เชื่อหรือไม่ว่าเส้นใยจากเห็ดรา หรือ ไมซีเลียม สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย เช่น ใช้แทนพลาสติก โฟม หนังสัตว์ และแปรรูปเพื่อทดแทนเนื้อสัตว์ได้อีกด้วย บทความนี้เราจะชวนมารู้จักกับบริษัท Ecovative ผู้วิจัยและพัฒนาเส้นใยจากเห็ดราเพื่อใช้เป็นวัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ไอเดียสุดล้ำนี้จุดประกายจากโปรเจกต์ในช่วงมหาวิทยาของผู้ก่อตั้งบริษัท อย่าง Eben Bayer และ Gavin McIntyre โดยโปรเจคนี้มีโจทย์ว่า ต้องคิดวิธีการแก้ปัญหาที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับโลก
พวกเขาทั้งคู่ตัดสินใจทำโปรเจคพัฒนาวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่ง Bayer เสนอให้ศึกษาเส้นใยจากเห็ดราหรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ก็คือไมซีเลียม เพราะเขาสนใจคุณสมบัติของมันอยู่แล้ว
หลังจากการศึกษาค้นคว้าจนพบคุณสมบัติพิเศษของไมซีเลียม เช่น เป็นฉนวนกันความร้อน ทนทานและมีความยืดหยุ่นสูง เมื่อหมดอายุการใช้งานก็สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งดีกว่าพลาสติกอีก !
ต่อมาในปี 2007 พวกเขาทั้งคู่จึงเริ่มก่อตั้งบริษัท Ecovative เพื่อใช้ประโยชน์จากไมซีเลียมมาทำเป็นสิ่งของต่าง ๆ เช่น โฟมกันกระแทก หรือโคมไฟพลาสติก ความเชี่ยวชาญด้านการใช้ไมซีเลียมของบริษัท ทำให้มีกลุ่มนายทุนมากมายสนใจวัสดุชิ้นนี้
ในปัจจุบันบริษัท Ecovative จึงมีโอกาสขยายธุรกิจไมซีเลียมไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมแฟชั่น นอกจากนี้บริษัทก็กำลังลงทุนเพื่อค้นคว้าหาวัสดุใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม
ส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทผลิตและพัฒนามักจะเป็นสิ่งของในชีวิตประจำวัน ซึ่งบริษัทต้องการลดปริมาณการปล่อยมลพิษ เช่น ก๊าซมีเทนจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ และต้องการลดขยะจากพลาสติกแบบ Single-use ผลิตภัณฑ์หลักของ Ecovative จึงมีอยู่ 5 ประเภทดังนี้
นอกจากข้าวของเครื่องใช้เหล่านี้แล้ว ในปัจจุบันมีผู้ผลิตมากมายที่เอาไมซีเลียมเข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมของตนเอง อย่างโลงศพไมซีเลียม จาก Loop Biotech ที่เมื่อฝังลงดินแล้วจะย่อยสลายได้เองและกลายเป็นปุ๋ยบำรุงดิน หรืออิฐบล็อกไมซีเลียมที่กำลังอยู่ในขั้นตอนวิจัยและพัฒนาเพื่อนำมาใช้ในอนาคต
นวัตกรรมการพัฒนาไมซีเลียมเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของวัสดุธรรมชาติที่เข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้เริ่มสนใจใช้วัสดุที่ดีมีคุณภาพและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม Ecovative เชื่อว่าในอนาคตเราจะค้นพบวัสดุใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะ…
ธรรมชาติได้สร้างวัสดุที่ดีต่อโลกไว้ให้พวกเราอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าพวกเราจะค้นหามันเจอหรือไม่
อ้างอิง: vegconomist, ecovative
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด