การแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่เป็นสิ่งที่เรารู้ดีว่าจะกระทบชีวิตความเป็นอยู่ของเรา แต่สิ่งที่ยากคือเราไม่ค่อยได้รู้ล่วงหน้าว่าเมื่อใดจะมีโรคระบาด และความรุนแรงของมันจะเป็นอย่างไร เช่นเดียวกับเทรนด์ใหม่ ที่บางครั้งนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงใหญ่ แต่จุดเริ่มต้นของมันบางครั้งก็เล็กน้อยจนไม่อาจสังเกตได้ ดังนั้น เมื่อพูดถึงสิ่งที่จะเป็นเทรนด์ เราต้องพูดถึงพฤติกรรมใหม่ที่อาจเกิดขึ้นระหว่าปรากฎการณ์สำคัญที่อาจจะดำเนินไปเป็นเวลานาน จนก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างถาวรได้

Trendwatching บริษัทวิจัยข้อมูลเทรนด์ผู้บริโภคระดับโลก เปิดเผยบทวิเคราะห์เทรนด์ด้านนวัตกรรมที่เกิดขึ้นในช่วง COVID-19 โดยสรุปและคัดเลือก 3 เทรนด์ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งทั้ง 3 เทรนด์สะท้อนถึงความหลากหลายของการเกิดนวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหา การต่อยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมรูปแบบเดิมๆ รวมถึงการเร่งนำเอานวัตกรรมในอนาคตมาใช้เพื่อแก้ปัญหาในวันนี้

Open Source Solution

เมื่อปัญหา COVID-19 ใหญ่กว่าที่ใครคนหนึ่งจะแก้ไขด้วยตัวคนเดียวได้ การระดมทรัพยากรและร่วมมือแก้ปัญหาจึงจำเป็น Open Source Solution จึงเป็นการที่แต่ละองค์กรส่งต่อทุกอย่างที่มีเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาและแก้ไขสถานการณ์ โดยเทรนด์นี้ยังสะท้อนถึงว่าเราสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างจริงใจได้เสมอ

ตัวอย่างนวัตกรรมที่เกิดขึ้น ได้แก่ ระบบ Contact Tracing จาก Google และ Apple, ผู้ผลิตสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมร่วมกันผลิตเจลล้างมือจากแอลกอฮอล์ที่ใช้ผลิตน้ำหอม ผู้ให้บริการที่พักอย่าง Hilton ร่วมกับ American Express ให้บริการห้องพักฟรี 1 ล้านห้องแก่บุคลากรทางการแพทย์

Virtual Experience Economy

การเข้ามาของเทคโนโลยีทำให้เกิดเรื่องของ Experience Economy หรือเศรษฐกิจเชิงประสบการณ์ แต่เนื่องจาก COVID-19 เป็นตัวผลักให้คนไม่สามารถเดินทางหรือพบปะกันได้สะดวก เทรนด์โลกเสมือนที่เราเริ่มใช้กันจึงผลักดันให้เกิด Virtual Experience Economy อันสะท้อนถึงการที่เราสามารถรู้สึกถึงประสบการณ์กับสิ่งที่สร้างขึ้นเสมือนจริงได้ ตัวอย่างเช่น Social Media และ E-Sport ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเราจะได้เห็นเทรนด์นวัตกรรมนี้ในหลากหลายภาคธุรกิจ โดยเฉพาะท่องเที่ยว ค้าปลีก หรือแม้แต่กิจกรรมสันทนาการต่างๆ เช่น คลาสทำอาหารออนไลน์จาก AIRBNB, แฟชั่นโชว์บนดิจิทัลจาก Shanghai Fashion Week และ Online Tour ตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆ

Assisted Development

สำหรับหลายคน การอยู่บ้านเป็นการบังคับให้เราทำงานบางอย่างมากขึ้น เช่น การทำอาหาร ทำงานบ้าน ซักรีดเอง หรือแม้แต่ส่งลูกเข้านอน ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกดีที่ได้กลับมาทำแบบนี้ แต่บางคนอาจจะไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้นำไปสู่เทรนด์สุดท้ายคือ บริการพื้นฐานที่จำเป็นในชีวิตประจำวันจะถูกพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำเมนูอาหารจากวัตถุดิบในตู้เย็น บริการซักอบรีดแบบ On-demand หรือแม้แต่ Zoom แอปฯ วิดีโอคอล ยังมีบริการจับคู่ผู้สูงอายุที่อยู่ตามลำพังมาเล่านิทานให้ลูกหลานในบ้านฟัง เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก Trendwatching และ Simplework