Cloud HM ร่วมกับ VMware Thailand จัดงาน “It's A Cloud Native Day. Transform your Legacy App into Cloud Native App with VMware Tanzu” งานสัมนาสุดพิเศษในหัวข้อเกี่ยวกับ Cloud Native App ประกาศความพร้อมในการให้บริการ “VMware Tanzu” Kubernetes as a Service บน Local Data Center จาก Cloud HM และในฐานะพาร์ทเนอร์ VMware Cloud Verified ในประเทศไทย ซึ่งเป็นโซลูชั่นสำหรับองค์กรที่ต้องการปรับเปลี่ยนจาก Legacy Application สู่ Application Modernization ตอบโจทย์การบริหารจัดการข้อมูลมหาศาลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างวดเร็วในปัจจุบัน
คุณเอกภาวิน สุขอนันต์ Country Manager, VMware Thailand กล่าวต้อนรับเปิดงานโดยระบุว่า “ในปัจจุบันสังคมเราใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นแอพลิเคชั่นอีคอมเมิร์ซและโซเชียลมีเดียที่เราใช้งาน เราทุกคนล้วนอยู่บนระบบคลาวด์ ข้อมูลมหาศาลหมุนเวียนอยู่ใน Data Center หากเราสังเกตถึงข้อมูลที่เราเห็น จะเป็นข้อมูลจากการสังเคราะห์และส่งข้อมูลต่อไปยังแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อทำการวิเคราะห์สิ่งที่เราสนใจและแนะนำสินค้าเหล่านั้นให้เราเห็น การวิเคราะห์ข้อมูลจากคลาวน์กลายเป็นวิถีหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา กลายเป็น Cloud Native Everyday”
ซึ่งภายในงานได้รับความสนใจจากลูกค้าและผู้ที่สนใจเข้าร่วมรับฟังทั้งรูปแบบ Physical และ Virtual เป็นจำนวนมาก โดยไฮไลต์สำคัญของงานในครั้งนี้ คือ การร่วมพูดคุยแชร์ประสบการณ์ แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับ Cloud Native App นำทีมโดยผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญจาก VMware Thailand, Cloud HM และVeeam ใน Session ต่าง ๆ ในช่วงสุดท้ายสำหรับผู้เข้าร่วมงานที่ได้ร่วมกิจกรรมกับบูธภายในงาน ลุ้นรับ NFT N’Ready และรางวัลสุด Exclusive อีกมากมาย
ปัจจุบันสถานการณ์โควิดได้กระตุ้นให้ธุรกิจปรับปรุงระบบพัฒนาแอพลิเคชั่นให้ทันสมัยอย่างมีนัยสำคัญ ธุรกิจเห็นความสำคัญของคลาวน์มากขึ้น ทั้งเรื่อง Software, Infrastructure Platform คุณณพัชร อัมพุช Managing Director, Cloud HM กล่าวว่า “ธุรกิจส่วนใหญ่เริ่มมีการยก Traditional Application ที่อยู่บนระบบ On-Premise เช่น VM, ERP, Accounting, Fileshare ขึ้นสู่ระบบคลาวด์ (Lift & Shift) ในสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึง Cloud Native App ที่มี Modern Workloads สำคัญ ๆ เช่น Devops, Big Data, AI, ML ซึ่งเราจะเห็นหลายองค์กรไม่ว่าจะเป็นองค์กรแบบ Business to Business (B2B) หรือ Business to Customer (B2C) มักจะพูดถึง Big Data, AI (ปัญญาประดิษฐ์), ML (Machine Learning) เนื่องจากระบบเหล่านี้จะช่วยวิเคราะห์และจัดการข้อมูลให้การทำธุรกิจง่ายขึ้นและข้อมูลเหล่านี้สามารถสร้างรายได้ให้แก่องค์กรมหาศาล”
Cloud Native App คือ รูปแบบของการพัฒนาแอปพลิเคชันสมัยใหม่ที่มีการใช้งานบนคลาวด์เพื่อรองรับ Cloud Computing Model โดยมี 3 ลักษณะสำคัญ ได้แก่
คุณอาทิตย์ อุ่นแก้ว Technical Lead,Cloud HM กล่าวว่า “เมื่อแบ่งเป็น Microservice แล้ว การพัฒนาของเราก็จะเร็วขึ้นในการพัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ ความพึงพอใจของลูกค้าเมื่อเราส่งมอบฟีเจอร์ได้อย่างรวดเร็ว เราสามารถส่ง Code ไปที่ระบบได้หลายครั้งโดยมีความน่าเชื่อที่สูง และเป็นการปรับความเข้าใจระหว่าง Developer และ Operation จากนั้นทีมจะมีเวลาในการไปเรียนรู้ Innovation ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น”
ในส่วนต่อมา คุณชาลี คำพีรภาพ Senior Solution Architect,VMware Thailand ได้เจาะลึกถึงรายละเอียดที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ VMware Tanzu ของ VMware ซึ่งเป็น Portfolio สำหรับการทำ Modernization Application โดย VMware มีเป้าหมายในการสร้าง Software Defined Data Center ที่สามารถโยกย้ายระบบการทำงานและขยายปริมาณพื้นที่ได้อย่างอิสระในทุก Cloud Environment คุณชาลีกล่าวว่า “เทคโนโลยีของ VMware เปลี่ยนแปลงไปสู่การให้บริการบน Cloud Provider นอกเหนือจาก Private Cloud เราเชื่อมั่นว่าแอปฯ ของเราจะต้องสามารถรันในทุก ๆ คลาวด์ ไม่ว่าองค์กรธุรกิจจะอยู่ในสเตจของแอปพลิเคชันแบบ Monolith ยังไม่พร้อมทำการ Refactor ไปยัง Microservice หรือ Replatform เป็น Container ” โดย VMware เห็นถึงปัญหาและความท้าทายในปัจจุบัน ได้แก่
คุณชาลีกล่าวว่า “เราพบว่าหลายองค์กรใช้ซอฟต์แวร์หลายตัวบนคลาวด์ที่ต่างกันขึ้นอยู่กับลักษณะ Workload นักพัฒนา ในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง Open Source มาใช้หลากหลายเพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันให้เหมาะกับองค์กร ขณะเดียวกันในทีม Operation ไปจนถึง Platform Infrastructure ต้องโฟกัสในการรักษาระบบให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ หากสังเกตจะพบว่าตลอดทั้งเชนของ Development & Operator Experience จะมีช่องว่างอยู่ เช่น การไม่มีมีหน้าจอกลางในการบริหารจัดการ การทำ Access Management และ Set Permission ในแต่ละคลัสเตอร์ที่มีความซับซ้อนทำให้ทั้ง Devsecops ทำงานยากพอสมควร”
ผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยในการการบริหารจัดการซอฟต์แวร์และการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งเป็น Portfolio ขนาดใหญ่ ครอบคลุม End-to-End Story ตั้งแต่ Developer Experience ไปจนถึงการ Deployment to Production ลูกค้าสามารถใช้ชุดโปรแกรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แอปพลิเคชั่นมีความทันสมัยและทำงานได้อัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในรูปแบบ Multi-Cloud Environment โดย Cloud Provider Service ของ VMware ครอบคลุมการทำ Application Modernization ทั้งในกรณี Rehost และ Replatform
การให้บริการของ VMware Tanzu for Modern Apps Platform จะแบ่งเป็น 2 ส่วน
1. VMware Tanzu for Kubernetes Operations ส่วนที่ครอบคลุมการทำงานในฝั่ง Security & Operation โดยจะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการรัน Kubernetes บนคลาวด์ประเภทต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์การทำ Automated Policy ผ่าน Local Control Plane ส่วนกลาง โดย Cloud HM ได้ Provide Kubernetes as a Service ที่เรียกว่า Tanzu for Kubernetes Operations (TKO) ในการ Run-Time Service ที่จะเรียกว่า Tanzu Kubernetes Grid (TKG) ช่วยให้ลูกค้าสามารถติดตั้งและรัน Kubernetes แบบมัลติคลัสเตอร์บนโครงสร้างพื้นฐานที่กำหนดไว้ (Kubernetes Clusters On-Demand) โดย Kubernetes ของ VMware Tanzu สามารถรันไทม์ร่วมกับ Kubernetes ใน Multi-cloud Environment อื่น ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง โดยทาง Cloud HM Managed จะเป็นผู้ให้บริการดูแลในส่วนนี้
2. VMware Tanzu Application Platform ส่วนที่ครอบคลุมการทำงานในฝั่ง Developer Experience เพื่อช่วยให้นักพัฒนามี Practices ที่ดียิ่งขึ้น โดยทาง VMware จะมีชุดซอฟต์แวร์และเครื่องมือที่สำคัญในแต่ละกระบวนการทั้ง Software Supply Chain รองรับการพัฒนาโค้ด ส่งโค้ดเพื่อรัน โดยสามารถที่จะรันบน Kubernetes ใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็น Kubernetes ของ Tanzu เช่น Kubernetes บน Public Cloud หรือ Platform as a service -TKG EKS GKE เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีบริการเพิ่มเติมในส่วน VMware Tanzu Labs ในการให้ความช่วยเหลือให้คำปรึกษาออกแบบ ติดตั้ง และสนับสนุนหลังการติดตั้งสำหรับองค์กรธุรกิจ โดยมีโปรแกรม Paring Programmer และ Paring Data Scientist ร่วมพัฒนากระบวนการการทำงานและการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการไปพร้อมกับลูกค้าให้ประสบความสำเร็จรวดเร็วยิ่งขึ้น
คุณอาทิตย์ อุ่นแก้ว Technical Lead, Cloud HM แชร์มุมมองในฝั่ง Technical Team เกี่ยวกับการวางแผนทำ Application Modernization องค์กรธุรกิจควรเตรียม 2 ส่วน ได้แก่ ระบบโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือที่รองรับในการเลือกใช้สำหรับทีม (Infrastructure & People)
จากแผนภาพจะเห็นว่าในส่วน Cloud และ Containers นั้น VMware Tanzu Kubernetes และ Cloud HM จะเป็นผู้ดูแลในส่วนนี้ โดยมี Pipelines เตรียมรองรับสำหรับส่วนต่าง ๆ เพื่อทำระบบ Automation Deployment สู่ Kubernetes องค์กรจะสามารถโฟกัสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการได้เต็มที่ โดยปัจจุบันการทำ Application Modernization จะมี 3 รูปแบบขึ้นอยู่กับลักษณะของแอปพลิเคชันขององค์กรรวมถึงลักษณะการทำงานของ Workload ที่จะเลือกเทคโนโลยีมาช่วยสนับสนุนในการปรับเปลี่ยนจุดต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน ได้แก่
ในช่วง Panel Session ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่รวมผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญมาร่วมพูดคุยตอบคำถามในประเด็นสำคัญ ๆ อาทิ
โดยสรุปปิดท้ายนั้น องค์กรต้องเข้าใจถึงภาพรวมใน Environment ทั้งหมดเพื่อให้ทราบถึงระบบการทำงานของส่วนประกอบต่าง ๆ การปรับปรุงแอปพลิเคชันหรือสร้างขึ้นใหม่เพื่อทดแทนเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ ต้องเข้าใจปัญหา ผลกระทบ และประโยชน์ที่จะเกิด คุณชาลีให้แง่คิดว่า “สุดท้ายแล้วนั้น Cloud Native ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับหลายธุรกิจ ถึงแม้ว่าจะขึ้นชื่อว่าเป็นระบบที่เข้ามาช่วยบริหารจัดการให้ง่ายขึ้น แต่ยังคงมีความท้าทายอยู่มาก เช่น หลักการ Management การ Monitoring ที่มี Networking ซับซ้อนขึ้น รวมถึงแนวทางการทำ Storage Backup ดังนั้นการดูแลรักษาระบบจะเปลี่ยนไปด้วย การออกแบบระบบ Practice
Devsecops ที่ดี จะช่วยลด Human Error ได้มาก สร้างประโยชน์ที่สร้างต่อองค์กรมหาศาล” หากสนใจบริการ VMware สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดต่อได้ที่ Cloud HM
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด