บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CP AXTRA ผู้ดำเนินธุรกิจค้าส่งค้าปลีกแบรนด์ ‘แม็คโคร’ และ ‘โลตัส’ เพิ่งประกาศจับมือกับ ซีเจ โลจิสติคส์ หรือ CJ Logistics ยักษ์ใหญ่ด้านโลจิสติกส์จากเกาหลีใต้
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังเพื่อยกระดับ Supply Chain แบบครบวงจร ตั้งแต่การเตรียมสินค้า การจัดเก็บ ไปจนถึงการกระจายสินค้า เพื่อรองรับการเติบโตของ E-commerce ที่พุ่งสูงขึ้น
Techsauce พาไปเจาะลึกถึงเบื้องหลังดีลครั้งนี้ที่จะช่วยผลักดันให้ CP AXTRA ขึ้นเป็นผู้นำบริษัทเทคโนโลยีค้าปลีก (Retail Technology) ในระดับอาเซียน
ในโลกโลจิสติกส์ CJ Logistics ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวจริงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 90 ปี และแข็งแกร่งในเรื่องระบบขนส่งเป็นอย่างมาก โดยก่อตั้งเมื่อปี 1930 นับเป็นบริษัทโลจิสติกส์ที่เก่าแก่ที่สุดของเกาหลีใต้ มีการให้บริการใน 46 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งการขนส่งพัสดุ และโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ CJ Logistics ยังถือว่าเป็นผู้นำแห่งเทคโนโลยี โดยมีหน่วยงานที่เรียกว่า TES (Technology, Engineering, Systems & Solutions) ซึ่งเน้นการนำ AI, Big Data และระบบหุ่นยนต์มาใช้ในคลังสินค้า
โดยสรุปคือ CJ Logistics มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการวางรากฐานให้เกาหลีใต้กลายเป็นหนึ่งในตลาดอีคอมเมิร์ซที่แข็งแกร่งที่สุด ซึ่งปัจจุบันตลาดค้าปลีกเกาหลีใต้เป็นอีคอมเมิร์ซไปแล้วถึง 51%
การปรับตัวของ Modern Trade สู่การเป็น Online Player จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคงในอนาคต

คุณธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่ง บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิมกำลังเผชิญกับความท้าทายสำคัญ นั่นก็คือการที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ กำลังเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงเข้ามามีส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างมาก
หาก Modern Trade ไม่ปรับตัวเข้าสู่โลกออนไลน์ ก็จะมีความเสี่ยงที่จะถูก Disrupt ดังนั้นบทต่อไปของการค้าสมัยใหม่จะถูกกำหนดโดยประสิทธิภาพในการส่งมอบประสบการณ์แบบ Omnichannel ที่ไม่สะดุดให้กับลูกค้า
นอกจากนี้ ความท้าทายปัจจุบันไม่ใช่แค่การส่งของจากคลังไปสาขา แต่ต้องรับมือกับความผันผวนของยอดขาย เช่น ในช่วงโปรโมชั่น Double Days หรือ Flash Deals ซึ่งระบบโลจิสติกส์แบบดั้งเดิมอาจเริ่มรับมือไม่ไหว จึงต้องใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยเพื่อให้เห็นข้อมูลแบบ Real-time และแก้ปัญหาสินค้าขาดสต็อก
โดย CP AXTRA มีเป้าหมายในการก้าวเป็นผู้นำบริษัทเทคโนโลยีค้าปลีกในอาเซียน และเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น CP AXTRA ต้องการพันธมิตรระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่ง CJ Logistics ก็ตอบโจทย์ด้วยประสบการณ์ในตลาดเกาหลีที่อีคอมเมิร์ซไปไกลกว่าไทยมาก

1.เปลี่ยนวิธีคิดจาก Silo สู่ TCO
ปัญหาคลาสสิกขององค์กรใหญ่คือการทำงานแยกส่วน (Silo) เช่น ฝ่ายคลังสินค้าพยายามลดต้นทุนด้วยการอัดสินค้าใส่รถให้แน่นที่สุด ผลลัพธ์คือสินค้าเสียหายเมื่อถึงสาขา ทำให้ต้นทุนรวมแพงกว่าเดิม
CJ Logistics เข้ามาช่วยมองภาพรวมด้วยแนวคิด TCO (Total Cost of Ownership) คือดูต้นทุนทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ใช่แค่จุดใดจุดหนึ่ง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจริง ๆ
โดยมีการเปิดเผยตัวเลขที่น่าสนใจว่า เมื่อนำระบบของ CJ Logistics มาใช้ สามารถลดเวลา Cross-docking ของการจัดส่งสินค้าจากคลังสู่สาขา จากระยะเวลาเดิม 72 ชั่วโมง เหลือต่ำกว่า 24 ชั่วโมง
นอกจากเทคโนโลยีแล้ว สิ่งที่ CJ Logistics นำมาปรับใช้ด้วยคือวัฒนธรรม ‘ปัลลี ปัลลี’ (Palli Palli) ซึ่งภาษาเกาหลีที่แปลว่า ‘เร็ว ๆ’
ในตลาดเกาหลี ความเร็วคือเรื่องของ ‘ความอยู่รอด’ สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ไม่ต้องการรอ จากเดิมที่การส่งสินค้า E-commerce เคยเป็น Next Day ปัจจุบันผู้บริโภคต้องการ Same Day หรือภายใน 2-3 ชั่วโมง ซึ่งระบบซัพพลายเชนต้องปรับตัวให้ทันกับความคาดหวังของผู้บริโภคยุคใหม่
2. พัฒนาเทคโนโลยีและระบบโลจิสติกส์
Total Control Tower - มีการร่วมกันพัฒนาศูนย์การควบคุมแบบบูรณาการ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการ และเห็นข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งช่วยให้ติดตามสถานะสินค้าได้แม่นยำและลดปัญหาการบริหารจัดการ
Warehouse Management System - มีการร่วมกันพัฒนาระบบบริหารจัดการคลังสินค้าเพื่อให้การทำงานมีความรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
TES - CJ Logistics มีการนำกลุ่มงาน Technology, Engineering, System & Solutions เข้ามาช่วยวิเคราะห์ และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน การจัดการการขนส่ง และเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
3. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศูนย์กระจายสินค้า
ความร่วมมือในระยะแรกเริ่มจากการเข้าบริหารจัดการศูนย์กระจายสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain) ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พื้นที่กว่า 67,000 ตารางเมตร ซึ่งรองรับสินค้าทั้งแบบอุณหภูมิปกติ แช่เย็น และแช่แข็ง โดยมีแผนขยายความร่วมมือไปยังศูนย์กระจายสินค้าธุรกิจค้าส่งอื่น ๆ รวมพื้นที่กว่า 164,000 ตารางเมตรในเฟสถัดไป
CJ Logistics และ CP AXTRA จะทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานในศูนย์กระจายสินค้า (CDC) และลดระยะเวลาการรอสินค้า
4. การถ่ายทอดองค์ความรู้
นอกจากเรื่องระบบและการจัดการ CP AXTRA และ CJ Logistics ยังมีความร่วมมือในการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อสร้างคุณค่าให้แก่คู่ค้าและผู้ประกอบการ SME ของไทย
จะเห็นได้ว่า ความร่วมมือระหว่าง CP AXTRA และ CJ Logistics ในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องการขนส่ง แต่คือจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมองค์กรค้าส่งค้าปลีกดั้งเดิม ให้กลายเป็น 'บริษัทเทคโนโลยีค้าปลีก' (Retail Tech Company) ชั้นนำของภูมิภาคอย่างเต็มตัว
การนำเทคโนโลยี Total Control Tower และองค์ความรู้จากตลาดอีคอมเมิร์ซที่พัฒนาแล้วอย่างเกาหลีใต้มาปรับใช้ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ CP AXTRA เสริมศักยภาพจากการทำงานแบบเดิม เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำทั้งในตลาด B2B และ B2C ระดับ ASEAN ได้ตามเป้าหมาย
เรียกได้ว่า นี่คือจุดเริ่มต้นของการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการโลจิสติกส์ และซัพพลายเชนค้าส่งค้าปลีกของไทย ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเทคโนโลยีอย่างแท้จริง
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด