เรื่องจริงสำหรับสตาร์ทอัพคือ สตาร์ทอัพส่วนใหญ่จะล้มเหลว เมื่อเราดูสตาร์ทอัพในไทยที่ประสบความสำเร็จ หลายตัวนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากสตาร์ทอัพที่อเมริกา แล้วเอามาปรับให้เข้ากับสถานการณ์และพฤติกรรมผู้ใช้ในไทย

การหาไอเดียหรือเรียนรู้จากสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จที่นั่นจึงเป็นวิธีหนึ่งในการหาไอเดีย

ในบทความนี้เราขอแนะนำ 9 สตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จที่อเมริกาที่ยังไม่มีในไทย เผื่อจะเป็นไอเดียสำหรับคุณที่มองหาอยู่ 

1. Rinse สตาร์ทอัพซักผ้าที่ชนะคู่แข่งด้วยการคิดต่าง ไม่ On Demand และไม่สร้าง App

Rinse แก้ปัญหาร้านซักผ้าในเมืองใหญ่ที่แพง ลูกค้าต้องแบกเสื้อผ้าเอาไปที่ร้านและเอากลับ และร้านซักผ้าส่วนใหญ่ก็ปิดเร็ว Rinse สร้างระบบ SMS ช่วยให้ลูกค้าสามารถนัดเวลาในช่วงหลังเลิกงานให้พนักงานของ Rinse ไปรับผ้ามาซักถึงห้องและส่งถึงห้อง พร้อมถ่ายรูปสรุปทุกชิ้นที่เราส่งซัก ด้วยการรวบรวมเสื้อผ้าจากลูกค้าทั้งเมืองมาซัก ทำให้ Rinse สามารถนำเสนอราคาที่ถูกกว่าและบริการที่ตอบโจทย์กว่าได้

2. TaksRabbit สตาร์ตอัพรับจ้างสารพัดสำหรับคนไม่มีเวลา

TaskRabbit แก้ปัญหาเวลาเราต้องการจ้างใครสักคนให้มาช่วยเราทำอะไรสักอย่าง (เน้นงานออฟไลน์) TaskRabbit คือ marketplace ที่ให้คนที่ต้องการจ้าง กับคนที่พร้อมรับจ้างช่วยให้มาเจอกัน โดยคนจ้างสามารถเข้าไปดูคนให้บริการตามหมวดต่างๆ ดูประวัติ ความเชี่ยวชาญ เรตติ้ง และค่าจ้างต่อชั่วโมงของแต่ละคน ถ้าสนใจคนไหน ก็แชตคุยกันได้

3. Glassdoor สตาร์ทอัพที่ช่วยให้คนหางานรู้ในสิ่งที่บริษัทไม่อยากให้รู้

Glassdoor แก้ปัญหาสำหรับคนสมัครงานที่อยากรู้ว่า บริษัทนี้จริงๆ แล้วมีวัฒนธรรมการทำงานอย่างไร คนข้างในชอบ CEO หรือเปล่า รวมถึงการสัมภาษณ์งานตำแหน่งนี้ของบริษัทนี้ในอดีตเป็นอย่างไร และค่าจ้างคนอื่นได้กันประมาณเท่าไร Glassdoor จึงเป็นเหมือนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้คนที่ทำงานหรือเคยทำงานได้มารีวิวโดยไม่ระบุตัวตนเกี่ยวกับบริษัทนั้น

4. Quora สตาร์ทอัพถามตอบ ที่ดีกว่าถาม Google

Quora แก้ปัญหาเวลาเราอยากรู้คำตอบจากผู้เชี่ยวชาญแต่ไม่รู้จะไปถามใคร Quora สร้างแพลตฟอร์มถามตอบที่ให้คนตอบสามารถสร้าง profile ตัวเองได้ มีคนดังเช่น บารัก โอบาม่า และมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ก็เคยมาตอบคำถามบน Quora ทำให้คำตอบที่ได้รับนั้นน่าเชื่อถือ ตัวคำถามเองก็จะมีระบบคัดกรองว่าคำถามใหม่ที่เราจะถามมีอยู่แล้วบน Quora แล้วหรือเปล่า ถ้ามี Quora ก็จะให้เราไปดูคำถามนั้นแทน ทำให้คำถามที่อยู่บน Quora มีคำตอบใหม่ๆมาเพิ่มอยู่เสมอ

5. General Assembly โรงเรียนที่การันตีว่าเรียนจบแล้วได้ไปทำงานบริษัทสตาร์ทอัพ

General Assembly แก้ปัญหาที่ว่าคนที่อยากเรียนรู้ทักษะการทำงานด้านดิจิทอลซึ่งเปลี่ยนแปลงเร็วมาก แต่ไม่รู้ว่าจะเรียนที่ไหนดีที่ใช้ได้จริงและการันตีว่าเรียนจบแล้วได้งานแน่นอน General Assembly คือโรงเรียนที่สอนทักษะสำหรับทุกสาชาอาชีพด้านดิจิตอล รูปแบบการเรียนคือมาเรียนที่โรงเรียนและมีการบ้านให้ส่งจริง จุดขายคือ สิ่งที่เรียนนั้นใช้ทำงานได้จริงซึ่งพัฒนาจากการพูดคุยกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ และสอนโดยคนที่ทำงานด้านนั้น

6. Dollar Shave Club ขายมีดโกนหนวด 1 ดอลลาร์ จนมีมูลค่าพันล้าน

Dollar Shave Club แก้ปัญหาที่ว่ามีดโกนยีลเลตต์ซึ่งครองตลาดอยู่เจ้าเดียวนั้นขายด้วยกำไรต่อชิ้นที่สูงเกินไป Dollar Shave Club นำเสนอโซลูชั่นมีดโกนหนวดที่มีคุณภาพเท่ายีลเลตต์ในราคาเริ่มต้น 1 ดอลลาร์ ด้วยรูปแบบธุรกิจส่งถึงบ้านแบบสมาชิกรายเดือน Subscription

7. Venmo สตาร์ทอัพที่ทำให้การโอนเงินเป็นเรื่องสนุก ไม่ต้องใช้เลขบัญชีและไม่มีค่าธรรมเนียม

Venmo แก้ปัญหาว่าในอดีตการโอนเงินให้เพื่อนต่างธนาคารนั้นต้องเสียค่าธรรมเนียมและยุ่งยาก ต้องจำเบอร์บัญชีเพื่อน Venmo สร้างแอปที่ให้คุณโอนเงินให้เพื่อนของคุณฟรีไม่มีค่าธรรมเนียม และวิธีโอนก็ง่ายมาก แค่ลงทะเบียนด้วยเฟซบุ๊ค พอจะโอนเงินให้ใคร ก็เริ่มพิมพ์ชื่อเฟซบุ๊คเขา จากนั้นก็กดเลือกชื่อเฟซบุ๊คที่เราจะโอนเงินให้พร้อมจำนวนเงิน เป็นอันเสร็จสิ้น นอกจากฟีเจอร์โอนเงินแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถส่งคำขอให้เพื่อนโอนเงินให้เราได้ด้วย 

8. Credit Karma สตาร์ทอัพที่รายได้มหาศาลเพราะมีข้อมูลที่ Google และ Facebook ไม่มี

Credit Karma แก้ปัญหาคนอเมริกาต้องเดินทางไปสำนักงานและจ่ายเงินเพื่อดูข้อมูลเครดิตของตัวเอง (credit score) จากเครดิตบูโร Credit Karma คือแพลตฟอร์มที่ให้ผู้ใช้สามารถดูเครดิตของตัวเองได้ฟรีบนเว็บหรือแอป Credit Karma เมื่อผู้ใช้งานเข้ามาในเว็บหรือแอป Credit Karma ก็จะรู้ข้อมูลเครดิตของผู้ใช้ ทำให้ Credit Karma สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละราย พร้อมโอกาสในการอนุมัติ

9. Digit สตาร์ทอัพออมเงินอัตโนมัติสำหรับคนเก็บเงินไม่อยู่

Digit แก้ปัญหาให้คนที่ไม่มีวินัยสามารถออมเงินได้อัตโนมัติ Digit สร้างระบบที่สามารถวิเคราะห์บัญชีการเงินของผู้ใช้แล้วนำเสนอว่าในแต่ละวันผู้ใช้ควรออมเงินเท่าไร ซึ่งผู้ใช้ก็แค่ตอบตกลงกลับไปทาง SMS ตัวระบบก็จะโอนเงินจากบัญชีที่เราใช้ประจำไปยังบัญชีออมทรัพย์ ช่วยให้คนสามารถออมเงินได้ง่ายที่สุด

สตาร์ทอัพทั้ง 9 รายมีวิธีเจอไอเดีย โมเดลการทำเงิน วิธีการหาลูกค้าและสเกลที่แตกต่าง น่าเรียนรู้ อ่านที่มาที่ไปของสตาร์ทอัพแต่ละราย พร้อมประสบการณ์จริงในฐานะผู้ใช้ และเรื่องราวของสตาร์ทอัพอื่นที่น่าสนใจมากได้ที่ หนังสือ “Winning With Ideas เรียนลัด 20 สตาร์ทอัพจากซิลิคอนวัลเลย์ โดยผู้ใช้จริง”   https://www.matichonbook.com/p/2471/winning-with-ideas-จากหนึ่ง-ถึงพันล้าน.html

หนังสือเล่มนี้เขียนโดย คุณมาโนช พฤฒิสถาพร ผู้มีประสบการณ์ทำสตาร์ทอัพที่อเมริกาและไทย เขาเคยทำงานที่ฟินเทคสตาร์ทอัพ