นับตั้งแต่เกิดการ Digital Disruption ที่กระทบกับธุรกิจหลายภาคส่วนทั้งทางตรงและทางอ้อม ด้วยการเข้ามาแทนที่ของเทคโนโลยี ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ธนาคารพาณิชย์แห่งเดียวของรัฐ ก็ได้มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินที่จะตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน คุณผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จึงได้เปิดเผยภาพรวมของการขับเคลื่อนธุรกิจพร้อม 7 กลยุทธ์ ที่ “มุ่งสร้างคุณค่า สู่ความยั่งยืน” ภายในงาน “CEO Vision : Business Strategy 2024” ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน

Krungthai มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจทุกภาคส่วน

Phase 1 (2014-2019) : DERISKING BY DRIVING RETAIL, ASSET ORIGINATION และ STREAMLINING OPERATIONS

ในเฟสแรกของการขับเคลื่อนธุรกิจ กรุงไทย เน้นปรับโครงสร้างองค์กรบนธรรมาภิบาล ให้ธุรกิจ SME และรายย่อยสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น ตลอดจนยกระดับการปล่อยสินเชื่อให้มีคุณภาพ และมีการปรับเปลี่ยนเรียนรู้ในการบริหารความเสี่ยงและการติดตามสินเชื่อให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งกรุงไทยยังมีการปรับกระบวนการในองค์กรอีกหลากหลายมิติ โดยเน้นที่ พนักงาน เป็นหลัก ปรับเปลี่ยนโครงสร้างให้สอดคล้องกับบริการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยมีพันธกิจให้พนักงานเร่งพัฒนาศักยภาพ ๊Upskill Reskill และออกจากเซฟโซนเดิมๆ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพนักงานในองค์กร

Phase 2 (2019-2022) : DIGITAL TRANSFORMATION “OPEN FINANCE”

เฟสที่สองธนากรุงไทยดำเนินการ Internet Banking เพื่อลดช่องว่างระหว่างคู่เทียบ สู่ Digital Banking ด้วยแอปพลิเคชัน Krungthai Next ที่มีฐานผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านคน พร้อมต่อยอด Open Finance ขยายฐานสู่คนรุ่นใหม่จนเกิดมาเป็นแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ซึ่งเป็นระบบเปิดที่ไม่ได้จำกัดแค่ลูกค้ากรุงไทย ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลากหลาย ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกกลุ่ม  ทุกความต้องการทั้ง Government, Payment, Healthcare, University และ Mass Transit

Phase 3 (2022-ปัจจุบัน) : GROWING NEW BUSINESSES

“Banking จะกลายเป็นพฤติกรรมที่อยู่ในปัจจัยสี่ของมนุษย์”

โดยกรุงไทยได้ต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยีและสร้างความสามารถทางดิจิทัลน้นหน่วยงานขับเคลื่อนนวัตกรรมภายในองค์กรที่เรียกว่า Homemade Innovation ที่ครอบคลุม 4 แกนหลัก ได้แก่ Data Innovation, IT Innovation, Business Innovation และ Internal digitization จนกลายมาเป็น ‘Infinitas by Krungthai’ และยังมุ่งเน้นการขับเคลื่อนที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นร่วมกับพาร์ตเนอร์องค์กรระดับโลกอย่าง Accenture และ IBM สู่ Global Innovation และ Global Technology ด้วยการเปิด ‘Arise by Infinitas’ โดยมีพันธกิจหลักเพื่อพัฒนาบุคลากรเป็น Digital Talents รองรับแผนขยายธุรกิจของ Infinitas by Krungthai อีกด้วย

นอกจากนี้ ในเฟสนี้กรุงไทยยังสร้าง New Business ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงเปิด ‘Krungthai Venture’ เปรียบเสมือน Fast Track ที่ดึงพันธมิตรเข้าสู่  Ecosystem ของธนาคารเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายให้เร็วยิ่งขึ้นและสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7 กลยุทธ์ตามโรดแมป สร้างคุณค่า สู่ความยั่งยืน

กรุงไทยยังคงดำเนินธุรกิจตามแผนงาน 5 ปี (2566-2570) เพื่อเร่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง ภายใต้แนวคิด “มุ่งสร้างคุณค่า สู่ความยั่งยืน” ให้องค์กรเติบโตอย่างมั่นคง ตอบโจทย์ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างครอบคลุม ทั่วถึง แบบไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

1. Unlock Disproportionate Value from X2G2X 

เชื่อมโยงกลุ่มลูกค้า B2B B2C G2B และ G2C ด้วยการสร้าง Economic Value จากแอปพลิเคชัน เป๋าตัง และถุงเงิน พร้อมเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SME และความร่วมมือที่ได้ลงทุนไปแล้วทั้งระบบ Smart Transit ตั๋วร่วม Smart Hospital และ Digital Business Platform เป็นต้น

2. Leverage Digital and Data to Drive Efficiency 

นำข้อมูลและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการทำงาน เช่น AI และ Robotic Process Automation ทำให้การทำงานในองค์กรมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น ให้บริการออนไลน์สู่ออฟไลน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ

3. Launch New Growth Platforms 

เปิดตัวและพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร อาทิ Virtual Banking  ที่ร่วมกับพันธมิตร อย่าง กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ADVANC) เพื่อเดินหน้ายื่นขอไลเซนส์ Virtual Bank โดยประเมินว่า ที่จะช่วยแก้ปัญหาการเข้าไม่ถึงสินเชื่อของคนชายขอบที่อยู่นอกระบบ โดยข้อมูลจากพันธมิตรซึ่งได้รับอนุญาตให้ใช้จะเข้ามาเป็นตัวช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์สินเชื่อประชาชนที่เขาเข้าไม่ถึงผลิตภัณฑ์การเงินแบบถูกกฎหมาย จากหนี้นอกระบบเข้ามาในระบบได้ เป็นต้น

4. Support Sustainable and Inclusive Growth 

ขับเคลื่อนธุรกิจตามแนวทาง ESG โดยสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางเงินได้อย่างเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ ลดช่องว่างการกระจายรายได้ให้กับกลุ่ม SME และ Digital Economy ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าต่อได้อย่างยั่งยืน

5. Build Future Ready Capabilities 

เร่งสร้างการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ทั้งด้านความพร้อมของระบบรองรับ PDPA & Cyber Risk เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม บริหารจัดการ NPL และ NPA เพื่อแก้ปัญหาปรับเป็นสินทรัพย์ที่สร้างคุณค่าในเวลารวดเร็วขึ้น พร้อมบูรณาการบริษัทในเครือ สร้างประโยชน์จากสินทรัพย์ให้เต็มศักยภาพ บนความร่วมมือแบบ ONE Krungthai

6. Upgrade Core Technology Infrastructure 

ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีหลักขององค์กร ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT และ Digitalization อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับโครงสร้างเทคโนโลยีให้มีความทันสมัย มั่นคง ปลอดภัย มีเสถียรภาพ มีประสิทธิภาพและสามารถรองรับจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อสนับสนุนการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าด้วยต้นทุนที่เหมาะสม

7. Drive Organization Agility 

ขับเคลื่อนองค์กรด้วยการ Agility  โดยอาศัยหลักการแบบ Fail Fast Learn Faster เพื่อยกระดับพนักงานให้มีทักษะใหม่ๆ Upskill Reskill  และสามารถดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถในระดับประเทศและระดับโลกเข้ามาทำงานเสริมสร้างความแข็งแกร่ง เป็นองค์กรแห่งการสร้างผู้นำในอนาคต

“เพราะธนาคารกรุงไทย พยายามปรับตัวเพื่อให้ธนาคารมีประสิทธิภาพดีขึ้น อยู่บนรากฐานการมีธรรมาภิบาล และนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้ โดยลบภาพธนาคารของคนรุ่นเก่า สู่ธนาคารที่สามารถแข่งขันได้” คุณผยงกล่าวทิ้งท้าย