
รู้หรือไม่ 20% ของการใช้ไฟฟ้าในบ้านและอาคารทั่วโลกหมดไปกับการเปิดแอร์และพัดลม?
ตัวเลขนี้นอกจากจะหมายถึงค่าไฟที่สูงขึ้นแล้ว ยังเป็นตัวเร่งทำให้เกิดภาวะโลกร้อนขึ้นไปอีก แต่ล่าสุดทีมนักวิจัยจากทั่วโลกได้ร่วมกันพัฒนา CCP-30 นวัตกรรมสีสูตรพิเศษ ที่ไม่ใช่แค่ทนความร้อนได้ แต่ยังสามารถ "ทำความเย็น" ได้ด้วยตัวเอง ผ่านกลไกที่เรียกว่า "การขับเหงื่อ" หรือการระบายความร้อนได้เหมือนกับผิวหนังมนุษย์
หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า "ปรากฏการณ์เกาะความร้อน" ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ มันคือภาวะที่พื้นที่ในเมืองมีอุณหภูมิสูงกว่าพื้นที่ชนบทที่อยู่รอบๆ สาเหตุก็เพราะว่าในเมืองเต็มไปด้วยตึก คอนกรีต และถนนยางมะตอย ซึ่งวัสดุเหล่านี้จะดูดซับความร้อนจากแสงแดดในตอนกลางวันเอาไว้เต็มๆ และค่อยๆ คลายความร้อนออกมาในตอนกลางคืน ทำให้อากาศในเมืองไม่เย็นลงสักที ปรากฏการณ์นี้ทำให้เราต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศมากขึ้น และสี CCP-30 ก็ถูกออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับปัญหานี้โดยตรง
ความลับของสี CCP-30 ที่ทำให้มันเหนือกว่าสีทั่วไป คือการผสาน 3 กลไกทำความเย็นเข้าไว้ด้วยกัน
1. การสะท้อนแสงแดด หรือด่านแรกของการป้องกันความร้อน
สีจะทำหน้าที่เหมือนเกราะป้องกัน โดยสามารถสะท้อนรังสีจากดวงอาทิตย์ออกไปได้มากถึง 88-92% หลักการนี้เปรียบเทียบได้เหมือนเวลาที่เราเลือกใส่เสื้อสีขาวแทนที่จะเป็นสีดำในวันที่แดดจัดๆ เสื้อสีขาวจะสะท้อนแสงออกไปทำให้เรารู้สึกร้อนน้อยกว่า ซึ่งสี CCP-30 ก็ใช้หลักการนี้กับอาคาร
2. การระเหยของน้ำ หรือ "การขับเหงื่อ"
ที่มีหลักการทำงานคล้ายกับร่างกายของมนุษย์ เวลาที่เราร้อน ร่างกายจะขับเหงื่อ และเมื่อเหงื่อระเหยก็จะดึงเอาความร้อนจากผิวหนังออกไปด้วย ซึ่งช่วยให้เรารู้สึกเย็นขึ้น
สี CCP-30 ก็ทำแบบนั้นเช่นกัน เนื้อสีมีโครงสร้างพิเศษที่สามารถกักเก็บโมเลกุลของน้ำเอาไว้ได้ เมื่อผนังอาคารร้อนขึ้นจากแสงแดด น้ำที่ซ่อนอยู่ในสีก็จะระเหยกลายเป็นไอ และในขณะเดียวกันก็จะดึงเอาความร้อนออกจากผนังไป ทำให้อุณหภูมิของอาคารเย็นขึ้น
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจเกิดคำถามในใจว่า แล้วสีจะเอาน้ำมาจากไหนเพื่อ "ขับเหงื่อ" ตลอดเวลา?
คำตอบ คือสี CCP-30 ถูกออกแบบมาให้สามารถเติมความชื้นให้ตัวเองได้ตลอดเวลาจากธรรมชาติรอบตัว ทั้งจากการดูดซับความชื้นในอากาศและจากการกักเก็บน้ำฝน นี่จึงเป็นระบบที่ทำงานได้อย่างยั่งยืน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำความเย็นหรือหน้าตาของสีแต่อย่างใด
3. การแผ่รังสีความร้อน
แม้ว่าสีจะสะท้อนความร้อนไปได้เยอะแล้ว แต่ก็ยังมีความร้อนบางส่วนที่ถูกดูดซับไว้ กลไกที่สามจะเข้ามาจัดการความร้อนส่วนที่เหลือ โดยตัวสีถูกออกแบบมาให้สามารถแผ่หรือปล่อยความร้อนที่สะสมไว้ออกไปในรูปแบบของรังสีอินฟราเรด ซึ่งช่วยให้อาคารเย็นขึ้นได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน
ทีมนักวิจัยได้นำสี CCP-30 ไปทดสอบในสภาพอากาศจริงที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นนประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความร้อนและความชื้นสูง และผลการทดสอบก็ออกมาในเชิงบวก เช่น ให้ความเย็นมากกว่าสีทำความเย็นทั่วไปถึง 10 เท่า แม้ในสภาพอากาศร้อนชื้น ผลที่ตามมาคือสามารถประหยัดค่าไฟจากเครื่องปรับอากาศได้กว่า 30–40% นอกจากนี้ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมีคาร์บอนฟุตพรินต์ต่ำกว่าสีทั่วไปถึง 28%
อ้างอิง: thecooldown
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด