ท่ามกลางสงครามชิปที่ทวีความรุนแรง เมื่อสหรัฐอเมริกาใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อสกัดกั้นการเติบโตทางเทคโนโลยีของจีน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ หลายคนคงสงสัยว่า จีนทำได้อย่างไร ถึงยังสามารถพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้อย่างก้าวกระโดด? ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจากโชคช่วย แต่เป็นผลจากกลยุทธ์ที่เฉียบคม ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า และการปรับตัวที่รวดเร็วต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป แล้วกลยุทธ์เหล่านั้นคืออะไร?
หนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นคือ DeepSeek สตาร์ทอัพ AI สัญชาติจีนที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้ตาม แต่กำลังก้าวขึ้นมาท้าทายผู้นำในวงการ ด้วยโมเดล AI ประสิทธิภาพสูงและแนวคิด Open Source ที่ช่วยให้เทคโนโลยี AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น บทความนี้จะพาทุกคนไปเจาะลึกการพัฒนา AI สัญชาติจีน ไขรหัสลับสู่ความสำเร็จของ AI จีนในยุคสงครามเทคโนโลยี
การประกาศสงครามชิปโดยสหรัฐฯ เปรียบเสมือนการจุดชนวนความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของจีน มาตรการคว่ำบาตรและการควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ มีเป้าหมายเพื่อตัดขาดจีนจากฮาร์ดแวร์และความเชี่ยวชาญที่จำเป็นต่อการพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง
ซึ่งรวมถึงการขยายรายการควบคุมการพาณิชย์ (CCL) การออกกฎ Foreign Direct Product Rules (FDPRs) ใหม่ และการคว่ำบาตรหน่วยงานของจีน มาตรการเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อความสามารถของจีนในการเข้าถึงชิปประมวลผลขั้นสูง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา AI
แต่ท่ามกลางข้อจำกัดเหล่านี้ DeepSeek กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นและความสามารถของจีนในการเอาชนะอุปสรรคทางเทคโนโลยี ความสำเร็จของ DeepSeek สามารถอธิบายได้จากปัจจัยสำคัญหลายประการ:
หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ DeepSeek พัฒนา AI ได้อย่างรวดเร็วคือแนวคิด Open Source ซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกัน ก่อให้เกิดระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีที่พึ่งพาตนเองของจีน นำไปสู่การพิจารณาถึงบทบาทของ RISC-V สถาปัตยกรรม CPU แบบเปิดที่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการพลิกโฉม AI จีน
RISC-V คืออะไร? ลองจินตนาการว่า CPU เป็นเหมือนสมองกลของคอมพิวเตอร์ RISC-V ก็คือ "ภาษา" ที่เราใช้สั่งงานสมองกลนี้ ภาษาดังกล่าวเรียกว่าสถาปัตยกรรมชุดคำสั่ง (Instruction Set Architecture หรือ ISA) ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างซอฟต์แวร์ที่เราเขียนขึ้น กับฮาร์ดแวร์ที่ใช้ประมวลผล หากไม่มี ISA แล้ว ซอฟต์แวร์ก็ไม่สามารถสั่งการ CPU ให้ทำงานได้ตามที่เราต้องการ
ความนิยมของ RISC-V มาจาก:
แม้จะมีบริษัทจีนกว่า 300 แห่ง ซึ่งรวมถึงผู้เล่นรายใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Alibaba กำลังใช้ RISC-V แต่เส้นทางสู่การพึ่งพาตนเองอย่างเต็มที่ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดด้วย:
อย่างไรก็ตาม RISC-V International ดำเนินงานอยูที่สวิสเซอร์แลนด์ สหรัฐฯ จึงไม่สามารถควบคุมได้เต็มที่ และหากสหรัฐฯ จำกัดบริษัทของตนจากการมีส่วนร่วมใน RISC-V อาจทำให้บริษัทเหล่านั้นเสียที่นั่งในการกำหนดทิศทางของ RISC-V ในอนาคต
DeepSeek ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวความสำเร็จของสตาร์ทอัพ AI สัญชาติจีนเท่านั้น หากแต่เป็นสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นในการเอาชนะอุปสรรคและกำหนดชะตาชีวิตด้วยตนเอง ท่ามกลางสงครามเทคโนโลยีที่กำลังทวีความรุนแรง การสนับสนุนเทคโนโลยี Open Source อย่าง RISC-V การลงทุนอย่างมหาศาล และการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง กำลังทำให้จีนกลายเป็นผู้เล่นที่ไม่อาจมองข้ามในเวที AI โลก
อ้างอิง: z2data, aljazeera, bbc, time, scmp, technologyreview, english.elpais
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด