ธุรกิจจะรุ่งหรือจะร่วงขึ้นอยู่กับอะไร ? นอกจากสภาพเศรษฐกิจแล้ว สิ่งที่เป็นตัวกำหนดทิศทางของธุรกิจได้มากที่สุดก็คือ ผู้ประกอบการ เพราะแม้จะต้องเจอกับพิษเศรษฐกิจหรือวิกฤตโรคระบาด ถ้ามีหัวเรือใหญ่ที่แข็งแรง คลื่นลมเหล่านี้ก็ทำลายเรือลงไม่ได้ 

ผู้ประกอบการก็เปรียบเหมือนหัวเรือใหญ่ที่จะนำพาธุรกิจไปในทิศทางต่าง ๆ บทความนี้ Techsauce จึงรวบรวม 4 สิ่งที่ผู้ประกอบการควรมี ถ้าอยากทำให้ธุรกิจรุ่ง ดังนี้

4 สิ่งที่ผู้ประกอบการควรมี ถ้าอยากทำให้ธุรกิจรุ่ง

มองหาโอกาสรอบด้านอยู่เสมอ

ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักมองหาโอกาสจาก Capital Markets หรือตลาดทุนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นจากนักลงทุน นายทุนร่วมลงทุน และสินเชื่อ ซึ่งวิธีที่ช่วยหาเงินจำนวนมากเพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตได้เร็ว

ซึ่งการมองหาโอกาสเหล่านี้อย่างรอบด้านนั้นควรทำอยู่เสมอ ไม่ควรคิดถึงเรื่องหาเงินให้ธุรกิจเพียงแค่ช่วงที่ต้องการขยายบริษัทเท่านั้น ธุรกิจที่เติบโตไวและประสบความสำเร็จล้วนแล้วแต่มีผู้ประกอบการที่มองหาโอกาสให้ตัวเองอยู่เสมอ

เปิดรับและปรับตัว เมื่อต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า

ทักษะการปรับตัวเป็นสิ่งสำคัญกับการเป็นผู้ประกอบการในยุคสมัยนี้มาก เพราะมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย จนบางธุรกิจที่ตามไม่ทันและไม่เปิดรับความเปลี่ยนแปลงต้องล้มหายตายจาก

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดมาก ๆ คือ เมื่อธุรกิจส่วนใหญ่ในโลกย้ายจากการมีหน้าร้าน มาขายของออนไลน์มากขึ้น หากธุรกิจไหนไม่เริ่มตีตลาดออนไลน์ก็อาจจะเสียโอกาสในพื้นที่ตรงนี้ไปให้กับคนอื่น ดังนั้น ผู้ประกอบการที่ดีจึงควรที่จะเปิดรับและปรับตัว เมื่อเจอกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อย่ายึดติดอยู่กับสิ่งเดิม ๆ ในขณะที่โลกเดินต่อไปข้างหน้า

อย่ามองแค่สิ่งที่ต้องเสีย ให้มองถึงสิ่งที่จะได้กลับมา

ผู้ประกอบการมากมายล้วนเป็นนักขายที่เก่งที่สุด แต่รู้หรือไม่ ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ลงเล่นตำแหน่งนักขายเอง เพราะหากทำเองขายเองอยู่คนเดียว ก็จะขายได้น้อย ถึงแม้มั่นใจว่าขายได้แน่ 

ดังนั้นผู้ประกอบการเหล่านี้จึงเลือกที่จะปรับปรุงการขายให้เป็นมีอาชีพและมีระบบ ด้วยการวางระบบ จ้างคน รวมถึงใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมทัพ ด้วยวิธีนี้จึงจะสามารถสร้างยอดขายได้มากขึ้น 

ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตนถนัด

ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักมีผู้ประกอบการที่รู้ว่าตนเองถนัดอะไร และทำอะไรได้ดี ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้มักจะมุ่งไปที่การทำสิ่งที่ตนถนัด และไม่เสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่ถนัด เพื่อเอาเวลาที่เหลือไปพัฒนาส่วนต่าง ๆ ของธุรกิจ หรือหาเงินทุนเข้าบริษัท

เมื่อรู้อย่างนี้ก็ช่วยให้สามารถว่าจ้างทีมที่มีทักษะที่ตนเองขาดไปได้อย่างแม่นยำ สุดท้ายแล้วกิจการก็จะสามารถเติบโตไปได้ เพราะทุกคนในทีมได้ทำให้ส่วนที่ตนถนัดมากที่สุด

อ้างอิง: inc