ขณะนี้ ตลาด Search Engine เริ่มมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดมากขึ้น เมื่อมี SEO ใหม่สองรายเกิดขึ้นในวงการ ได้แก่ Neeva ที่มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม และ Brave เบราว์เซอร์ที่เปิดให้ใช้งานเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา
พฤติกรรมการค้นหาข้อมูลของเหล่าผู้ใช้งานและทางเลือกในการค้นหาต่าง ๆ ที่ตอนนี้เปิดให้ใช้งาน เป็นการตอบสนองความต้องการที่แตกต่างในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาประโยคง่าย ๆ อย่าง “ความหมายของชีวิตคืออะไร” หรือประโยคยาว ๆ ที่เป็นคำถามเฉพาะเช่น “ฉันจะซื้อกางเกงตัวนี้ สีนี้ ไซซ์ฉันได้ที่ไหน” นักการตลาดก็เริ่มจับคำเหล่านั้นเพื่อตอบสนองให้ตรงต่อความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม ผู้คนไม่ได้แค่เพียงค้นหาข้อมูลบน Search Engine ที่ตัวเองใช้งานเป็นหลัก แต่พวกเขายังเข้าถึงเนื้อหาบน YouTube, Netflix, Amazon หรือ Pinterest และแอปพลิเคชันอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมากด้วย
พฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้งานในลักษณะนี้ด้วยช่องทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้นก็กำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ตลาด Search Engine จึงได้แตกตัวออกมามี SEO ใหม่ ๆ ที่เราอาจไม่คุ้นชื่อมาก่อน และเป็นการเพิ่มคู่แข่งให้กับ SEO ใหญ่ ๆ ชื่อเดิม ๆ
จากการวิจัยระดับนานาชาติของ Pinar Ackman ศาสตราจารย์ด้านนิติศาสตร์และผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านกฎหมายดิจิทัล Jean Monnet และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยลีดส์ ในสหราชอาณาจักร พบว่า Search Engine ที่ผู้คนใช้ และพฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้งานนั้นมีลักษณะแตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยงานวิจัยชิ้นนี้ได้สำรวจผู้ใช้งาน 11,000 คนจาก 10 ประเทศ (ได้แก่ สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สิงคโปร์ อินเดีย จีน และบราซิล) ใน 5 ทวีปเกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์
จากผู้ตอบแบบสำรวจจำนวน 1,007 คนในสหรัฐฯ หรือคิดเป็น 62% ตอบว่า ใช้ Search Engine มากกว่า 1 เบราว์เซอร์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และเกือบ 75% ตอบว่าพวกเขาเปลี่ยนการตั้งค่าของเบราว์เซอร์และ Search Engine ที่เป็นค่าเริ่มต้น ทั้งยังใช้ Search Engine จำนวนเฉลี่ย 2.84 เบราว์เซอร์ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา
แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจมากที่สุดคือ 69% จากจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 10 ประเทศ ซึ่งมีมากกว่า 11,000 คน กล่าวถึงผลกระทบเชิงบวกที่มีต่อชีวิตความเป็นอยู่โดยรวมหรือคุณภาพชีวิตของพวกเขาจากการใช้งาน Search Engine
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน Google ได้สูญเสียความเป็นผู้นำด้านการเป็น Search Engine ให้กับ Amazon ซึ่งเป็น Search Engine ที่คนส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ ใช้ โดย 66% ของนักช็อปปิ้งออนไลน์ได้ค้นหาสินค้าต่าง ๆ ผ่าน Amazon
จากนั้น เมื่อ Pinterest เปิดตัว Visual Search และ Reverse Image search อันเป็น Search Engine ที่ใช้ค้นหารูปภาพ ก็ได้สร้างแพลตฟอร์มเป็นของตัวเองโดยที่ไม่ต้องเข้าผ่าน Google โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวมีการค้นหามากถึง 5 พันล้านครั้งต่อเดือน
ยิ่งไปกว่านั้น จากปี 2020 ถึงปี 2021 เพียงแค่ปีเดียว การค้นหาบนแพลตฟอร์มก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 20 เท่าเมื่อเทียบแบบปีต่อปี
นอกจากนี้ ยังมี Search Engine อื่น ๆ อีก เช่น Microsoft ที่มียอดการค้นหารายเดือนสูงกว่า 25% ในสหรัฐอเมริกา และ Verizon Media ที่มียอดการค้นหาประมาณ 11% และ DuckDuckGo (DDG) ที่ในขณะนี้ได้กลายเป็น Search Engine ที่มาแรงที่สุดเป็นอันดับสองสำหรับการค้นหาบนโทรศัพท์มือถือ โดย DDG นี้ได้เปิดตัวมาหลายปีแล้วและเป็นที่รู้จักในวงกว้างมาตั้งแต่ปี 2014 ด้วยจุดเด่นเรื่อง “ความเป็นส่วนตัว (Privacy)” ที่มากกว่า Search Engine อื่น ๆ และในปีที่แล้ว รายรับของบริษัทก็พุ่งสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์
สำหรับตอนนี้ อาจจะยังเร็วไปที่เราจะคาดหวังให้ Neeva และ Brave ก้าวขึ้นสู่การเป็น SEO ชื่อดัง แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานมักจะเลือกใช้ Search Engine ที่ตนเองใช้งานถนัดและมีความเชื่อมั่นใน Search Engine นั้น ๆ ดังนั้น สิ่งสำคัญของการเป็น Search Engine คือต้องทำให้ผู้ใช้งานไว้วางใจที่จะใช้ให้ได้
อ้างอิง : Forbes
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด