เรามักจะได้ยินคำว่า นวัตกรรม (Innovation) กับคำว่า เทคโนโลยี (Technology) มาเคียงคู่กันเสมอ แต่จริงๆ แล้วสองคำนี้เหมือนกัน หรือต่างกันอย่างไรบ้าง

บทความนี้จะพูดถึงความแตกต่างของสองคำนี้ แต่ไม่เพียงเท่านั้น ยังพูดถึงด้วยว่า หากเราต้องการจะเลือกนำ Technology หรือ Innovation ไปใช้จริง จะทำอย่างไรได้บ้าง

Technology, Invention กับ Innovation แตกต่างกันอย่างไร

Technology หรือเทคโนโลยี หมายถึงการนำเอาเทคนิคต่างๆ หรือองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ มาพัฒนาให้เกิดประโยชน์หรือฟังก์ชันในด้านในด้านหนึ่ง เช่น เทคโนโลยี Artificial Intelligence เป็นศาสตร์และเทคนิคแขนงหนึ่งที่มุ่งเน้นให้คอมพิวเตอร์ สามารถเรียนรู้ และพัฒนาระบบความคิดหรือปัญญาของตนเองได้

ในขณะที่คำว่าเทคโนโลยี มักจะใช้พูดถึงศาสตร์หรือเทคนิค มากกว่าวัตถุหรือผลลัพธ์ คำว่า Invention หรือประดิษฐกรรม คือ โปรดักส์ หรือทรัพย์สินทางปัญญาที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา โดยมีการใช้เทคโนโลยีเป็นเบื้องหลังในการพัฒนาอีกทีหนึ่ง

ทีนี้มาถึงคำว่า Innovation หรือนวัตกรรมกันบ้าง

คุณ Bill Aulet อาจารย์จาก MIT ผู้ดำรงตำแหน่ง MD ของ Martin Trust Center for MIT Entrepreneurship ได้นิยามคำว่า Innovation เอาไว้ว่า

Innovation = Invention * Commercialization

Commercialization องค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ของ Innovation

Commercialization หมายถึงการนำเข้าสู่ตลาด หรือการทำให้ Invention นั้นๆ เป็นที่ต้องการจริงในตลาด

สังเกตว่าในสมการ คุณ Bill ใช้เครื่องหมายคูณ เพราะเขาคิดว่า Innovation จะเกิดได้ต้องการจากสองสิ่ง ทั้ง Invention และ Commercialization คูณกัน

ความหมายก็คือ หากมีข้างใดข้างหนึ่งเป็น 0 (ศูนย์) สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ก็จะเป็น  0

• คุณไม่สามารถพูดได้ว่าคุณมี Innovation หากคุณไม่มี Invention
• แต่ถ้ามี Invention แล้ว แต่ไม่สามารถทำให้เกิด Commercialization ได้ นั่นก็ยังไม่ใช่ Innovation เช่นกัน

คุณ Bill Aulet ยังพูดเพิ่มเติมว่า Invention ในที่นี้ไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นสิ่งใหม่ที่โลกยังไม่เคยมีมาก่อน แต่อาจจะเป็น Invention เดิมที่มีอยู่แล้ว จากนั้นก็ได้ยกตัวอย่าง เช่น

• Steve Jobs ไม่ใช่คนแรกที่ทำเมาส์คอมพิวเตอร์  แต่เขาเป็นผู้ที่ทำให้อุปกรณ์นี้ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี
• Google มีชื่อเสียงเรื่อง Google AdWords สำหรับการลงโฆษณา Pay Per Click บน Search Engine แต่จริงๆ เคยมีบริษัทอื่น ที่ชื่อ Overture เคยทำเทคโนโลยีแบบนี้มาก่อนแล้ว

เมาส์ของ Steve และ AdWords ของ Google ไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่ทั้งคู่ได้ชื่อว่ามี Innovation ยอดเยี่ยม เป็นเพราะว่าสิ่งที่พวกเขาทำ สามารถทำให้เกิดความต้องการจริงในตลาดได้

นี่เป็นตัวอย่างว่าทำไมเราถึงต้องพยายามผลักดันให้โลกเทคโนโลยี และโลกธุรกิจได้มาเจอกัน

เพราะ Innovation ไม่ได้ถูกผูกอยู่กับ Technology เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีส่วนผสมหลายอย่าง เช่น Process, Business Model, Market Positioning เป็นต้น

ตัวอย่างเพิ่มเติม

เพราะฉะนั้นบริษัทที่ได้ชื่อว่าขึ้นชื่อด้าน Innovation หัวใจสำคัญคือมี Business Model ที่ดี จริงอยู่ว่า Technology เป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยง ไม่งั้นบริษัทอย่าง Zipcar คงไม่สามารถให้บริการเครือข่ายรถยนต์ไร้กุญแจได้ แต่ Innovation ของบริษัทไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยีไร้กุญแจนั้น

Innovation ของ Zipcar คือการที่คนที่ต้องการเช่ารถ เมื่อเจอรถของ Zipcar ตามพื้นที่ใดๆ ก็สามารถเช่าขับได้เลย โดยไม่ต้องตามหาเจ้าของเพื่อนัดรับกุญแจ

บริษัทที่ Innovative ไม่จำเป็นต้องเป็นบริษัทสาย Technology เสมอไป

บริษัทต่างๆ ที่ได้ยกตัวอย่างไปในหัวข้อข้างบน มักจะทำให้เราสรุปกันว่าบริษัทที่มีความเข้มแข็งทางนวัตกรรม ต้องเป็นบริษัทสายเทคโนโลยี

แต่มัน 'จำเป็นต้อง' จริงๆ หรือ?

เมื่อผู้เขียนได้ดูในรายชื่อของ The Most Innovative C0mpanies of 2017 โดย Fastcompany.com เราจะเห็นว่าหลายๆ รายเป็นบริษัทเทคโนโลยีจ๋าๆ ตัวอย่างที่เรารู้จักกันดีก็อย่างเช่น Amazon, Microsoft, Google, Apple, Facebook เป็นต้น ...ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่เห็นรายชื่อเหล่านี้ในลำดับต้นๆ

...ทว่าเมื่อเราลองดูในรายชื่อ ก็จะพบเห็นชื่อของหลายๆ บริษัทที่ธุรกิจหลักไม่ใช่สายเทคโนโลยี แต่ก็ติดอันดับบริษัทที่มี Innovation โดดเด่นระดับโลก เช่น ชื่อของบริษัทอย่าง Marriott ที่ให้บริการโรงแรม, The Home Depot ซึ่งเป็นค้าปลีกในเรื่องอุปกรณ์ปรับปรุงบ้าน

สองรายนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าไม่ใช่บริษัทสายเทคโนโลยี แต่ว่ามีการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับธุรกิจ หรือการทำ Commercialization นั่นเอง

Technology, Business และ Innovation ทั้งหมดควรจะได้มาเจอกัน

Techsauce ในฐานะผู้จัดงานอีเวนต์ Techsauce Global Summit เรามักจะนิยามงานของเราด้วยภาษาสากลว่าเป็นงาน Tech Conference

แต่จากที่ได้เขียนให้ทุกท่านรับทราบถึงนิยามของคำว่า Technology และ Innovation แท้จริงแล้วจึงต้องบอกว่า Techsauce Global Summit ไม่ใช่งาน Technology เพียงอย่างเดียว แต่เป็นวงกลมที่เชื่อมต่อ คนทำ Technology, คนทำ Business Developer และคนทำ Innovation จริงให้เกิดขึ้น

ดังนั้นจึงมีองค์ประกอบและกิจกรรมหลายส่วน อาทิเช่น

• การเข้าร่วมรับฟังและแชร์แนวคิดในหลากหลายประเด็นทางเทคโนโลยี และหลากหลายประเด็นทางธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ จาก Speakers ชั้นนำ

• งานแสดงผลงานของบริษัทสายเทคโนโลยี และโอกาสในการ Networking ขับเคลื่อนความร่วมมือ

• การพบปะระหว่างนักลงทุน บริษัทต่างๆ และ Tech Startups

• งานแสดงผลงาน Emerging Technologies หรือเทคโนโลยีสมัยใหม่สุดล้ำสมัย โดย ในปีนี้ Techsauce Global Summit มาพร้อมกับ Stage พิเศษที่ชื่อว่า New Era Tech Showcase มีการนำเสนอเทคโนโลยีสำคัญๆ ในยุคใหม่ เช่น Artificial Intelligence, Blockchain, Biometrics เป็นต้น พร้อมกับพาคนที่ใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นมาอย่างเชี่ยวชาญ มานำเสนอ Showcase ในการทำงาน เพื่อให้ผู้ชมงานมีความเข้าใจในเทคโนโลยีและการประยุกต์ใช้งานมากขึ้น

สำหรับผู้ที่สนใจซื้อตั๋วเข้างาน [ยิ่งซื้อเร็ว ยิ่งประหยัดกว่า] ซื้อตั๋วได้ที่เว็บไซต์: eventpop.me

และสำหรับองค์กรที่ต้องการซื้อตั๋วเพื่อการ Training พนักงาน เรามีส่วนลดเมื่อซื้อตั้งแต่ 10 ใบขึ้นไป และส่วนลดเพิ่มเติมเมื่อซื้อมากกว่า 30 ใบขึ้นไป สามารถติดต่อสอบถามได้ที่อีเมล [email protected]

บทความต่อไปซึ่งคุณสามารถติดตามได้เร็วๆ นี้