การเดินทางของอินเดียในฐานะเศรษฐกิจเกิดใหม่ กำลังมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม จากเป้าหมายเศรษฐกิจมูลค่า 7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ สู่วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการบรรลุ 25 ล้านล้านเหรียญในอนาคต
เส้นทางนี้ไม่ได้เพียงแต่เกี่ยวกับการเพิ่มตัวเลขทางเศรษฐกิจ แต่ยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ ตั้งแต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจนถึงการสร้างระบบเศรษฐกิจที่เน้นเทคโนโลยีและความยั่งยืน ในบทความนี้ Techsauce จะมาสรุปในหัวข้อ The India story: On the path to a $7 trillion economy จากงาน Singapore FinTech Festival 2024
เริ่มต้นด้วย K.V. Kamath นายธนาคารผู้มากประสบการณ์และประธาน Jio Financial Services ได้แบ่งปันมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับเส้นทางการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดีย โดยชี้ว่าเป้าหมาย GDP 25 ล้านล้านเหรียญ ไม่ใช่เพียงความฝัน แต่เป็นการวางแผนเชิงกลยุทธ์ โดยอาศัยปัจจัยพื้นฐาน ศักยภาพของประเทศ และการนำเทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญบนเวทีโลก
โดยเป้าหมายนี้มีจุดเริ่มต้นมากจาก ช่วงการระบาดของโควิด-19 ซึ่งนับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ อินเดียได้เรียนรู้ที่จะปรับตัวอย่างรวดเร็วด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในทุกมิติของชีวิต ทั้งในระดับบุคคลและระดับองค์กร ผลที่ตามมาคือการเติบโตของระบบชำระเงินดิจิทัล เช่น UPI (Unified Payments Interface) ที่กลายเป็นช่องทางหลักในการทำธุรกรรมในชีวิตประจำวัน นับเป็นรากฐานสำคัญสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
นอกจากนี้ โควิด-19 ยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยบริษัทต่างๆ ต้องปรับกระบวนการและนำระบบอัตโนมัติมาใช้ เพื่อรักษากำลังการผลิตแม้มีพนักงานลดลง ส่งผลให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ แม้มีแรงงานเพียง 75-80% ของระดับปกติ
การปรับตัวเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบจากวิกฤต แต่ยังทำให้ผลประกอบการดีขึ้น โดยในปี 2021 บริษัทอินเดียมีการเติบโตของกำไรถึง 25% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด เป็นสัญญาณที่ชี้ว่าขณะนี้บริษัทต่างๆ ในอินเดียมีโอกาสขยายตัวมากขึ้น ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญที่ช่วยให้เส้นทางการเติบโตของประเทศชัดเจนและสดใสมากขึ้น
แต่คำถามสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ เมื่ออินเดียมีรากฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงแล้ว อะไรจะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตจากมูลค่า 7 ล้านล้านเหรียญไปสู่ 25 ล้านล้านเหรียญ?
Kamath ระบุว่า โอกาสการเติบโตในระยะยาวของอินเดียในอีก 25 ปีข้างหน้ายังคงสดใส โดยมีงานพัฒนาสำคัญในหลากหลายมิติ เช่น การเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเมืองให้ทันสมัย และการปรับตัวสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญระดับโลก
หากอินเดียสามารถดำเนินการพัฒนาเหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสรักษาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ 7% หรือสูงกว่านั้น ซึ่งจะกลายเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตระยะยาว โดยปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลของอินเดีย มีดังนี้:
ประชากรวัยหนุ่มสาวของอินเดียถือเป็นปัจจัยสำคัญ ด้วยจำนวนประชากรที่มากและเต็มไปด้วยความสามารถ พวกเขาไม่เพียงแค่มีความฝันอันยิ่งใหญ่ แต่ยังสามารถใช้งานเทคโนโลยีได้อย่างชาญฉลาด อินเดียกำลังเข้าสู่ยุคที่เทคโนโลยีแทรกซึมในทุกแง่มุมของชีวิตประจำวัน คนรุ่นใหม่นี้จะเป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเป็นฐานรากสำหรับเศรษฐกิจในอนาคต พร้อมผลักดันให้เศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อินเดียกำลังเผชิญกับกระแสที่เรียกว่า Digital Supercycle ซึ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลด้วย 5 ปัจจัยสำคัญ:
กระแสเหล่านี้กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอินเดีย และจะเป็นตัวผลักดันการเติบโตในระยะยาว
ด้วยจำนวนสตาร์ทอัพที่มากกว่า 100,000 ราย อินเดียกำลังกลายเป็นศูนย์กลางของธุรกิจนวัตกรรม โดยเริ่มจากกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี (Digitech) และขยายสู่ฟินเทค (Fintech) ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างงานจำนวนมาก แต่ยังดึงดูดการลงทุนจากหุ้นส่วนและนักลงทุนทั่วโลก สตาร์ทอัพเหล่านี้ช่วยผลักดันนวัตกรรมใหม่และสร้างรากฐานที่มั่นคงให้เศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตอย่างยั่งยืน
อินเดียกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทุกปัจจัยเหล่านี้จะทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต ด้าน K.V. Kamath ยังคงเน้นย้ำว่า อินเดียกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ต้นทุนด้านเทคโนโลยีในอินเดียกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง และ AI ก็ถูกมองว่าเป็น Moonshot ใหม่ที่สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วกว่านวัตกรรมอื่นๆ
อินเดียได้พัฒนารูปแบบการใช้เทคโนโลยีอย่างหลากหลายและก้าวหน้ามากขึ้น จากที่เคยมองว่าเทคโนโลยีเป็นอุปสรรค ตอนนี้มันกลายเป็นโอกาสด้วยความพร้อมในต้นทุนที่ต่ำ ใช้งานง่าย และปรับเปลี่ยนได้จริง สิ่งนี้ทำให้อินเดียสามารถแข่งขันกับผู้เล่นรายเดิมที่ยังยึดติดกับแนวทางเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทิ้งท้ายเอาไว้ว่า…
“การยึดติดกับอดีตจะกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ” - K.V. Kamath
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด