ในช่วงที่ผ่านมานี้ เราได้เห็นการปรากฏตัวของนักการเมืองหน้าใหม่หลากหลายท่าน และก็ยังได้เห็นเหล่านักการเมืองหน้าเดิมแต่ทัศนคติใหม่ทันยุค ทันเหตุการณ์เช่นกัน แต่วันนี้ทาง Techsauce จะมาพูดถึงนักการเมืองที่มีบทบาทในวงการเทคโนโลยีและได้ก้าวเข้าสู่การเมืองไทยในเวลานี้ มากันดูว่ามีใครบ้าง

คุณทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์  ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อของพรรคอนาคตใหม่

นักการเมืองหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ที่หลายๆ คนกำลังจับตามองอยู่ จากผลงานที่หลากหลายทั้งการดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของสองบริษัทคือ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด และเกรท โอเชียน ฟู้ด และตำแหน่งอดีตกรรมการบริหาร บริษัท Grab (ประเทศไทย) ในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ คุณทิม พิธา ก็เรียกได้ว่าผ่านสนามของโลกธุรกิจมาอย่างโชกโชนไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาการติดหนี้ร้อยล้านสู่การสร้างธุรกิจมูลค่าพันล้าน พร้อมทั้งยังสนใจในเรื่องของการพัฒนาชีวิตเกษตรกรไทยด้วยเทคโนโลยีอีกด้วย โดยนโยบายล่าสุดที่น่าสนใจของเขาคือหวังพัฒนาเศรษฐกิจรากฐานด้วยเทคโนโลยี

คุณกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าตามภารกิจ พรรคประชาธิปัตย์ และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

หลายท่านคงคุ้นเคยกับหน้าตาของ คุณกรณ์ จาติกวณิชเพราะเรียกว่าคุณกรณ์ แทบจะอยู่ในวงการ เทคโนโลยีและ Startup อย่างชัดเจน อาทิ การดำรงตำแหน่งประธาน บริษัท รีฟินน์ อินเตอร์เนชั่นแนล ดอทคอม จำกัด (Refinn) และประธานสมาคมฟินเทคแห่งประเทศไทย พร้อมกับการบริหารงานอันน่าสนใจมากมาย ที่มักจะสอดแทรกเนื้อหาของเทคโนโลยีและการปรับตัวขององค์กรให้เข้ากับยุค Disruption อยู่เสมอ นอกจากจะสวมบทบาทผู้นำของสมาคมฟินเทคแห่งประเทศไทยแล้ว คุณกรณ์ยังเป็นหนึ่งในนักลงทุนให้กับเหล่า Startup อีกด้วย อีกทั้งเป็นหนึ่งในทีมที่ปรึกษาของ SIX Network เครือข่าย Blockchain เพื่ออุตสาหกรรมดิจิทัลครีเอทีฟในประเทศไทย

พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย

รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ จากการศึกษาและทำงานมาตลอดทางด้านวิศกรรมโทรคมนาคม และการเทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างเช่น อดีตเลขานุการ ประธานกรรมการ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) รวมถึงการเป็นกรรมการตรวจสอบหลักสูตรด้านเทคโนโลยี และอาจารย์พิเศษให้กับหลากหลายมหาวิทยาลัย โดยการเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทยในครั้งนี้มาจากการเห็นชอบกับนโยบายทางด้านเทคโนโลยีของทางพรรค ไม่ว่าจะเป็นการปฏิวัติการศึกษาไทยให้เป็นระบบออนไลน์อย่าง “Thailand Sharing University” ซึ่งพันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ หวังจะผลักดันให้เกิดขึ้นจริงในอนาคต รวมทั้งยังมีนโยบายที่จะให้ Grab Car ถูกกฏหมายอีกด้วย

รองศาสตราจารย์ ดร. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมจากพรรคเพื่อไทย

จัดว่าเป็นอีกหนึ่งผู้สมัครทางการเมืองที่ไม่ว่าจะทำอะไรในช่วงนี้ทุกคนก็ติดตามไปสะทุกเรื่องตั้งแต่ได้รับฉายาจากชาวเน็ตว่า ‘รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก’ จนเป็น meme และที่พูดถึงไปทั่วจนปัจจุบัน จากอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สู่การดำรงตำแหน่งกรรมการในรัฐวิสาหกิจหลายแหล่ง อาทิ บริษัทขนส่ง จำกัด การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด และล่าสุดกับตำแหน่งกรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ และกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แต่เมื่อไม่นานมานี้คุณชัชชาติ ก็ได้ลาอกกจากตำแหน่งเพื่อหันมาเต็มที่กับงานทางการเมือง ถึงแม้อาจจะไม่ได้ปรากฏชัดเจนทางสายงานเทคโนโลยีโดยตรง แต่คุณ ชัชชาติ ก็เป็นหนึ่งในผู้นำที่ได้พาองค์กรฝ่าวิกฤตการปรับตัวในยุค Disruption นี้ และแน่นอนว่าคุณ ชัชชาติ ยังให้ความสนใจในเรื่องของเทคโนโลยีและยังเคยไปปรากฏตัวในงาน Bannia ซึ่งคือ Startup ผู้รวบรวมข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ในไทย

ไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนสมาชิกพรรคอนาคตใหม่

อีกหนึ่งคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศเพื่อสังคม เป็นหนึ่งในบุคคลที่หวังจะเห็น Open government เกิดขึ้นในประเทศไทยโดยมุ่งหวังว่าประชาชนจะสามารถตรวจสอบข้อมูลของทางภาครัฐได้ และยังมีผลงานอีกมากมายที่มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำโครงการด้านไอซีทีให้หลากหลายองค์กร เช่น สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ UNDP กรรมการคณะทํางานเพื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และอีกหนึ่งบทบาทสำคัญคือการดำรงตำแหน่งรองผู้อํานวยการสถาบันเชนจ์ ฟิวชั่น ภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ก่อนที่จะย้ายมาสู่ผู้อํานวยการศูนย์เทคโนโลยีเพื่อนวัตกรรมสังคม ภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ในปัจจุบัน

คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ หรือ หมอเอ้ก ผู้สมัครส.ส. จากพรรคประชาธิปัตย์

คุณหมอผู้นี้เราอาจคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้างในวงการบันเทิง  แต่ในอีกบทบาทคือการเป็น CEO ของโปรเจค Crowd funding อย่าง บริษัท รักดี เวนเจอร์/คราวด์ฟันดิ้งซึ่งโฟกัสใน Healthcare เรียกได้ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ เลือดใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่รวมคนหน้าตาดี และดีกรีไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

สรุป

เรียกได้ว่าทั้ง 6 ท่านเป็นผู้ที่อยู่ในวงการเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นวงการ Startup หรือแม้แต่โทรคมนาคมไทย ซึ่งเมื่อเข้าสู่การเมืองไทย ก็ต้องละจากงานวงการเทคฯไป แต่ก็ยังน่าจับตาว่า จากมุมมองที่มีต่อเทคโนโลยีแล้ว จะมีแผนที่จะพัฒนาประเทศต่อไปในทิศทางใดบ้างหากได้เข้าไปทำงานจริงๆ