ถอดรหัส L'Oréal Groupe กับ 116 ปีแห่งนวัตกรรม เมื่อวิทยาศาสตร์และ AI คือผู้อยู่เบื้องหลัง ‘ความงาม’

L'Oréal Groupeเมื่อพูดถึง L'Oréal Groupe หลายคนอาจนึกถึงแบรนด์เครื่องสำอางระดับโลก แต่เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทความงามอันดับหนึ่งที่มีแบรนด์ในเครือเกือบ 40 แบรนด์ และในประเทศไทยมีแบรนด์ในเครือ 16 แบรนด์ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายที่ยึดมั่นมานานกว่า 100 ปีนั่นคือ “Beauty Born from Science, Driven by Tech”

ซึ่งในงาน INNOFEST 2025 ลอรีอัลได้แสดงจุดยืนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีความงาม โดยนำเสนอนวัตกรรมที่มีมาตลอด 116 ปี และโซลูชันอนาคตที่จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น เพื่อสานต่อเป้าหมาย 'สร้างความงามที่ขับเคลื่อนโลก

Timeline แห่งนวัตกรรม รากฐานวิทยาศาสตร์กว่า 100 ปี 

ลอรีอัลไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ แต่เริ่มจากรากฐานทางเคมีและวิทยาศาสตร์ที่แข็งแกร่ง

  • 1908: จุดเริ่มต้นจากสิทธิบัตรแรก โดย Eugène Schueller นักเคมีผู้ก่อตั้ง กับผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมที่ปลอดภัยและให้สีสันสดใส
  • 1935: เปิดตัว Amber Solaire น้ำมันกันแดดป้องกันยูวี ก้าวแรกของนวัตกรรมปกป้องผิว
  • 1979: สร้างโมเดล EpiSkin (แบบจำลองเนื้อเยื่อผิวหนัง) เพื่อทดสอบความปลอดภัยแทนสัตว์ทดลอง ซึ่งนำไปสู่การยุติการทดลองกับสัตว์อย่างถาวรในปี 1989 (ก่อนกฎหมาย EU บังคับใช้ถึง 14 ปี)
  • 1982: ค้นพบ Mexoryl SX สารกันแดดที่มีความเสถียรสูงในการกรองรังสียูวีเอ
  • 1996: ค้นพบ Aminexil สารช่วยลดผมร่วงด้วยการเสริมคอลลาเจนที่รากผม
  • 2006: บุกเบิก Green Science ด้วย Pro-Xylane โมเลกุลชะลอวัยจากธรรมชาติ สกัดจากต้นบีช
  • 2022: ปฏิวัติวงการกันแดดด้วย UVMune 400 (Mexoryl 400) ปกป้องผิวจากรังสี Ultra-Long UVA 380-400 นาโนเมตร ที่มองไม่เห็นได้เป็นครั้งแรก การันตีด้วย 65 งานวิจัยและ 25 สิทธิบัตร
  • 2024: ล่าสุดกับ Melasyl™ โมเลกุลจัดการปัญหาเม็ดสีผิวที่วิจัยนานถึง 18 ปี ช่วยลดจุดด่างดำโดยไม่รบกวนกลไกธรรมชาติของผิว 

L'Oréal Longevity Integrative Science™ ถอดรหัสความอ่อนเยาว์ตั้งแต่ระดับเซลล์

 L'Oréal Groupeไฮไลต์คือการมุ่งสู่ Longevity เปลี่ยนการดูแลผิวจากการ 'ตามแก้ปัญหา' มาเป็น 'ป้องกันก่อนเกิด' ช่วยให้รู้ทันและจัดการปัญหาได้ตั้งแต่ต้นตอ โดยใช้เทคโนโลยีล้ำๆ (อย่าง AI และชีวโมเลกุล) ผสานกับความรู้เรื่องผิว เพื่อการดูแลที่เจาะลึกและแม่นยำที่สุด

และจากการวิจัยกว่า 15 ปี ลอรีอัลค้นพบ 12 ปัจจัยหลัก ที่กำหนดความโรยราของผิวและนำข้อมูลนี้มาสร้าง Longevity AI Cloud™ เทคโนโลยีที่เป็นเหมือน 'แผนที่สุขภาพผิว' ช่วยให้เห็นภาพรวมปัญหาผิวได้ชัดเจน ซึ่งสามารถ:

  • วิเคราะห์สัญญาณสุขภาพผิวได้ละเอียดกว่า 260 จุด
  • มองเห็นลึกถึง 3 ระดับ ตั้งแต่แกนกลางเซลล์, ตัวเซลล์, ไปจนถึงช่องว่างระหว่างเซลล์
  • คำนวณผลล่วงหน้าได้ ว่าส่วนผสมจะจัดการกับ 9 ต้นตอความโรยราได้ยังไง เพื่อให้ได้วิธีดูแลผิวที่แม่นยำและตรงจุดที่สุด

เจาะลึกนวัตกรรม Beauty Tech ในงาน INNOFEST 

 L'Oréal Groupe

1. นวัตกรรมดูแลผิวและเส้นผมด้วยตนเองที่บ้าน 

  • LANCÔME - RÉNERGIE NANO-RESURFACER 400 BOOSTER: นวัตกรรมบูสต์ผิวระบบ Micro-needling สำหรับทำเองที่บ้าน มาพร้อมหัวนาโน 484 หัว ช่วยเปิดทางให้สกินแคร์ซึมลึกกว่าเดิม ริ้วรอยแลดูลดลงใน 1 เดือน จนผู้ใช้กว่า 79% รู้สึกว่าไม่ต้องไปพึ่งคลินิก ซึ่งจำหน่ายแล้วในยุโรป/อเมริกา 
  • L’ORÉAL PARIS - COLORSONIC: อุปกรณ์เปลี่ยนสีผมอัจฉริยะเจ้าของรางวัล Best Inventions จาก TIME แก้จบทุกปัญหายุ่งยากด้วยหัวแปรงสั่น 300 ครั้ง/นาที ช่วยเกลี่ยสีให้เนียนไว ไม่เลอะเทอะ มาพร้อมระบบตลับแยกสีเพื่อความสดใหม่และดีไซน์รักษ์โลก (จำหน่ายแล้วในสหรัฐอเมริกา)

2. ความงามเฉพาะบุคคลและบริการ (Personalised Beauty & Services)

  • L’ORÉAL PARIS - BEAUTY GENIUS: ผู้ช่วยความงามส่วนตัว 24 ชม. ที่ล้ำที่สุดด้วย Agentic AI (AI ที่คิดและแนะนำเราได้เองแบบเชิงรุก ผสานฐานข้อมูลผิวกว่า 150,000 รายการ เพื่อช่วยสแกนวิเคราะห์ จัดรูทีน และลองสินค้าผ่าน AR ได้แม่นยำเหมือนมีกูรูอยู่ข้างกาย เตรียมเปิดให้แชทผ่าน WhatsApp ปี 2569
  • LA ROCHE-POSAY - SPOTSCAN+ COACH: แอปพลิเคชันดูแลสิวโดยแพทย์ผิวหนังและ AI จาก ModiFace ที่จับมือกับแอป Calm เพื่อดูแลลึกถึงต้นตอความเครียดผ่านฟีเจอร์ฝึกสมาธิและการนอนหลับ เพื่อจัดการต้นตอของสิวจากภายในสู่ภายนอก

3. นวัตกรรมตรวจวิเคราะห์ผิวและเส้นผมระดับมืออาชีพ (Professional Diagnosis)

  • KÉRASTASE - K-SCAN: กล้องอัจฉริยะสแกนผมและหนังศีรษะด้วยแสง 3 แบบ วิเคราะห์ความหนาและรังแคได้แม่นยำ พร้อมโชว์ผล Before-After แบบ Real-time เพื่อช่วยช่างผมเลือกทรีตเมนต์ที่ตรงจุด
  • KIEHL’S - DERMA-READER: เครื่องวิเคราะห์ผิวหน้าขั้นสูง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เจาะลึก 8 ปัญหาผิว ทั้งแบบ Superficial และ Subcutaneous เช่น รอยแดง, จุดด่างดำที่กำลังเกิด เพื่อจัดสกินแคร์รูทีนที่แม่นยำ ซึ่งมีบริการแล้วที่ร้าน Kiehl’s ในไทย 

4. ความยั่งยืน 

  • L’ORÉAL PROFESSIONNEL - AIRLIGHT PRO: ไดร์เป่าผมแห่งอนาคตที่พัฒนาร่วมกับ Zuvi ใช้เทคโนโลยี แสงอินฟราเรด ช่วยให้ผมแห้งไวขึ้น 21% พร้อมล็อกความชุ่มชื้นได้มากกว่าเดิมถึง 55% และประหยัดพลังงานลง 19% มาพร้อมหัวต่อ 2 แบบและโหมด Pro ที่ปรับแต่งได้ดั่งใจ จำหน่ายแล้วในยุโรปและอเมริกา

บทสรุป: INNOFEST 2025 ไม่ใช่เพียงงานแสดงเทคโนโลยี แต่คือบทพิสูจน์ว่า ลอรีอัล กรุ๊ป ไม่เคยหยุดนิ่งตลอด 116 ปี ในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นรากฐาน เพื่อสร้าง "ความงามที่ขับเคลื่อนโลก" ให้ก้าวหน้า มั่นคง และยั่งยืน

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะลึก Beyond DeepSeek เมื่อมังกรจีนไม่ได้มีแค่หัวเดียว เปิด map กองทัพ Open-Weight AI ที่กำลังเขย่าบัลลังก์เทคฯ โลก

เจาะลึกรายงาน Stanford: เบื้องหลัง AI จีนที่ไม่ได้มีแค่ DeepSeek แต่คือระบบนิเวศ Open-Weight ที่น่ากลัว เผยกลยุทธ์ทำเงินจาก "ของฟรี" และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่องค์กรต้องรู้ก่อ...

Responsive image

Gartner ชี้สัญญาณอันตราย 5 จุดบอดของ GenAI ที่ผู้บริหารไอทีต้องเร่งจัดการก่อนจะสาย

Gartner เตือน CIO ถึง 5 จุดบอดสำคัญในการใช้ GenAI ทั้ง Shadow AI, หนี้ทางเทคนิค และทักษะคนที่ถดถอย พร้อมทำนายปี 2030 คือจุดชี้ชะตาธุรกิจ...

Responsive image

สรุป Insight จาก ‘Turn ThAI to Tech Tide’ ชี้ไทยผลิต AI Talent ได้ไม่ถึง 500 คนต่อปี ถอดรหัส 4 กลยุทธ์จาก ดร.เอ้ และ ดร.อ้อ กู้วิกฤต Talent พลิกอนาคต AI ไทย

เจาะลึกกลยุทธ์กู้วิกฤตระบบเทคไทยจากการศึกษาจนถึงนโยบายรัฐ จากเวที AI Innovation Summit 2025 แก้ปัญหาไทยโตช้าในสนาม Data Economy ระดับโลก...