Hyundai Mobis เผยวิสัยทัศน์ “NEW MOBIS” ในงาน CES 2023 ย้ำเป้าหมาย การเป็นผู้ให้บริการ Mobility Platform ให้บริการโซลูชันด้าน Mobility แห่งยุค ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า ระบบขับขี่อัตโนมัติ และการเชื่อมต่อการใช้งานของผู้ใช้งานรูปแบบต่าง ๆ เป็นไปได้ว่า Hyundai อาจกำลังก้าวขึ้นการเป็นผู้นำตลาดด้านนี้ในภูมิภาค
เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา Cho Sung-hwan ประธานบริษัท Hyundai Mobis ขึ้นเผยวิสัยทัศน์องค์กร ในงาน CES 2023 หรือ The Consumer Electronics Show งานแสดงสินค้านวัตกรรมเทคโนโลยีระดับโลก ย้ำกลยุทธ์และเป้าหมายระยะยาวขององค์กร คือ การก้าวขึ้นมาเป็นผู้เชี่ยวชาญและให้บริการด้าน Mobility Platform นำเสนอโซลูชันแบบบูรณาการ (Integrated solutions) ระหว่าง แกนหลักของเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า ระบบขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Driving) และการเชื่อมต่อการใช้งาน (Connectivity)
“ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของเราไปสู่การขับเคลื่อนในอนาคตนั้น มีอะไรมากกว่าแค่การจัดส่งชิ้นส่วน มันเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งแพลตฟอร์มแบบบูรณาการเชื่อมต่อซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่างเป็นระบบ”
ชื่อบริษัทยังได้รับการนิยามใหม่เป็น 'MObility Beyond Integrated Solution' เน้นกลยุทธ์หลักในอนาคต ซึ่งคือ การสร้างประสบการณ์แก่ผู้ใช้งานด้วยนวัตกรรมและโซลูชันแบบบูรณาการที่สามารถปรับให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าได้
ในงาน CES ปีนี้ Hyundai ได้เปิดตัว M.VISION TO รถไฟฟ้าตามคอนเซปต์ PBV (Purpose Built Vehicle) ที่ออกแบบรูปร่างและขนาดได้ตามความต้องการของการใช้งานทุกรูปแบบ ขับเคลื่อนด้วยอัตโนมัติและพลังงานไฟฟ้า มาพร้อมฟังก์ชันที่จะตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เช่น
E-corner : บริษัทได้เปิดตัวคอนเซปต์ของ e-corner ไปเมื่อปี 2018 ในงาน CES เทคโนโลยีใหม่ของ Hyundai นี้จะรวมระบบบังคับเลี้ยว เบรก ระบบกันสะเทือน และระบบขับเคลื่อนไว้ในล้อเดียว ทำให้ล้อเคลื่อนตัวได้อิสระ
ปกติเราจะเคยชินกับภาพล้อรถที่สามารถเคลื่อนไปได้แค่ข้างหน้า และหักเลี้ยวเพียงเล็กน้อย แต่ด้วยเทคโนโลยีนี้ จะทำให้ล้อรถสามารถหมุนได้ถึง 90 องศา อีกทั้งยังขยับไปแนวข้างได้เหมือนเวลาปูเดิน รองรับการใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่การขับขี่ในถนนแคบ ๆ ในตัวเมือง หรือการขนส่งสินค้า
นอกจากยานยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ บริษัทยังได้โชว์ M VISION HI ยานยนต์แห่งอนาคตอีกรุ่น ที่รูปทรงละหม้ายคล้ายตู้คอนเทนเนอร์ หน้าต่างด้านข้างบานใหญ่ ที่สามารถเป็นจอสำหรับชมภาพยนตร์หรือหน้าเว็บช้อปปิ้งออนไลน์
นอกจากประกาศทิศทางขององค์กรในอนาคต Hyundai ยังประกาศถึงการพัฒนา ระบบควบคุมการขับขี่อัตโนมัติ ที่ปรับขนาดได้ถึงระดับ 3 (ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติภายใต้เงื่อนไข ที่ผู้ขับขี่สามารถปล่อยให้รถควบคุมตัวเอง แต่ผู้ขับขี่ต้องพร้อมที่จะบังคับพวงมาลัยเมื่อจำเป็น) โดยมีแผนพัฒนาร่วมกับ Qualcomm ผู้ครองตลาดชิปประมวลผลสำหรับระบบการขับขี่อัตโนมัติในตอนนี้ ทำให้ระบบการขับขี่อัตโนมัติของ Hyundai แข็งแกร่งขึ้น
Cheon Jae-seung หัวหน้าฝ่าย FTCI (Future Technology Convergence Institute) ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของซอฟต์แวร์และเซมิคอนดักเตอร์ ที่จะมีบทบาทในการเสริมแกร่งในการแข่งขันหลักของ Integrated solutions ของบริษัท
"ซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ที่เชื่อถือได้ เป็นกุญแจสำคัญในโซลูชั่นระบบขับเคลื่อนบริการของเราในอนาคต" Cheon Jae-seung กล่าว
Hyundai Mobis ยังออกโรงเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซลูชันและซอฟต์แวร์การขับขี่อัตโนมัติสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ทั้งในและต่างประเทศด้วย ซึ่งคาดว่าการพัฒนาจะเสร็จสิ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 เป็นต้นไป บริษัทคาดว่าจะมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก สำหรับระบบขับขี่อัตโนมัติและ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง หรือ ADAS (Advanced Driver Assistance System) และยังคงกระชับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สำหรับระบบขับขี่ในอนาคต เช่นก่อนหน้านี้ที่ได้ร่วมมือกับ Ottopia สตาร์ทอัพจากอิสราเอล เพื่อพัฒนาโซลูชันรถยนต์ไร้คนขับแบบบังคับทางไกล โดยมุ่งเป้าไปที่ตลาดรถยนต์ไร้คนขับเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ Hyundai ยังมีแผนจะเปิดตัว IONIQ 5 Robotaxi สู่ท้องถนนและตลาดเอเชียในปี 2023 สู้กับ Baidu หรือ Waymo จากฝั่งอเมริกาอีกด้วย
อ้างอิง : hyundaimobis , hyundai
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด