จากสถานการณ์ COVID-19 หลายธุรกิจเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้อยู่รอดท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่หยุดชะงัก ทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างองค์กรข้ามประเทศที่มีเพิ่มสูงขึ้นเพื่อช่วยผลักดันให้ธุรกิจยังคงสามารถดำเนินการต่อไปได้ แต่ในขณะเดียวกันองค์กรขนาดเล็กและกลางจำนวนมากก็ยังคงติดขัดกับปัญหาในการด้านสร้างความรร่วมมือกับองค์กรต่างประเทศเนื่องจากมีข้อจำกัดด้านทรัพยากรทางบุคคลและด้านการเงิน ทำให้องค์กรต่าง ๆ ล้วนต้องการการสนับสนุนส่งเสริมจากภาครัฐ เช่น การที่รัฐบาลไทยแถลงโครงการ “Thailand 4.0”เพื่อเชิญชวนองค์กรญี่ปุ่นที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนประเทศและเพื่อให้เกิดการพัฒนาจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูง
สำหรับประเทศญี่ปุ่นเองก็มีระบบให้การสนับสนุนองค์กรที่ดำเนินการโดยภาครัฐเช่นเดียวกันคือ “J-Bridge” และ “J-Startup” ซึ่งช่วยสนับสนุนการประสานงาน และร่วมมือการทำธุรกิจกับต่างประเทศให้แก่องค์กรสัญชาติญี่ปุ่น โดย ICHI ผู้ให้ความรู้และบริการ Digital Solution จะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับทั้งสองผู้ช่วย
Japan Innovation Bridge (รู้จักทั่วไปในชื่อ J-Bridge) คือ แพลตฟอร์มธุรกิจสำหรับการประสานงานและสร้างความร่วมมือในการทำธุรกิจระหว่างองค์กรญี่ปุ่นและองค์กรสร้างใหม่ในต่างประเทศซึ่งยึดเอเชียเป็นหลัก ก่อตั้งขึ้นโดยหน่วยงานบริหารอิสระ องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) และกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมในปี 2564 มีเป้าหมายเพื่อจะสนับสนุนนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลขององค์กรญี่ปุ่นในด้านต่าง ๆ อาทิ Carbon neutral, Mobility, สาธารณะสุข, เกษตรกรรมและการประมง, การค้าปลีก และ Smart city
นอกจากนี้แพลตฟอร์ม J-Bridge ยังให้บริการในการรวบรวมข้อมูลในแต่ละประเทศ และสมาชิกที่สมัครสามารถเข้าร่วมสัมนาทางเว็บไซต์ สร้างข้อตกลงซื้อขาย รวมถึงเชื่อมต่อกับองค์กรต่างประเทศเพื่อความร่วมมือทางธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มได้อีกด้วย
J-Bridge เร่งผลักดัน Digital Transformation ในเอเชีย ผ่าน 3 ปัจจัยหลัก ดังนี้
1.ผลกระทบและความรุนแรงของปัญหาที่องค์กรและสังคมกำลังเผชิญ
2.ความต้องการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
3.สภาพแวดล้อมตลาดที่เป็นมิตรต่อการลงทุน อย่าง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดียถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ
ที่ผ่านมากระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมได้ส่งเสริมโปรแกรมที่เรียกว่า“J-Startup” โดยร่วมมือกับ JETRO และ NEDO ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนการพัฒนาองค์กรสร้างใหม่โดยมีวัตถุประสงค์คือการเข้ามามีบทบาทสร้างองค์กให้มีความสามารถในการแข่งขันทางตลาดในระดับโลก รวมถึงผลักดันเทคโนโลยีและนวัตกรรมในโลกธุรกิจ โครงการจะมีการคัดเลือกองค์กรที่เข้าร่วมอย่างเข้มข้นโดยผู้เชี่ยวชาญระดับชั้นนำ และผู้ที่เข้ารอบสุดท้ายจนได้รับเลือกจะได้รับ J-Startup สำหรับผู้ที่ได้รับการันตีจะมีโอกาสเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ ได้รับความสนับสนุนพร้อมรับการปรึกษาและข้อมูลจาก JETRO และยังสามารถใช้ “JETRO Global Acceleration Hub” และ “Startup Tour” ได้
นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม ADX (Asia DX Program) ที่ดำเนินการโดย JETRO และคณะกรรมการความร่วมมือทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น-อาเซียน (AMEICC) ซึ่งเป็นโครงการนำร่องในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล มุ่งเน้นให้องค์กรในเครือเป็นตัวกลางระหว่างบริษัทในอาเซียนและบริษัทญี่ปุ่นเพื่อผลักดันธุรกิจไปสู่อีกขั้น
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ จากญี่ปุ่น ก็ไม่ควรพลาดที่จะทำความรู้จักแพลตฟอร์ม J-Bridge และโครงการ J-Startup ให้มากยิ่งขึ้น ทาง ICHI จะมีการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องธุรกิจและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของบริษัทญี่ปุ่นอยู่เรื่อย ๆ เช่น การแนะนำบริการขององค์กร J-startup และกรณีศึกษาตัวอย่างของ DX ในประเทศญี่ปุ่น หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ https://www.jrit-ichi.com/cutting/2022/02/09/784/
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด