Delivery Service หรือ บริการขนส่งสินค้า เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของคนยุคใหม่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับที่  brand ซึ่งสร้างสรรค์โดยคนไทยอย่าง WESERVE จากฝีมือของ 'ณัฐชยา สืบศักดิ์' นักธุรกิจสาวผู้เล็งเห็นโอกาสเติบโต จึงเริ่มปักหมุดที่เมืองบ้านเกิดของเธออย่าง ภูเก็ต ก่อนขยายไปยังอีกหลายพื้นที่ในต่างจังหวัด เน้นจุดขายที่เข้าใจพันธมิตรและผู้บริโภคท้องถิ่น โดยตั้งเป้ารุกทุกหัวเมืองทั่วไทย

แม้ว่าก่อนหน้านี้ที่จะเห็นได้ว่ามีผู้เล่นรายใหม่จากต่างแดนเข้ามาตีตลาดในธุรกิจบริการขนส่งสินค้าของไทยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Foodpanda  LINE MAN Grab  Honestbee  หรือแม้กระทั่ง GET ซึ่งส่วนใหญ่ ล้วนแล้วแต่เปิดให้บริการในกรุงเทพมหานครเท่านั้น ด้วยจำนวนประชากรที่สูงกว่าหลายล้านคน จึงไม่เป็นที่แปลกใจเลยว่า ทำไมกลุ่มเป้าหมาย และการให้บริการถึงได้กระจุกตัว รวมถึงการแข่งขันที่ต้องฟาดฟันกันอย่างหนักหน่วง

อย่างไรก็ตามดีมานด์ หรือความต้องการใช้บริการเหล่านี้ก็ไม่ได้มีแค่ในกรุงเทพฯเท่านั้น  แต่ในต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ตามภาคต่าง ๆ ซึ่งจำนวนประชากร และสังคมเมืองที่ขยายตัวขึ้นไม่น้อย ก็มีความต้องการดังกล่าวเช่นเดียวกัน

โดยเฉพาะ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวและมีสังคมเมืองเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้วิถีชีวิตของคนภูเก็ตเองก็แทบจะไม่ได้แตกต่างอะไรกับคนกรุงเทพฯ ดังนั้นธุรกิจให้บริการขนส่งด่วนจึงมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ ‘ณัฐชยา สืบศักดิ์’ Co-Founder and Chief Marketing Officer of WESERVE มองเห็นช่องว่างในการทำธุรกิจ จึงได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ก่อตั้งธุรกิจให้บริการส่งสินค้าเจ้าแรกในจังหวัดภูเก็ตขึ้นเมื่อปี 2559

WESERVE เป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการในรูปแบบ Last Mile Delivery หรือ ส่งสินค้าด่วนจนถึงมือผู้รับปลายทางในพื้นที่ต่าง ๆ  ผ่านทางเว็ปไซต์ www.weserve.co.th ซึ่งปัจจุบันให้บริการที่จังหวัดภูเก็ต และตรัง ทั้งนี้จะมีการเปิดตัวในส่วนของ Application ซึ่งสามารถดาวโหลดได้ทั้งระบบ iOS และ Android ภายในเดือนมิถุนายน 2562

สำหรับบริการของ WESERVE สามารถตอบโจทย์ได้ในสินค้าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น อาหารปรุงสำเร็จ สินค้าอุปโภค พัสดุ รวมถึงบริการฝากส่งไปรษณีย์ รับฝากชำระค่าน้ำค่าไฟ นอกจากนี้ก็ยังมีในส่วนของการเป็นผู้ให้บริการตลาดออนไลน์ หรือ E – Marketplace Platform โดยให้ร้านค้าสามารถนำสินค้ามาขายในระบบได้ด้วยตนเอง

ปั้น Delivery Service แบรนด์คนไทย

ณัฐชยา เล่าว่า จากการที่เธอเป็นคนภูเก็ตโดยกำเนิด หลังจากสำเร็จการศึกษาด้านการบริหารจัดการการตลาด เธอก็ได้กลับมาทำงานที่บ้านเกิด โดยเริ่มจากการเป็นพนักงานบริษัท กระทั่งเติบโตและขยับขยายตัวเองขึ้นมาเป็นเจ้าของกิจการที่ปรึกษาการตลาด และรับจ้างจัดงาน ให้กับองค์กรธุรกิจต่าง ๆ ในภูเก็ต  โดยจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เธอมองเห็นช่องว่างและโอกาสในการเติบโตของการทำธุรกิจ Delivery Service

นั่นคือลูกค้าที่อยู่ในธุรกิจเกี่ยวกับการส่งอาหารแช่แข็งให้กับโรงแรม และสายการบินในภาคใต้ ได้มาขอคำปรึกษาและมีความต้องการที่จะปรับเปลี่ยนธุรกิจเดิมให้มีการใช้นวัตกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่นิยมใช้เทคโนโลยีมาช่วยให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้น

เช่นเดียวกับที่เธอเองก็เห็นว่า ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่รถติดค่อนข้างมาก ผู้คนที่นี่ต้องวางแผนออกจากบ้านเป็นชั่วโมง ประกอบกับมีร้านอาหารค่อนข้างมากเช่นกัน แต่กลับไม่มีที่จอดรถ ซึ่งปัญหาไม่ได้ต่างอะไรจากกรุงเทพฯเลย และช่วงนั้นธุรกิจบริการขนส่งด่วนเริ่มที่กลายเป็นที่นิยม และมีผู้เล่นจากต่างประเทศเริ่มเข้ามาให้บริการในเมืองหลวงแล้ว

ธุรกิจ Delivery Service ในต่างประเทศมีมานานแล้ว และในไทยก็มีความต้องการไม่น้อย เราเองก็อยากจะผลักดันธุรกิจนี้ในรูปแบบของคนไทย

 

ขับเคลื่อนด้วยความเข้าใจและใส่ใจ

แม้ว่าเริ่มแรกของการเปิดตัวอาจจะมีปัญหาจากการที่เป็นธุรกิจหน้าใหม่ในภูเก็ต และลูกค้าก็ยังไม่เข้าใจถึงรูปแบบของธุรกิจในแนวทางของ  WESERVE โดยมองว่านอกเหนือจากค่าอาหารที่ได้ชำระเงินแล้ว ทำไมยังต้องจ่ายค่าขนส่งให้กับพนักงานอีก จึงต้องใช้เวลากว่าครึ่งปีจึงจะเริ่มสร้างความเข้าใจได้

อย่างไรก็ตาม ด้วยการพึ่งพาความคุ้นเคยของการเป็นคนท้องถิ่น จึงทำให้เธอเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคและสามารถเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ธุรกิจที่เธอปลุกปั้นขึ้นเติบโตขึ้นกว่า 600% ภายในระยะเวลาประมาณ 2 ปี เศษ

จากจุดเริ่มต้น ที่ WESERVE มีคนขับรถส่งของเพียง 3 คน คำสั่งซื้อต่อวันมีเพียงแค่ 3 ออเดอร์ และมีร้านค้าที่เป็น พาร์ทเนอร์เพียง 50 ร้านเท่านั้น จนกระทั่งในปัจจุบันคนขับรถส่งของเพิ่มกว่า 100 คน มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ออเดอร์ต่อเดือน และมีร้านค้าที่เป็นพาร์ทเนอร์กว่า 550 ร้าน

แต่สิ่งหนึ่งที่ณัฐชยาพยายามคงไว้นับตั้งแต่เริ่มต้นสร้างกิจการ คือ การให้บริการที่รวดเร็วและน่าเชื่อถือ สร้างความประทับใจ และสร้างความผูกพันให้กับลูกค้า รวมถึงการลงรายละเอียดทุกออเดอร์ ไม่ว่าจะเป็นหลักสิบ จนถึงหลักพัน หรือ จะแตะหมื่นในอนาคต คุณภาพก็ยังไม่เคยจะลดน้อยลง โดยเธอ มองว่า การบริการที่ดีที่สุดก็ คือ ความใส่ใจ ให้ความสำคัญกับลูกค้าทุกคน และให้เวลากับลูกค้าที่ไม่เข้าใจนวัตกรรมด้วย

หากเราสามารถทำให้ธุรกิจของเราเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาได้  ลูกค้าก็จะยังอยู่กับเราและยังมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น

จากการที่ Delivery Service ถือเป็นธุรกิจที่ใหม่ และไม่ได้เป็นที่คุ้นเคยในภูเก็ตมากนัก WESERVE จึงต้องมีการทำการตลาดหลากหลายช่องทาง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยเฉพาะออฟไลน์ที่แรกเริ่มของการดำเนินธุรกิจ ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งกว่าจะสามารถผลักดันให้ลูกค้าที่อยู่ในออฟไลน์มาใช้ออนไลน์ได้ก็ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจพอสมควร

นอกจากนี้ก็ต้องมีการเรียนรู้เทคโนโลยีและเทรนด์การตลาดใหม่ ๆ ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีการร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นในการทำการตลาดร่วมกัน เช่น การแลกเปลี่ยน Data Base ซึ่งกันและกัน หรือแม้แต่ให้ลูกค้าสะสมแต้มและนำไปใช้ในบริการอื่น ๆ ที่เป็นของบริษัทพันธมิตรได้ เป็นต้น

ขยายสู่หัวเมืองต่างจังหวัด

ปัจจุบันธุรกิจให้บริการขนส่งด่วนไม่ได้มีความต้องการเพียงแค่ในภูเก็ตเท่านั้น แต่ยังมีการขยายไปจังหวัดใกล้เคียงด้วย โดยปัจจุบัน WESERVE จึงเปิดให้บริการสาขาจังหวัดตรัง ด้วยเพราะสังคมเมืองในจังหวัดตรัง ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเริ่มมีการเติบโตมากขึ้น WESERVE จึงได้ขยายบริการในรูปแบบแฟรนไชส์ โดยบทบาทของการทำการตลาดยังเป็นทีมงานจากภูเก็ตอยู่ รวมถึงยังเข้าไปดูแล และให้คำแนะนำตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจ

ทั้งนี้ภายในเดือนมิถุนายน 2562 ก็เริ่มเปิดให้บริการที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเตรียมเปิดให้บริการที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดกระบี่ ภายในสิ้นปีนี้ และในอนาคตณัฐชยาได้ตั้งเป้าหมายว่าจะขยายการให้บริการไปยังทุกหัวเมืองทั่วไทย

สำหรับเหตุผลที่การขยายธุรกิจ Delivery Service ของ WESERVE เป็นไปในรูปแบบเฟรนไชส์นั้น ณัฐชยามองว่า  แม้คนท้องถิ่นในจังหวัดนั้น ๆ จะสามารถเข้าใจคนในพื้นที่ได้ดีกว่าคนนอกก็ตาม ทว่านักธุรกิจเหล่านั้นอาจยังไม่พร้อมที่จะสร้างกิจการในรูปแบบนี้ได้เอง และยังต้องใช้งบลงทุนสูงกว่าการซื้อแฟรนไชส์ของ WESERVE ก็สามารถนำไปสู่การสร้างงานสร้างอาชีพ ตลอดจนสร้างไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ที่นิยมใช้เทคโนโลยีมาช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น

เรามุ่งมั่นจะเป็นผู้ให้บริการขนส่งด่วนแบรนด์คนไทย ที่ตอบโจทย์ด้วยนวัตกรรม ในตลาดออนไลน์ เน้นความเป็นเลิศด้านการบริการที่ดีที่สุดในตลาดท้องถิ่น