SEAPPI ชี้ “กรอบกำกับเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย” อาจกระทบรายได้ SMEs กว่า 12,000 ล้านบาทต่อปี เพิ่มต้นทุน ลดการลงทุน และชะลอการขยายตัวของธุรกิจในประเทศ

Southeast Asia Public Policy Institute (SEAPPI) ในฐานะสถาบันวิจัยด้านนโยบายระดับภูมิภาค ร่วมกับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต จัดเวทีเสวนาเชิงลึก เพื่อหารือและสำรวจแนวทางการสนับสนุนนวัตกรรม การลงทุน และการประกอบธุรกิจภายใต้กรอบการกำกับดูแลที่เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทของประเทศไทย โดย SEAPPI ได้เผยแพร่ผลการศึกษาเรื่อง “การกำหนดทิศทางกรอบกำกับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยอย่างสมดุล[1]” ซึ่งวิเคราะห์ผลกระทบของแนวทางการกำกับดูแลที่อาจเปลี่ยนไปต่อความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตของผู้ประกอบการไทย

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้[3] ภาคบริการดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการค้า การชำระเงิน และโลจิสติกส์ กลุ่ม SMEs ในไทยก็พึ่งพาช่องทางออนไลน์เพื่อเข้าถึงลูกค้าและดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ ปัจจุบันเศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนราว 6% ของ GDP ในปี 2566 และคาดว่าจะขยายตัวเป็น 11% ภายในปี 2570[4] โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ ได้แก่ การเข้าถึงตลาดที่เปิดกว้าง การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างแพร่หลาย และอุปสรรคต่อการเริ่มต้นธุรกิจต่ำ ส่งผลให้ธุรกิจขนาดเล็ก รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อย สามารถมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจระดับประเทศ ภูมิภาค ไปจนถึงระดับโลกได้

จากการวิเคราะห์กรณีศึกษาและประสบการณ์ในต่างประเทศพบว่า แนวทางของสหภาพยุโรปภายใต้กฎระเบียบด้านการตลาดดิจิทัล (Digital Markets Act: DMA) ส่งผลให้เกิดภาระต้นทุนด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่สูง และนำมาซึ่งการชะลอการเปิดตัวของฟีเจอร์ใหม่ และส่งผลกระทบต่อการพัฒนานวัตกรรมในยุโรป ในขณะที่ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อาทิ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เลือกใช้แนวทางกำกับดูแลที่ยืดหยุ่น ยึดหลักการด้านความโปร่งใสและการปรับปรุงเฉพาะเจาะจง ลดความเสี่ยงด้านการแข่งขัน ผลการศึกษาระบุว่า กฎระเบียบที่เข้มงวดและการกำกับดูแลเชิงป้องกัน (ex-ante) ของสหภาพยุโรปอาจนำมาซึ่งการจัดสรรทรัพยากรที่ไม่ตอบสนองต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการปรับปรุงบริการ ลดการเติบโตในภาคส่วนที่พึ่งพาการค้าแพลตฟอร์มดิจิทัล หายไทยนำแนวทางของสหภาพยุโรปมาใช้อาจทำให้นวัตกรรมและการลงทุนในไทยลดลงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคที่ใช้แนวทางการกำกับดูแลที่มีความเข้มงวดน้อยกว่า

ดร.กฤษฎา แสงเจริญทรัพย์ ผู้อำนวยการหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงความสำคัญของการออกแบบกฎระเบียบที่เหมาะสมกับบริบทของไทยว่า “แพลตฟอร์มดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคชาวไทย คำถามที่สำคัญ คือการกำหนดแนวทางกำกับดูแลที่ส่งเสริมความเป็นธรรม และยังสามารถสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมและสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ ประเทศไทยไม่ควรต้องเลือกระหว่างนวัตกรรมหรือการส่งเสริมความเป็นธรรม ประเทศไทยสามารถบรรลุทั้งสองเป้าหมายนี้ไปพร้อมๆ กันได้ ผ่านการออกแบบกฎระเบียบที่มีพื้นฐานความเข้าใจทางเทคนิค มีความสมดุล และสอดคล้องกับสภาพตลาดจริง มากกว่าการนำแนวทางจากต่างประเทศมาใช้โดยตรงโดยไม่ปรับให้เข้าถึงบริบทของไทย”

นายเอ็ดเวิร์ด แรตคลิฟฟ์ กรรมการบริหาร SEAPPI เสริมว่า “ความชัดเจนและความสมดุลของกฎระเบียบจะกำหนดขีดความสามารถทางการแข่งขันระยะยาวของประเทศไทย เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยนั้นเติบโตมาโดยตลอดเพราะมีความเปิดกว้าง มีการแข่งขันสูง และขับเคลื่อนโดยผู้ประกอบการโดยตรง ประเทศไทยจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคนี้ได้ต่อไป หรือจะเสี่ยงพบการชะลอการเติบโตและอุปสรรคที่เพิ่มขึ้นในการเข้าถึงตลาดดิจิทัลนั้น ขึ้นอยู่กับการพัฒนากฎระเบียบที่เน้นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง และเอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความโปร่งใสโดยไม่จำกัดขีดความสามารถของธุรกิจไทย”

ผลการศึกษาของ SEAPPI เสนอให้ภาครัฐใช้กรอบการกำกับดูแลที่ยึดหลักการด้านความโปร่งใสและเน้นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง โดยควรมีการแทรกแซงเฉพาะเมื่อมีความเสียหายที่พิสูจน์ได้อย่างชัดเจน  การออกกฎระเบียบใหม่นี้ยังควรเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคอุตสาหกรรม และควรเสริมสร้างกลไกความร่วมมือและการประสานงานระหว่างหน่วยงานรัฐอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดความซ้ำซ้อนและสร้างความสม่ำเสมอในการบังคับใช้กฎระเบียบทั้งหมด ทั้งนี้เพื่อช่วยรักษาความสามารถในการแข่งขันของ SMEs ที่พึ่งพาแพลตฟอร์มดิจิทัล ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม เพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นเป้าหมายการลงทุนที่สำคัญต่อไป

รายงานยังชี้อีกว่า หากไทยสามารถพัฒนากรอบการกำกับดูแลทีเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน  ไทยจะสามารถก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในประเทศต้นแบบของภูมิภาคในการออกแบบกฎระเบียบดิจิทัลที่เป็นมิตรและทันสมัย

ดาวน์โหลดเอกสารฉบับเต็มได้ที่: link

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ศุภชัย เจียรวนนท์ ผู้นำเครือซีพี - ทรู คว้า 2 รางวัลใหญ่จาก THE LEADERSHIP AWARDS 2025 ทั้ง CEO People’s Choice Award และรางวัล Digital Transformation Award สะท้อนบทบาทผู้นำเอกชนในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทย

ในยุคที่ประเทศไทยเร่งเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานกรรมการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ...

Responsive image

พันธวณิชเผยพันธกิจขับเคลื่อนการจัดซื้ออย่างยั่งยืน พร้อมอัปเดตเทรนด์ระบบจัดซื้อออนไลน์

บริษัท พันธวณิช จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านระบบจัดซื้อออนไลน์แบบครบวงจรของประเทศไทย ประกาศพันธกิจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจไทยสู่ “การจัดซื้ออย่างยั่งยืน” พร้อมทั้งเผยเท...

Responsive image

YouTrip เตรียมขยายบริการสู่ตลาดออสเตรเลีย ก้าวสำคัญของผู้ให้บริการชำระเงินข้ามพรมแดนจากเอเชียแปซิฟิก

YouTrip ผู้ให้บริการดิจิทัลวอลเล็ตแบบหลายสกุลเงิน (multi-currency travel card) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมีผู้ใช้งานนับล้านและมียอดธุรกรรมข้ามพรมแดนกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อ...