ประเทศอาเซียนรับกรรม กลายเป็นถังขยะโลก จากการ ‘ค้าขยะ’ ผิดกฎหมายที่มาจากยุโรป สะท้อนกฎหมายอ่อนแอ ไร้ระบบจัดการขยะแบบยั่งยืน
Waste trafficking หรือการค้าขยะอย่างผิดกฎหมาย ถือเป็นอาชญากรรมประเภทหนึ่งที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อมของประเทศปลายทางผู้รับผล เพราะขยะจำนวนมากจะถูกกำจัดด้วยการฝังกลบหรือจัดเก็บแบบผิดกฎหมาย ไม่ก็ถูกเผาในที่โล่ง
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งมาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย รวมถึงไทย กำลังกลายเป็น ถังขยะของโลก ด้วยการนำเข้าขยะผิดกฎหมายจากประเทศอุตสาหกรรม ซึ่งส่วนใหญ่มาจากทวีปยุโรป ตามรายงานของสหประชาชาติ (UN) ระบุ 15 ถึง 30% ของการขนส่งขยะจากสหภาพยุโรปมาแบบผิดกฎหมาย
แม้จะมีกฎหมายควบคุม แต่ผู้ค้าขยะผิดกฎหมายก็ใช้ช่องโหว่จากการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ ถึงจะถูกจับได้บทลงโทษก็อ่อน การหากำไรง่ายๆ จากธุรกิจนี้เลยกลายเป็นแรงดึงดูดให้คนทำผิด คณะกรรมาธิการยุโรปคาดว่ารายได้จากการค้าขยะผิดกฎหมายนั้นสูงถึง 9.5 พันล้านยูโรต่อปี
ขยะจำนวนมากมาถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น เมื่อปี 2017 ที่จีนตัดสินใจประกาศจะลดการนำเข้าขยะพลาสติกและกระดาษจากทั่วโลก ซึ่งก่อนหน้านั้นจีนเป็นผู้รับขยะพลาสติกโลกมากถึง 56% มารีไซเคิล ความพยายามลดละเลิกนั้นก็เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและชีวิตของประชากรจีน ทำให้การค้าขยะเปลี่ยนเส้นทางมาสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทน
ทำให้อาเซียนซึ่งมีประชากรไม่ถึง 9% ของโลก นำเข้าขยะพลาสติก 17% ของทั้งโลกในช่วงปี 2017-2021 ยิ่งในช่วงปี 2016-2018 อาเซียนนำเข้าขยะพลาสติกเพิ่มขึ้น 171% คิดเป็น 2.26 ล้านตัน
ประเทศแถบนี้เป็นผู้สร้างขยะลงมหาสมุทรอันดับหนึ่ง สาเหตุหลักมาจากระบบแม่น้ำของภูมิภาค แนวชายฝั่งหมู่เกาะที่ทอดยาว รวมถึงกฎระเบียบและการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่อ่อนแอ
ส่วนการแก้ไขนั้น ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าจำเป็นต้องมีการจัดการขยะที่ถูกกฎหมาย มีการควบคุม เพื่อลดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและป้อนขยะเข้าสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนโดยการลด การนำกลับมาใช้ใหม่ และการรีไซเคิลของเสีย นอกจากนั้นยังต้องมีการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศหรือระดับภูมิภาค เพื่อปรับกรอบกฎหมายเกี่ยวกับการจัดการขยะให้สอดคล้องกัน และกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น
อ้างอิง : DW, Nikkei Asia
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด