เป็นประจำทุกปีกับงาน Creative Talk Conference 2018 ที่จะรวบรวมเนื้อหา ความรู้ และ ข้อมูลใหม่ ๆ สำหรับผู้ที่สนใจในเรื่อง Creative, Digital Marketing, Technology และ Startup/Entrepreneur โดย Sessions หนึ่งที่น่าสนใจในงาน คือ Session หัวข้อ "Introduction CTC2018 & 2018 Trends : TECHNOLOGY" ที่พาไปมองเทรนด์เทคโนโลยีที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2018 นี้
มองว่าตอนนี้มีเทคโนโลยี 3 อย่างที่คนกำลังให้ความสนใจ
1. Internet of Things (IoT) จะเปลี่ยนไปเป็น Intelligence Things แทน (อ้างอิงคำจาก Gartners) สิ่งต่างๆ รอบตัวเราจะมี AI เข้ามา Predict หรือควบคุม กลายเป็นยุคของ Intelligence Things ซึ่งในมหาวิทยาลัยมีหลายโครงการที่น่าสนใจ เช่น
2. บริษัทด้านเทคโนโลยีด้านการเงินเก็บข้อมูลผู้บริโภค (Consumer Data) ได้มากขึ้น หลังทุกแบรนด์ ทุก Business ตระหนักและให้ความสำคัญกับ Data ทำให้ต้องเก็บข้อมูลผู้บริโภคมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทด้านเทคโนโลยีได้ข้อมูลลูกค้าไปมากกว่าธนาคารแล้ว เช่น ในจีนมีการจ่ายเงินผ่านมือถือเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้บริษัทอย่าง Alipay และ WeChat Pay ก็จะได้ข้อมูล Consumer Data และ Financial Transaction ไปเป็นจำนวนมาก
3. ฟองสบู่ ICO หลายองค์กรพยายามระดมทุนผ่าน ICO จึงต้องระวัง ICO ปลอม หรือ ICO Scam เกิดขึ้นมาเป็นจำนวนมากอีกด้วย จนอาจกลายเป็นฟองสบู่ ICO และ ICO หลายตัวที่บอกว่าใช้ Blockchain แต่สิ่งหนึ่งที่ควรตระหนักคืออย่าลืมว่า Blockchain มีจุดประสงค์แก้ปัญหาภาคธุรกิจ ทุกบริษัทด้านเทคโนโลยีไม่จำเป็นต้องใช้ Blockchain เสมอไป นอกจากนี้ ICO หลายตัวเริ่มดูรายละเอียดหรือเบื้องหลังความเป็นมาได้ยากขึ้น ถ้าหากจะลงทุนจริง ๆ ต้องดูจากความเป็นไปได้ของธุรกิจว่าจำเป็นต้องใช้ Blockchain หรือไม่
1. การหลอมรวม (Integrate) เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดเป็น Smart City ปัจจุบันเทคโนโลยีอย่าง Mobile, IoT, Cloud และ AI ทุกอย่างเริ่มมีการหลอมรวมหรือ Integrate เข้าด้วยกัน รวมถึงมีแนวโน้มในการนำมาประยุกต์ใช้ใน Smart City ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
2. บริษัทจะเริ่มมองหาทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีมากขึ้น โดยยกตัวอย่างอุตสาหกรรมยาในไทยที่ผลิตได้ไม่มาก แต่ไทยสามารถผลิตชุดทดสอบ Test kit สำหรับตัวสัตว์ อาหาร พืช และการเพาะปลูก ได้เป็นจำนวนมาก ทำให้ไทยมีทิศทางในการมองหาทรัพย์สินทางปัญญามาสร้างสรรค์ได้มากขึ้น
3. Blockchain จะใช้ในหลากหลายวงการมากขึ้น แต่ต้องพ่วงกับ Security ในไทยเรื่องของ Security ยังไม่ชัด แต่หลังจากนี้จะตื่นตัวเพราะบริษัทต่าง ๆ เอา Blockchain ไปอยู่ใน Business Flow มากขึ้น โดยคุณเต๊ะยกตัวอย่างว่าต่างประเทศจะมี War Room ตรวจสอบเรื่องของ Security ได้อย่างชัดเจน ตรวจสอบได้หมด นอกจากนี้ยังเสนอให้ไทยสร้างกฎหมายและการกำกับดูแลด้าน Security ให้เกิดขึ้นอย่างจริงจัง
มองจาก 3 คำถามที่มีคนถามบ่อย ๆ ได้แก่ (1) โดนแฮคอย่างไรดี? (2) จะตกงานเพราะ AI หรือเปล่า? และ (3) ซื้อ Bitcoin ดีหรือไม่? ทำให้มองออกมาเป็นเทรนด์ได้ 3 ข้อหลัก คือ
1. Security ปัจจุบันเราใช้เทคโนโลยีกันกันมากขึ้น ทุกอย่างเป็น Intelligence ยิ่งลีกหนีจากโจมตีไม่ได้ เพราะมันจะมีมากขึ้นเป็นตามจำนวนอุปกรณ์ไอทีที่เพิ่มขึ้น เพราะไอทีมีช่องโหว่มากมาย ซึ่งต่อไปการพบช่องโหว่จะมาแบบเดือนต่อเดือน จำนวนรายงานช่องโหว่จะมาขึ้น การโดนโจมตีจะมากขึ้น
2. AI จะมีหลายประเภท ตั้งแต่ Auto tag จนถึง รถยนต์ไร้คนขับ ภาพรวม AI ฉลาดขึ้นอย่างแน่นอน เห็นได้จาก AlphaGo หรือ การออกรถยนต์ไร้คนขับในปีหน้าที่อเมริกา Waymo (Google) และ Uber
3. Cryptocurrency มองว่าภาพรวมเป็นฟองสบู่แน่นอน แต่จะไม่เหมือนฟองสบู่ในอดีต (เช่น ฟองสบู่ทิวลิป-ฟองสบู่ดอทคอม) ซึ่งตอนนี้ยังคาดการณ์ได้ยาก อย่าลืมการลงทุนมีความเสี่ยงจึงควรต้องระวัง นอกเหนือจากราคาที่ผันผวน ยังมีความเสี่ยงที่ Cryptocurrency ที่ลงทุนไปอาจจะถูกแฮคด้วย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด