น เรามาดูสิว่ามันมีความเป็นไปได้ใหม่ ๆ อะไรเกิดขึ้นบ้าง แล้วมาช่วยกันเลือกและสรรหาเพื่อเป็น Solution ที่เหมาะสมที่สุดกับปัญหานั้น ซึ่งเราอาจจะใช้เวลาหนักในช่วงสั้น ๆ แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันอาจจะเปลี่ยนแปลงประเทศไปตลอดกาลเลยก็ได้” ผศ. ดร.ยุทธนากล่าว

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อํานวยการด้านระบบนวัตกรรม NIA กล่าวว่า ที่ผ่านมากระบวนการ Hackathon ถูกใช้กับกลุ่มสตาร์ทอัพหรือนักศึกษา แต่นี่จะเป็นครั้งแรกที่นํากระบวนการ Hackathon มาใช้กับ ออกแบบนโยบาย บนโจทย์สําคัญที่มาจากเสียงของประชาชน ซึ่งจะเป็นส่วนสําคัญที่ทําให้รู้ความต้องการของคน ไทยทั้งประเทศ และผู้กําหนดนโยบายหยุดฟัง เราจึงจับมือกับภาคีเครือข่ายเปิดเวที “Hack Thailand 2575: 48 ชั่วโมง พลิกโฉมประเทศไทย สู่ภาพอนาคตหลังเลือกตั้ง” ระดมความเห็นและสร้างนโยบายจากประชาชนส่งต่อ ผู้กําหนดนโยบายและรัฐบาลใหม่

“เราอาจจะไม่ใช่รัฐบาลหรือเสียงในสภา แต่เสียงของเราจะถูกเก็บรวบรวม ซึ่งหลายพรรคการเมืองต้อง สนใจ และเราตั้งใจให้พรรคการเมืองนําไปใช้ให้เกิดประโยชน์ พูดง่าย ๆ ประเทศไทยเป็นของพวกเราทุกคน และ Voter ทุกคนสามารถสะท้อนผ่านกระบวนการ Hackathon ได้ว่าท่านต้องการอะไร” ดร.กริชผกา กล่าว

Policy Hackathon ครั้งนี้ถูกออกแบบให้มี 9 ภารกิจ กับ 12 โจทย์สำคัญ ซึ่งวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลมาจากกระบวนการ “คาดการณ์อนาคตเชิงยุทธศาสตร์” ด้วยการลงพื้นที่รับฟังเสียงของประชาชนจากทุกภูมิภาคของประเทศ ผ่านเวที Post Election ภาพอนาคตหลังการเลือกตั้ง จำนวน 8 เวที ข้อมูลจากแบบสอบถามกลุ่มตัวอย่างกว่า 2,000 คนทั่วประเทศ รวมทั้งข้อมูลจาก Exclusive Interview จากนักวิชาการและนักคิดของประเทศ โดยเป้าหมายหลักคือ การกำหนดประเด็นสำคัญหรือค้นหาความต้องการของประชาชนหลังการเลือกตั้ง และค้นหาแนวทางที่จะนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ โดยเครื่องมือเหล่านี้ถูกออกแบบโดยทีมนักวิจัยที่เชี่ยวชาญด้านอนาคตศาสตร์จาก สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) และถูกเก็บรวบรวมข้อมูลผ่านทีมงานวิจัยอย่างเป็นระบบ กลั่นออกมาเป็นโจทย์ใหญ่ของประเทศไทย กับ 12 นโยบาย ที่ประชาชนขอร่วมแก้ ดังนี้

1. “หยุดความรุนแรงแฝงเร้นในสังคมไทย”

2. “Green Space เปิดพื้นที่สร้างสรรค์เพิ่มศักยภาพเมือง”

3. “ปลดล็อคท้องถิ่นด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์สู่เวทีโลก (Local to Global)”

4. “แก้หนี้ แก้จน”

5. “Wellness ยิ่งใหญ่ คนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้าเท่าเทียม”

6. “สูงวัยอย่างมีพลัง : เพื่อสังคมสุขภาวะ Active Aging  : Oldy Healthy Society”

7. “อากาศสะอาด หยุดฝุ่น PM 2.5”

8. “เศรษฐกิจขยะ (Circular Economy)

9. “Trilingual Thai : คนไทยพูดได้ 3 ภาษา”

10. “ติดปีกครูไทย”

11. “รัฐของกลุ่มคนที่หลากหลาย Responsive Government for All”

12. “รัฐทันสมัย โปร่งใส ไร้คอรัปชั่น (Transparency & efficiency)”

“Hack Thailand 2575: 48 ชั่วโมง พลิกโฉมประเทศไทย สู่ภาพอนาคตหลังเลือกตั้ง” ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Post-Election : ภาพอนาคตหลังเลือกตั้ง” ซึ่ง Thai PBS ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เข้ามาผนึกกำลังสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้แก่ สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย (Thai Startup), สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว), สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA), มูลนิธิ ฟรีดริช เนามัน ประเทศไทย (FNF) , สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, Youth In Charge Leadership Academy, UNDP, สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และ สถาบันอานาคตไทยศึกษา เพื่อให้ได้ “ภาพอนาคต หลังเลือกตั้ง” ที่มุ่งแก้ปัญหาชาติได้จริงและส่งต่อให้รัฐบาลใหม่ต่อไป

 รศ.ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ ไทยพีบีเอส ในฐานะผู้ร่วมจัด กล่าวว่า ไทยพีบีเอสเป็นสื่อสาธารณะที่ไม่เพียงทำหน้าที่นำเสนอข่าวสารการเลือกตั้งอย่างครบถ้วน ตรงไปตรงมา เคียงข้างประชาชนเท่านั้น แต่ครั้งนี้ได้ริเริ่มนำนวัตกรรมระดมความคิดออกแบบภาพอนาคตหลังเลือกตั้ง และสร้างกระบวนการเปิดพื้นที่กลางรับฟังทุกเสียงของประชาชนมาใช้เป็นเครื่องมือ โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดพื้นที่ให้ประชาชนจากหลากหลายภาคส่วนมีโอกาสระดมความคิด และสร้างสรรค์นโยบายสาธารณะ ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ใช้กระบวนการ Policy Innovation และวิธีการแบบสตาร์ตอัปเป็นเครื่องมือในการสร้างและนำเสนอนโยบาย ซึ่งในวันที่ 20 เม.ย. จะมีกิจกรรม Demo Day โดยตัวแทนพรรคการเมือง ผู้กำหนดนโยบาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมรับฟังการนำเสนอนโยบาย

“ทางทีม Hack Thailand 2575 ยังเปิดกว้างให้กับทางสื่อพันธมิตรอื่น ๆ และอินฟลูเอนเซอร์ได้เข้ามาส่วนร่วม ตั้งแต่เข้าร่วมกระบวนการ Hackathon ให้ความคิดเห็นเพิ่มเติมในแต่ละนโยบาย รวมถึงสื่อสารนโยบายที่เป็นประโยชน์ออกไปต่อสารธารณะเพื่อนำไปต่อผลักดันในภาคประชาชนต่อไป จึงขอเชิญชวนสื่อมวลชนและอินฟลูเอนเซอร์ทุกท่านเข้ามาขับเคลื่อนโครงการนี้ไปด้วยกัน” คุณแคสเปอร์-ธนกฤษณ์ เสริมสุขสัน อุปนายกสมาคม Thai Startup และตัวแทนคณะผู้บริหารโครงการ Hack Thailand 2575 กล่าวปิดท้าย

สื่อมีเดียและอินฟลูเอนเซอร์ที่สนใจเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงาน Hack Thailand 2575 สามารถแสดงความสนใจได้ที่นี่ 

สามารถติดตามการถ่ายทอดสดได้ทาง Facebook@ThaiStartupOfficial facebook.com/thaistartupofficial