อยากใช้ AI ช่วยธุรกิจแต่ไปไม่ถูก? 6 ขั้นตอน AI และ Automation เปลี่ยนงานซ้ำซากให้เป็นระบบอัตโนมัติ

AI Automation

เรามักได้ยินกันจนชินหูว่า AI คืออนาคต แต่ในความเป็นจริง AI คือปัจจุบันที่กำลังเปลี่ยนการทำงานของธุรกิจทั่วโลก ตั้งแต่ Startup รายเล็กไปจนถึง Enterprise ระดับยักษ์ใหญ่ ที่ต่างนำ AI เข้ามาช่วยลดเวลาการทำงานซ้ำซากเพื่อให้ทีมงานได้โฟกัสกับงานที่สำคัญกว่า

ผู้ก่อตั้งส่วนใหญ่รู้ดีว่า AI จะเข้ามาช่วยธุรกิจได้ แต่ปัญหาก็คือ ท่ามกลางกระแสมากมาย เราควรเริ่มตรงไหน?

ข่าวดีคือเราไม่ต้องรื้อระบบบริษัทใหม่ ไม่ต้องใช้งบมหาศาล หรือจ้างทีมวิศวกรนับสิบคนเพื่อเริ่มทำ Automation เพราะหัวใจสำคัญเริ่มต้นที่ความเข้าใจใน Workflow ของเราเอง

นี่คือคำแนะนำจาก Maximilian Fleitmann สมาชิก Entrepreneurs’ Organization (EO) และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI & Automation Consultancy กับ 6 ขั้นตอนเพื่อเริ่ม Transform ธุรกิจด้วย AI 

1. ลิสต์งานซ้ำซาก แล้วให้คะแนนความสำคัญ

จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดไม่ใช่การเลือกเครื่องมือ แต่คือการกางงานออกมาดู ลองสำรวจดูว่าในแต่ละวันทีมงานเสียเวลาไปกับงานรูทีนอะไรบ้าง เช่น การนัดประชุม, การอัปเดตข้อมูลลง CRM หรือ Spreadsheet, การตอบคำถามลูกค้าเดิมๆ หรือการทำ Report

เพื่อความแม่นยำ ลองทำ Scorecard ใส่ตาราง Spreadsheet แล้วให้คะแนนงานแต่ละชิ้น (1-5 คะแนน) โดยดูจาก 4 ปัจจัยนี้

  • Frequency: ทำบ่อยแค่ไหน? (รายวัน/รายสัปดาห์)
  • Time: ใช้เวลาทำนานเท่าไหร่?
  • Effort: น่าเบื่อและใช้แรงงานคนมากแค่ไหน?
  • Impact: งานนี้สำคัญต่อธุรกิจอย่างไร?

งานที่ได้คะแนนรวมสูง คือเป้าหมายแรกที่คุณควรเริ่มทำ Automation

2. วาดผังการทำงาน ก่อนเลือกเครื่องมือ

หลายโปรเจกต์ Automation ล้มเหลวเพราะรีบกระโดดไปใช้ Tool โดยไม่เข้าใจกระบวนการทำงานจริงๆ

ให้คุณลองวาด Core Process ออกมาเป็นฉากๆ ยกตัวอย่าง Workflow งานขาย

ลูกค้ากรอกฟอร์ม > CRM อัปเดตข้อมูล > เซลส์ตรวจสอบ Lead > ส่งอีเมล Follow-up และลิงก์นัดหมาย > ลงตารางนัด Demo

เมื่อเห็นภาพรวม คุณจะรู้ทันทีว่าจุดไหนควรใช้ AI (เช่น การอัปเดต CRM, การคัดกรอง Lead, การส่งอีเมล) และจุดไหนที่ยังต้องใช้มนุษย์ (เช่น การพูดคุย Demo เพื่อปิดการขาย) วิธีนี้จะช่วยให้คนทำงานทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมี AI เป็นผู้ช่วยจัดการงานหลังบ้าน

3. เริ่มทีละจุด เพื่อสร้าง Quick Wins

อย่าพยายามเปลี่ยนทุกอย่างในข้ามคืน ให้เริ่มจากทีละงานเพื่อสร้างแรงส่ง แผนกที่มักเห็นผลลัพธ์เร็วที่สุดคือ การตลาด, ฝั่งปฏิบัติการ และ ฝั่งบริการลูกค้า การเริ่มต้นเล็กๆ จะช่วยลดความวุ่นวาย และเมื่อทีมงานเห็นว่า AI ช่วยลดภาระงานได้จริง พวกเขาจะเปิดใจ และเห็น ROI ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะทำให้การขยายผลไปทั้งองค์กรง่ายขึ้นในระยะยาว

4. ใช้เครื่องมือที่ไม่ต้องเขียนโค้ด

ยุคนี้ Automation เข้าถึงง่ายมากด้วยเครื่องมือกลุ่ม No-code แพลตฟอร์มอย่าง Make, Zapier หรือการใช้ ChatGPT สามารถเชื่อมต่อแอปฯ ต่างๆ (เช่น CRM, Google Sheets, Slack) เข้าด้วยกันได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเอง

อย่ากลัวที่จะทดลอง (Experiment) เช่น ลองตั้งระบบให้ Zapier ดึงข้อมูลลูกค้าจากหน้าเว็บลง CRM อัตโนมัติ หรือใช้ Claude/ChatGPT ช่วยร่างอีเมลตอบกลับลูกค้า จดบันทึกสิ่งที่เวิร์กและไม่เวิร์ก เพื่อนำมาปรับปรุง Workflow ต่อไป

5. วัดผลความคุ้มค่า (ROI)

Automation จะไร้ความหมายถ้าตอบไม่ได้ว่า ‘คุ้มไหม’ ก่อนเริ่มใช้ AI ให้บันทึกเวลาที่ทีมใช้ทำงานนั้นๆ ไว้ แล้วนำมาเปรียบเทียบหลังใช้งาน โดยดูจาก

  • Time saved: ลดชั่วโมงการทำงานไปได้เท่าไหร่?
  • Errors reduced: ลดความผิดพลาดของมนุษย์ได้แค่ไหน?
  • Turnaround time: งานเสร็จเร็วขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์?
  • Cost savings: ตีค่าเวลาที่ประหยัดได้ออกมาเป็นตัวเงิน

นอกจากนี้ อาจวัดผลความพึงพอใจของพนักงานที่ไม่ต้องทำงานซ้ำซาก และลูกค้าที่ได้รับบริการเร็วขึ้นประกอบด้วยก็ได้

6. ขยายผลและทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง

มอง Automation ให้เป็นกระบวนการที่ต้องทำต่อเนื่อง ไม่ใช่โปรเจกต์ที่ทำครั้งเดียวจบ เมื่อระบบหนึ่งเริ่มนิ่ง ให้ขยายผลไปจุดอื่น และหมั่นตรวจสอบ Workflow ทุกไตรมาส เพราะ AI มีฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมาทุกวัน

ผู้นำที่ประสบความสำเร็จในทศวรรษหน้า คือคนที่เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับ AI ไม่ใช่ต่อต้านมัน การทำ Automation ที่ดีไม่ใช่การแทนที่คน แต่คือการปลดล็อกให้ทีมงานของคุณมีเวลาและพลังงานไปสร้างสรรค์งานที่มีคุณค่าได้อย่างเต็มที่

ที่มา: Inc.com 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

TIME ยกย่องให้ ‘The Architects of AI’ เป็น Person of the Year ของปี 2025

TIME Person of the Year 2025: เมื่อ Jensen Huang และเหล่าสถาปนิก AI พลิกโฉมโลก เศรษฐกิจ และการเมือง ท่ามกลางสงครามเทคโนโลยีสหรัฐฯ-จีน...

Responsive image

เศรษฐกิจเหมือน 'รถติดหล่ม' ไทยไม่ใช่ดาวรุ่ง-เป็นรองเพื่อนบ้าน ส่องแนวทางการปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย จาก ส.อ.ท

เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญภาวะ 'รถติดหล่ม' เมื่อการเติบโตชะลอตัวจากปัญหาเชิงโครงสร้างและแรงกดดันรอบด้าน คุณเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ชี้ทางรอดผ่านเวที AI Inn...

Responsive image

เจาะลึกโครงการ “GDCC” คลาวด์กลางภาครัฐ เบื้องหลังการปฏิรูปดิจิทัลไทย สู่ยุค Open Data ที่เปลี่ยนชีวิตประชาชนได้จริง

เจาะลึก GDCC คลาวด์กลางภาครัฐ เบื้องหลังการปฏิรูปดิจิทัลไทยที่ช่วยประหยัดงบกว่า 6 พันล้านบาท พร้อมยกระดับบริการ 1669 และความปลอดภัยข้อมูลคนไทยสู่ยุค Open Data...