วันที่ 30 ก.ย. 2024 Ruth Porat ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุนบริษัท Alphabet และ Google ได้เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อเข้าพบ และหารือร่วมกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถือเป็นการเข้าหารือกับรัฐบาลไทยติดต่อกันเป็นปีที่สองติดต่อกันเพื่อสานต่อภารกิจ Leave no Thai Behind ของ Google ประเทศไทย
โดยครั้งนี้ Google ได้ประกาศแผนการลงทุนกว่า 3.6 หมื่นล้านบาทให้ทราบภายในวาระเยือนไทยครั้งนี้ด้วย Techsauce ขอสรุปแผนการลงทุนล่าสุดของ Google ในปี 2024 ไว้ดังนี้
การลงทุนครั้งนี้เป็นการต่อยอดการลงทุนของ Google ตลอด 12 ปีที่ดำเนินการในประเทศไทย ย้อนกลับไปเมื่อปี 2022 ผลิตภัณฑ์และโครงการต่างๆ ของ Google สนับสนุนการจ้างงานในประเทศกว่า 250,000 ตำแหน่ง และสร้างผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ภาคธุรกิจไทยกว่า 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.38 แสนล้านบาท
โดย Google จะลงทุนสร้าง Data Center แห่งแรกในนิคมอุตสาหกรรม WHA จังหวัด ชลบุรี และ Cloud Region ในกรุงเทพฯ เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานคลาวด์ที่เพิ่มมากขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทั่วโลก โดย Data Center และ Cloud Region จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ที่ให้บริการ Google Cloud รวมรองรับการใช้งานนวัตกรรม AI และบริการต่างๆ ของ Google เช่น Google Search, Google Maps และ Google Workspaces
นอกจากนี้การมี Data Center ในไทยจะช่วยให้บริการด้านดิจิทัลมีความเชื่อถือยิ่งขึ้น รองรับการขยายขอบเขตบริการได้มากขึ้น อีกทั้งยังมีความเร็วสูงขึ้น โดย Google ระบุว่า การลงทุนครั้งนี้จะช่วยสร้างงานกว่า 14,000 ตำแหน่งโดยเฉลี่ยต่อปี ตั้งแต่ปี 2025-2029 และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ไทยประมาณ 1.4 แสนล้านบาทแก่ GDP ภายในปี 2029
อีกไม่นาน Google จะครบรอบ 13 ปีในประเทศไทย โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา Google ได้ฝึกอบรมคนไทยไปกว่า 3.6 ล้านคนทั้งนักเรียน นักการศึกษา ผู้ประกอบการ SME และนักพัฒนาซอฟต์แวร์
และเพื่อเป็นการต่อยอด Google ได้วางแผน และสนับสนุนการลงทุนทักษะด้าน AI ในประเทศไทยผ่านองค์กรในประเทศ โดยตั้งเป้าส่งเสริมคนไทยจำนวน 150,000 คนในปี 2026 ผ่านโครงการดังนี้
Google จะสานต่อ Project SEALD (Southeast Asian Languages in One Network Data) ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ AI Singapore หน่วยงานด้านการวิจัย และนวัตกรรมระดับชาติของสิงคโปร์เพื่อให้ AI ครอบคลุม เข้าถึงได้ และมีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดย Google จะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในประเทศไทยเพื่อเผยแพร่ชุดข้อมูลภาษาไทยแบบโอเพนซอร์สเพื่อใช้ในการฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model : LLM) ซึ่งจะช่วยให้โมเดลภาษาเข้าใจบริบททางวัฒนธรรม และทรงประสิทธิภาพมากขึ้น
Google ได้จัดตั้งหลักสูตรการพัฒนาบุคคลากรที่มีความสามารถด้าน AI ผ่านโครงการต่างๆ ที่ได้ร่วมมือกับรัฐฯ และภาคอุตสาหกรรม รายละเอียดดังนี้
Samart Skills - หลักสูตรออนไลน์ที่ได้รับการรับรองของ google โดยให้การฝึกอบรมทักษะที่กำลังเป็นที่ต้องการ และเป็นแหล่งความรู้สำหรับนักเรียน และผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสายอาชีะ
AI Essentials - หลักสูตรช่วยให้คนในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้เรียนรู้ทักษะเกี่ยวกับ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
Gemini Academy - โครงการฝึกอบรมครูเกี่ยวกับทักษะด้าน AI ตลอดจนวิธีใช้ gemini และ AI อย่างปลอดภัย และรับผผิดชอบ โดย Google เปิดเผยว่า ผู้เรียนกว่า 96% เห็นด้วยว่า AI ช่วยสนับสนุนในด้านการสอน โดยในตอนนี้มีครูผ่านการฝึกอบรมด้านทักษะ AI แล้วมากกว่า 20,000 คน
Google กำลังสำรวจเทคโนโลยี AI รูปแบบใหม่ๆ อย่างรับผิดชอบเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงให้กับผู้คน โดยในตอนนี้มีโซลูชัน Automated Retial Disease Assesment (ARDA) ที่ใช้ AI คัดกรองภาวะเบาหวานขึ้นจอตาซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานที่อาจทำให้เกิดตาบอดถาวร
Google ระะบุว่า ตอนนี้ไทยมีผู้ป่วยเบาหวานประมาณ 4.5 ล้านราย ในจำนวนนี้ 1 ใน 3 มีภาวะเบาหวานขึ้นจอตา แถมประเทศไทยยังขาดแคลนแพทย์ มีจักษุแพทย์ทั่วประเทศราว 1,500 คนและผู้เชี่ยวชาญด้านจอตาเพียง 250 คน ทำให้โปรเจ็กต์ ARDA จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์ได้แบบเรียลไทม์ในความแม่นยำระดับเดียวกับผู้เชี่ยวชาญด้านจอตา ซึ่งในตอนนี้มีคนไทยมากกว่า 50,000 คนได้รับการคัดกรองจาก ARDA แล้ว
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด