อายุเป็นเพียงตัวเลข! คุณป้า CEO วัย 55 ปี กับการนำพา Startup สู่ IPO ได้สำเร็จ | Techsauce

อายุเป็นเพียงตัวเลข! คุณป้า CEO วัย 55 ปี กับการนำพา Startup สู่ IPO ได้สำเร็จ

ใครว่า Startup มีแต่คนรุ่นใหม่เพียงอย่างเดียว จริงๆ แล้วใครๆ ก็สามารถทำได้ ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์เมื่อ Therese Tucker วัย 55 ปีผู้ก่อตั้งและเป็น CEO หญิง แห่ง BlackLine บริษัทผู้พัฒนาระบบซอฟแวร์ด้านบัญชีบน Cloud พึ่งนำบริษัทเข้าสู่ตลาด Nasdaq ได้สำเร็จ

เธอเป็นผู้ก่อตั้งและ CEO หญิงคนแรกที่นำ Startup ใน Los Angeles เข้าสู่ตลาด Nasdaq ได้สำเร็จด้วยราคา 17 เหรียญต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะอยู่ช่วง 13-15  เหรียญฯ

ชีวิตแทบล้มละลาย

theresetucker

เรื่องราวของเธอน่าสนใจไม่น้อย เธอก่อตั้ง BlackLine เมื่อ 15 ปีก่อน และประสบปัญหาหลายอย่างในช่วงแรกๆ ของการดำเนินธุรกิจ เรียกว่าเป็นช่วง Bootstrap อันหฤโหด ทั้งการนำเงินที่มีจากบริษัทเดิมมาลงทุน เอาบ้านไปจำนอง ขอยืมเงินจากเพื่อนฝูงเพื่อมาจ่ายเงินเดือน ถึงขนาดอาจจะต้องเอาเงินที่เป็นทุนให้ลูกเรียนหนังสือมาใช้ (อันนี้ผู้เขียนก็ไม่แนะนำนะ)

"มันเป็นเรื่องที่ยากและน่าตกใจว่ากำลังจะถังแตกในช่วงวัย 40 แล้วต้องมาเริ่มต้นใหม่" Therese กล่าวถึงชีวิตในช่วงปี 2005 ของเธอ

จุดเปลี่ยนก็มาถึง เมื่อวิสัยทัศน์มาบรรจบกับคำว่า ถูกที่ ถูกเวลา

ในปี 2007 ช่วงที่ Cloud Computing ยังเป็นเรื่องที่ใหม่ในยุคนั้น เธอและเพื่อนๆ ตัดสินใจที่จะเลิกการพัฒนาซอฟแวร์ในรูปแบบเก่า และเปลี่ยนไปให้บริการบน Cloud แทน (Software as a Service : SaaS) เธอยอมรับว่าในเวลานั้นเป็นการตัดสินใจที่น่าตกใจอยู่ เพราะถือเป็นของใหม่มาก

ถ้าใครนึกภาพไม่ออกปี 2007 คุณกำลังทำอะไรกันอยู่? ลอง map กับเหตุการณ์สำคัญๆ ดูนะ นั่นคือปีที่ iPhone ออกปีแรกไง Amazon Web Services (AWS) พี่งมีอายุได้ 1 ปี Adobe หล่ะ? ยังไม่ตัดสินใจที่จะหันมาสนใจเรื่องนี้จนกระทั่ง 6 ปีให้หลัง...

แต่นั่นถือเป็นก้าวสำคัญที่ชาญฉลาด เพราะในปี 2008 วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น บริษัทต่างๆ ไม่ต้องการซื้อซอฟแวร์ด้านบัญชีแพงๆ พวกเขาต้องการซอฟแวร์ที่สามารถจ่ายได้ไหว เป็นแบบรายเดือน ถือว่า BlackLine นอกจากมีวิสัยทัศน์แล้ว ยังมาได้ถูกที่ถูกเวลาอีกด้วย เพราะหลังจากนี้ก็มีซอฟแวร์ที่มีลักษณะเดียวกันอีกหลายรายเกิดขึ้นตามมา

blackline-ipo

ในปี 2013 BlackLine มีรายได้ 38 ล้านเหรียญฯ Silver Lake Sumeru ก็สนใจเข้ามาซื้อหุ้นหลักด้วยมูลค่า 220 ล้านเหรียญฯ Tucker ยังคงดำรงตำแหน่งเป็น CEO ต่อ และไม่ต้องมากังวลกับเหตุการณ์ล้มละลายส่วนตัวอีก

ช่วงครึ่งปีแรกของ 2016 สามารถสร้างรายได้ที่ 55.6 ล้านเหรียญฯ เติบโตขึ้น 48% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงขาดทุนอยู่ 16.9 ล้านเหรียญฯ ถือเป็นการทดสอบไปในตัวว่าตลาดหุ้นที่เปิดสำหรับนักลงทุนแบบนี้จะกล้าเสี่ยงเหมือนกับนักลงทุนแบบ Private Market ในการลงทุนกับธุรกิจที่มีการเติบโตสูงแบบ Tech Startup แต่ยังไม่ทำกำไรแค่ไหน

ปัจจุบัน BlackLine มีพนักงานกว่า 490 คน Tucker ยังคงถือหุ้นอยู่ โดยมีนักลงทุนหลักๆ อย่าง Iconiq ถืออยู่ที่ 23% (กลุ่มลงทุนที่สนับสนุนโดย Mark Zuckerberg แห่ง Facebook) และ Silver Lake ถือที่ 47% ลูกค้ารายใหญ่ของ BlackLine ก็อาทิเช่น Costco และ Boeing

ที่มา: Business Insider, LA times

ความคิดเห็นกองบรรณาธิการ

เรียกว่าในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ อายุไม่ใช่อุปสรรค บนแผ่นหลังของพวกเขามีบาดแผลแห่งประสบการณ์มากมาย ผิดพลาดเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งสำคัญคือเราเรียนรู้ความผิดพลาดตรงนั้น แล้วนำมาเป็นบทเรียน แก้ไขไม่ให้ผิดซ้ำหรือเปล่า

ผู้สำเร็จไม่เคยมีใครไม่ผิดพลาดมาก่อน และ คนเราไม่มีใครล้มเหลว มีแต่ล้มเลิก

ตราบใดที่ใจยังสู้ไม่ยอมแพ้ ผนวกกับการมีวิสัยทัศน์มองออกถึงสิ่งที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงธุรกิจ มองให้ออกยังไม่พอ ต้องพร้อมรับมือและปรับตัว เปลี่ยนให้เป็นโอกาส คุณก็สามารถเป็นอย่าง Therese Tucker ได้

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

‘Yindee’ แชตบอตในแอป ttb Touch ใช้ Gen AI จับความรู้สึก ตอบเร็วและฉลาดกว่าที่เคย

Yindee แชตบอตที่อยู่บน Mobile Banking ของ ttb ทำงานผ่านแอป ttb Touch สามารถจับ Mood & Tone ของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ ว่าขณะแชตนั้น ลูกค้าอยู่ในอารมณ์ไหน ด้วย Generative AI โดย Azur...

Responsive image

คนอยากใช้พลังงานเยอะ แต่โลกอยากได้ปล่อยคาร์บอนน้อย บริษัทพลังงานแก้ไขความย้อนแย้งนี้อย่างไรดีในยุค AI

The Energy/Prosperity Paradox หรือภาวะย้อนแย้งแห่งพลังงาน และความเจริญ ถือเป็นความท้าทายระดับโลกที่บริษัทด้านพลังงานกำลังพบเจอ เพราะในตอนนี้โลกกำลังต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างไม่เ...

Responsive image

เศรษฐกิจไทย ‘ฟื้นตัว’ แล้วหรือยัง ? ฟังความเห็นจาก 3 ผู้นำธุรกิจยักษ์ใหญ่ไทย

ค้นพบศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย จีน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และกัมพูชา พร้อมโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจในภาคอุตสาหกรรม การเงิน และเทคโนโลยี...