ประเทศไทยกำลังกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ร้อนแรงสำหรับการลงทุนในอุตสาหกรรม Data Center และ Cloud Service บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกเริ่มมองเห็นศักยภาพของประเทศไทย ด้วยความพร้อมทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การสนับสนุนจากรัฐบาล และทำเลที่ตั้งที่เชิงยุทธศาสตร์ ประเทศไทยกำลังก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางสำคัญที่ดึงดูดบริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามาลงทุนในประเทศได้

บทความนี้จะพาไปเจาะลึกบริษัทที่เข้ามาลงทุนในไทย พร้อมศักยภาพ แนวโน้ม และโอกาสในการลงทุน Data Center และ Cloud Service ในประเทศไทย ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมต่อยอดให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Data Center-Cloud Service ไทยคึกคัก 

ไทยถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของการลงทุน Data Center ทั้งจากผู้เล่นไทยและระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้เล่นระดับโลกที่ต้องการตั้งไทยเป็นศูนย์กลาง Data Center ในภูมิภาค โดยใน 3 ปีที่ผ่านมา ขนาด Data Center ของไทยเติบโตกว่า 54% เป็นอันดับ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย

ในปี 2024 มีโครงการ Data Center และ Cloud Region ที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจาก BOI แล้วถึง 37 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนมหาศาลกว่า 98,539 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ เช่น กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ชลบุรี และระยอง บริษัทชั้นนำจากทั่วโลกต่างตบเท้าเข้ามาลงทุนในไทยอย่างคึกคัก สะท้อนถึงศักยภาพและพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดีของประเทศไทย รวมทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อนโยบายรัฐบาลและมาตรการสนับสนุนของรัฐ 

Bigtech ไหนบ้างที่เข้ามาลงทุนในไทย ?

Amazon Web Services 

Amazon Web Services (AWS) ทุ่มทุนสร้าง Data Center ในไทยกว่า 2 แสนล้านบาท ภายในปี 2037 โดยเฟสแรกได้ลงทุนไปแล้วกว่า 25,000 ล้านบาท และเตรียมเปิดให้บริการ AWS Asia Pacific (Bangkok) Region ประกอบด้วย Availability Zone จำนวน 3 โซน ในปี 2025

AWS คาดการณ์ว่า การลงทุนนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย คิดเป็นมูลค่ากว่า 700,000 ล้านบาท และสร้างงานใหม่ มากกว่า 100,000 ตำแหน่ง ภายในปี 2035 และมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจไทย ตั้งแต่สตาร์ทอัพ ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคลาวด์ได้

Google

Google ได้ประกาศแผนการลงทุนกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท โดย Google จะลงทุนสร้าง Data Center แห่งแรกในนิคมอุตสาหกรรม WHA จังหวัด ชลบุรี และ Cloud Region ในกรุงเทพฯ เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานคลาวด์ที่เพิ่มมากขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทั่วโลก 

โดย Data Center และ Cloud Region จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ที่ให้บริการ Google Cloud รวมรองรับการใช้งานนวัตกรรม AI และบริการต่างๆ ของ Google เช่น Google Search, Google Maps และ Google Workspaces

Microsoft 

Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ได้เปิดเผยแผนการสร้าง Data Center ในประเทศไทยในงาน Microsoft Build: AI Day ที่จัดขึ้นในวันที่ 1 พฤษภาคม 2024 ที่ผ่านมา โดยประกาศพันธสัญญาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์และ AI ในประเทศไทย เดินหน้าเสริมทักษะด้าน AI ให้กับคนไทยกว่า 100,000 คน ในภาคการท่องเที่ยว และ Developer กว่า 6,000 คน อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขการลงทุนในไทยอย่างชัดเจนในปัจจุบัน

และอีกหนึ่ง Bigtech ที่น่าจับตามองการลงทุนในประเทศไทยได้แก่ Nvidia โดยนายพิชัย นริพทะพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่เปิดเผยว่า บริษัท Nvidia Corp. เตรียมเปิดเผยแผนการลงทุนในประเทศไทย ตามรอย Google และ Microsoft ที่ได้เดินสายมายังไทย รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งนับว่าเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับสร้าง Data Center และ AI

รายงานระบุว่า Jensen Huang ซีอีโอ ของ Nvidia จะเดินทางมาด้วยตัวเองที่กรุงเทพฯ ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ เพื่อประกาศรายละเอียดเม็ดเงินลงทุนในไทย รวมทั้งยังเป็นไปได้ว่าการลงทุนครั้งนี้อาจเปิดโอกาสให้ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามมาด้วย

นอกจากนี้ ตามข้อมูลของ BOI ยังมีบริษัทเทคฯ จากเอเชียได้แก่ Supernap (Switch) ได้ลงทุนสร้าง Data Center ไปแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท Alibaba Cloud ทุ่มทุนกว่า 4,000 ล้านบาท ด้าน NextDC จากออสเตรเลีย ลงทุนสร้าง Data Center กว่า 13,700 ล้านบาท ตามมาด้วย STT GDC จากสิงคโปร์ลงทุน 4,500 ล้านบาท, Evolution Data Center จากสิงคโปร์ลงทุน 4,000 ล้านบาท, Telehouse จากญี่ปุ่นลงทุน 2,700 ล้านบาท และ One Asia จากฮ่องกงลงทุน 2,000 ล้านบาท 

ในส่วนของ Cloud Service ก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน โดยมีสองบริษัทชั้นนำจากจีนอย่าง Alibaba Cloud ทุ่มลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท และ Huawei Technologies ลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ประกอบการไทยก็ไม่น้อยหน้า ต่างกระโดดเข้าร่วมวงลงทุนในธุรกิจ Data Center และ Cloud Service อย่างคึกคัก นำโดย บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ หรือ True IDC บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย หรือ INET และบริษัท GSA ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง Gulf, Singtel และ AIS

5 จุดแข็งสร้างไทยให้โดดเด่น

ปัจจุบันมีโครงการ Data Center และ Cloud Service ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจาก BOI รวม 37 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 98,539 ล้านบาท ซึ่ง BOI ได้ชี้ให้เห็นถึง 5 จุดแข็งหลักของประเทศไทยที่ทำให้บริษัทเทคโนโลยีพร้อมใจกันเข้ามาลงทุนได้แก่ 

1. ทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์: ประเทศไทยตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาค เชื่อมต่อกับประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMVT หรือกลุ่มประเทศในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง ซึ่งมีประชากรรวมกันกว่า 250 ล้านคน

2. ความมั่นคงและปลอดภัยสูง: ประเทศไทยมีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติต่ำ มีความมั่นคงทางการเมือง และมีกฎระเบียบด้านดิจิทัลที่น่าเชื่อถือ เช่น PDPA และ พ.ร.บ. ไซเบอร์ สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน

3. โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง: ประเทศไทยมีระบบไฟฟ้าเสถียร มีศักยภาพในการผลิตพลังงานสะอาด มีโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงติดอันดับโลก และครอบคลุมด้วยเครือข่าย 5G รองรับการใช้งานข้อมูลปริมาณมหาศาลได้ดีเยี่ยม

4. ตลาดภายในประเทศเติบโตสูง: การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย Cloud First ของภาครัฐ อัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสูงถึง 88% ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียกว่า 70% และความแพร่หลายของบริการทางการเงินดิจิทัล เช่น PromptPay, Mobile Banking, e-Payment รวมทั้ง การใช้แอปพลิเคชันเพื่อรับสิทธิ์ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ล้วนเป็นแรงขับเคลื่อนระบบนิเวศดิจิทัลของไทย

5. สิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจจาก BOI: ไม่ว่าจะเป็นการยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล การอนุญาตให้ถือครองที่ดินเพื่อประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริม การอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน การลดหย่อนภาษีเงินได้สำหรับบุคลากรทักษะสูง การบริการข้อมูลและช่วยจัดหาสถานที่ตั้งโครงการ การช่วยประสานงานในการขอใบอนุญาตจากหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงมาตรการช่วยบรรเทาผลกระทบจากกติกาภาษีใหม่ (Global Minimum Tax) ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกให้ความสำคัญ

อนาคตไทยในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค

จากการที่ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีระดับโลกอย่าง AWS, Microsoft และ Google ต่างมุ่งหมายปักหมุดลงทุน Data Center ในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสอันมหาศาลที่รออยู่เบื้องหน้า พร้อมทั้งอนาคตอันสดใสของไทยในฐานะ "ศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล" แห่งใหม่ในภูมิภาค

ตามข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ในระยะข้างหน้า ไทยน่าจะยังคงสามารถดึงดูดการลงทุน Data Center ได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจาก 3 ปัจจัย ได้แก่

1. ความต้องการ Data Center จากภาคธุรกิจไทยที่กำลังขยายตัว 
2. ปริมาณไฟฟ้าสำรองของไทยที่อยู่ในระดับสูงมากกว่าร้อยละ 30 
3. นโยบายส่งเสริมการลงทุน Data Center ของภาครัฐ

โดยในปี 2024-2027 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า ไทยน่าจะสามารถดึงดูด การลงทุน Data Center ได้เป็นมูลค่าราว 7.8 พันล้านดอลลาร์ฯ หรือราว 2.6 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม ไทยยังต้องเร่งพัฒนาด้านบุคลากร เพื่อรองรับการเติบโตของตลาด รวมถึงสร้างความมั่นใจด้านนโยบายในระยะยาว เพื่อดึงดูดการลงทุน และสร้าง Ecosystem ที่เอื้อต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

อ้างอิง: boi, boi2, boi3, kpmg, techsauce, microsoft