ปี 2023 ที่ผ่านมา ถูกขนานนามว่าเป็นปีแห่งการมาถึงของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการนำ Data มาประมวลผลเพื่องานที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นในปี 2024 นี้ จึงกลายเป็นปีที่ทุกองค์กรไม่สามารถมองข้ามการใช้งาน Data และ AI ได้อีกต่อไป หลายธุรกิจหันมาใช้เครื่องมือในการบริหารจัดการอย่างจริงจัง คำถามสำคัญจึงอยู่ที่ว่า ผู้ประกอบการจะหยิบเทคโนโลยีไหนมาใช้ และทิศทางการเติบโตของ Data และ AI จะเป็นอย่างไร นี่คือคำตอบที่คนทำธุรกิจอยากรู้

เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณพรรณศิริ อมาตยกุล Head of Data Modernization ในกลุ่มบริษัท MFEC และเป็นผู้กำหนดทิศทางธุรกิจ Data และ AI  ภายใต้ชื่อ DataWise ที่เชี่ยวชาญด้านการทำ Data และ AI มากกว่า 20 ปี เพื่อหาคำตอบว่าเพราะเหตุใด Data และ AI จึงกลายเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ

DataWise เป็นบริษัทที่เกิดจากการร่วมมือระหว่าง MFEC, Business Applications Co. (BAC) และ Data Cafe ในการปั้นทีมงานกว่า 400 คน ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน DATA และ AI ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมุ่งเน้นการส่งมอบบริการที่ครบวงจรตั้งแต่การให้คำปรึกษา พัฒนาระบบ ไปจนถึงการฝึกอบรมทักษะการใช้เทคโนโลยีในทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ลูกค้า” คุณพรรณศิริ เล่าถึงจุดเริ่มต้น

End-to-End Solution บริการครอบคลุมทุกระบบสำคัญเกี่ยวกับ DATA และ AI

นอกจากเรื่องความเชี่ยวชาญของทีมงานกว่า 400 คน DataWise ยังมี End-to-End Solution ที่ทำให้มีความได้เปรียบจากผู้เล่นในธุรกิจเดียวกัน โดยมีบริการที่ครอบคลุมทุกระบบสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ DATA และ AI แบ่งเป็น 4 Pillars ดังนี้

1. Artificial Intelligence ใช้ความเชี่ยวชาญในการสร้างและพัฒนา AI ให้กับองค์กร โดยมีทีมงานให้คำปรึกษาและดูแลทุกขั้นตอน เพื่อให้ลูกค้าใช้ AI ได้เต็มประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา ลดการทำงานซ้ำ และเพิ่มขีดจำกัดความสามารถของการทำงาน
2. Intelligent Data Platform ใช้ความเชี่ยวชาญด้าน Data Management ผสมผสานกับ AI เพื่อให้บริการอย่างครบวงจร ทั้งแบบปกติหรือ Realtime ตั้งแต่การนำเข้าข้อมูล (Data Ingestion) การเชื่อมโยงข้อมูล (Data Integration และ ETL) การทำความสะอาดข้อมูล (Data Cleansing) และการธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance) ที่เป็นหัวใจสำคัญในการทำงานกับ Data
3. Advanced Analytics นอกจากการนำเสนอข้อมูลเชิงเทคนิค DataWise พร้อมให้คำปรึกษาในทุกๆ ขั้นตอน อีกทั้งยังมีกรณีศึกษาและตัวอย่างการใช้งานที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าเทคโนโลยีแบบไหนที่เหมาะกับธุรกิจตนเองที่สุด และเมื่อนำเทคโนโลยีเหล่านั้นไปใช้ จะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ
4. Modernized Databases ให้บริการเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูลทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ ติดตั้ง ปรับแต่ง และพัฒนาโซลูชันระบบฐานข้อมูลให้ทันสมัยและเหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และตอบสนองความต้องที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของธุรกิจ 

จากภาพด้านล่าง คุณพรรณศิริ ได้ขยายความถึงการทำงานแบบ Synergy ของทั้ง 4 Pillars เพื่อให้เกิดเป็นระบบที่สมบูรณ์แบบ โดยเปรียบ AI เป็นสมอง, การมองเห็นและประมวลผลเป็นดวงตา, การเข้ามาของ Data เป็นจมูกและปาก และส่วนร่างกายทั้งหมดเป็น Database

หากถามว่าถ้าธุรกิจอยากประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องทำครบทั้ง 4 Pillars หรือไม่?

คุณพรรณศิริ ให้คำตอบว่า ไม่จำเป็น เพราะการจะทำครบทั้ง 4 Pillars นั้น จะต้องเกิดจากความพร้อมของลูกค้า เช่น หากวันนี้พร้อมเรื่อง Data Analytic ให้เริ่มจากเรื่องนั้นก่อน หรือหากเป็นองค์กรที่ทำเรื่อง Self Service ก็เริ่มจากการทำแพลตฟอร์มก่อนได้

             หัวใจสำคัญของการทำ Data คือ การตั้งโจทย์

“หัวใจของการทำอะไร Data นั่นคือการตั้งคำถามกับผู้ประกอบการควรตั้งมั่นจากปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะว่าถ้าตั้งผิดคำตอบก็จะผิดไปกับลูกค้าของเราในที่ทำงานกับเรา ทีมงานของ DataWise อาจจะช่วยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ขั้นตอนที่ตั้งขึ้นมาและถ้าลูกค้ามีเครื่องมือที่จะช่วยให้เราเปลี่ยนหรือควบคุมใหม่ได้ แต่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับสิ่งที่เป็นผล 

“นอกจากการตั้งโจทย์ที่ดีแล้ว การสนับสนุนจากผู้บริหาร หรือ Key Management ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะ Data ไม่ใช่เรื่องของคนๆ เดียว หรือแผนกใดแผนกหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของทุกคน หากผู้บริหารให้ความสำคัญย่อมส่งผลดีต่อองค์กรอย่างรอบด้าน ประกอบกับการอัปเดตความรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การทำงานราบรื่นที่สุด”

ยุคที่เรามีเครื่องมือตรวจสอบ Data และ AI ให้คุณเลือกใช้หลายคำถามว่าเครื่องมือแบบไหนที่เหมาะกับธุรกิจ 

คุณพรรณศิริ กล่าวว่า กว่า 20 ปีในการทำธุรกิจ เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบความสำเร็จให้กับลูกค้ามาตลอด เพราะลูกค้าแต่ละรายมีความต้องการที่แตกต่างกัน วิธีการเก็บข้อมูลไม่เหมือนกัน ดังนั้น การเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายจึงเป็นปัจจัยหลัก ทีมงาน DataWise จะเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับลูกค้าเพื่อดูว่าเครื่องมือแบบไหนที่เหมาะสมที่สุดกับโจทย์และความต้องการของลูกค้าจริงๆ

และไม่ได้หมายความว่าเรามีเครื่องมือชิ้นเดียวจะเหมาะกับทุกคน ดังนั้น ลูกค้าทุกคนที่เข้ามาจึงสบายใจได้ว่า เครื่องมือทุกอย่างจะถูก customize ตามความต้องการของลูกค้าจากประสบการณ์ที่เรามีในธุรกิจ Data

ผู้ประกอบการไทยยังใช้ Data มากเท่าที่ควร

คุณพรรณศิริ เล่าว่า อุปสรรคในการนำ AI มาใช้ภายในองค์กรมีหลายปัจจัย และเทคโนโลยีก็เป็นหนึ่งในนั้น “หลายๆ องค์กรมีการใช้เทคโนโลยีก็จริง แต่เป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัย นอกจากนี้ ยังมีอุปสรรคในเรื่องการเข้าถึง Data ภายในองค์กรของแต่ละแผนก ที่ไม่มีการแชร์ข้อมูลร่วมกัน จนสุดท้ายไม่มีใครได้ประโยชน์จาก Data เหล่านั้น ถ้าแต่ละแผนกแชร์ข้อมูลกัน ก็จะส่งผลดีต่อองค์กรยิ่งขึ้น ดังนั้น องค์กรควรนำข้อมูลจากหลายๆ แหล่งมาดูร่วมกัน และนำเครื่องมือ AI มาใช้เพื่อสกัดให้ได้ข้อมูลเชิงลึกบางอย่าง”

มองมายังฝั่งบริบทการใช้งานระดับประเทศ คุณพรรณศิริ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการไทยมีความตื่นตัวมากขึ้น แต่ยังมีการนำ Data มาใช้ไม่เยอะ เนื่องจากหลายคนอาจมองว่าการนำ Data และ AI มาใช้ เป็นการเปลี่ยนแปลงธุรกิจที่ต้องวางกลยุทธ์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งจริงๆ แล้วหากอยากให้ธุรกิจเติบโต เราปฏิเสธการใช้ Data ไม่ได้ เวลานี้จึงขึ้นอยู่กับว่าองค์กรจะนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ได้มากน้อยเพียงใด

อีกหนึ่ง Insight ที่ DataWise เจอระหว่างการดำเนินธุรกิจคือ ความรู้ความเข้าใจหรือพื้นฐานเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ทำให้องค์กรไม่สามารถขยับตัวได้เร็วตามต้องการ DataWise ยังมีบริการ Training หรือสร้างทีม ให้ลูกค้า มีหลักสูตรทั้ง Soft Skills และ Hard Skills โดยทีมงานจะศึกษาและออกแบบหลักสูตรที่เหมาะกับแต่ละองค์กร และพนักงานที่เข้ารับการฝึกอบรม เพื่อให้สามารถนำไปปรับใช้กับการทำงานได้มากที่สุด 

ในยุคนี้ที่ทุกอย่างพัฒนาไปเร็ว จะเกิดอะไรขึ้นหากภาคธุรกิจยังไม่ลองใช้ Data และ AI

“สิ่งสำคัญวันนี้เราต้องสนับสนุนให้องค์กรใช้ Data มากขึ้น วันนี้เราอาจบอกเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ว่ามีองค์กรใช้ Data มากน้อยเพียงใด แต่เราเชื่อว่าหากมีการนำมาใช้แล้ว จะช่วยให้องค์กรเติบโตขึ้นแน่นอน”

สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ธุรกิจไม่สามารถเดินหน้าได้โดยไม่รู้ข้อมูล หรืออาศัยแค่ประสบการณ์อย่างเดียวก็อาจไม่เพียงพอ เราอยู่ในโลกที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จึงยิ่งต้องนำ Data และ AI มาช่วยวิเคราะห์ การเดินหน้าของธุรกิจ

“แม้วันนี้เรายังไม่รู้อะไรอีกเยอะ แต่สิ่งหนึ่งที่ควรรู้คือ รู้จักตัวเองในทุกช่วงเวลา ไม่ใช่แค่วันนี้ แต่ต้องรู้เรื่องในอดีตด้วย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับธุรกิจตัวเอง หรือธุรกิจคู่แข่ง เพื่อนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เราสามารถนำ Data เหล่านั้นมาคาดการณ์อนาคตได้ และตัดความกังวลเรื่องเทคโนโลยีไปได้เลย เพราะเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีใช้งานง่ายขึ้น ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ทันที โดยใช้สูตร Think Big, Start Small หรือ คิดการใหญ่ เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ”

เมื่อถามถึงภาพในอนาคตของ DataWise คุณพรรณศิริ กล่าวว่า เราท้าทายตัวเองว่าการดำเนินงานของ DataWise ทั้ง 4 ส่วนต้องเกิด Synergy หรือการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิด End-to-End Solution อย่างแท้จริง ทำให้ลูกค้าเห็นประโยชน์และบริการที่สอดคล้องกันทุกส่วน เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้าที่ทำงานร่วมกับเรามาตลอด

ใน 2-3 ปีข้างหน้า เป้าหมายของเราจึงเป็นเรื่องการรักษาฐานลูกค้าเดิม และเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ Data ด้วยไดเรกชั่นของผู้บริหารเครือ MFEC เราไม่ได้มองแค่การทำธุรกิจในประเทศไทย เรามองว่าสามารถขยับไปสู่การให้บริการประเทศอื่นได้

ทั้งหมดนี้ เป็นแนวทางการบริหารงานของ DataWise ที่สะท้อนถึงการไม่หยุดนิ่งของธุรกิจ ให้บริการและคำปรึกษาด้าน Data และ AI ที่มีโจทย์ใหญ่เป็นเรื่องของการผสมผสานงานบริการทั้ง 4 Pillars ให้เข้ากับความต้องการของลูกค้า รวมถึงขยายเครือข่ายการทำธุรกิจไปสู่ประเทศอื่นๆ ได้อย่างมั่นคง