เจาะลึกประเด็นซีรีส์ Queen of Tears การต่อสู้แย่งชิงอำนาจบริหาร Queens Group ระหว่างเจ้าของที่แท้จริงอย่าง ‘ตระกูลฮง’ กับ ‘โมซึลฮี’ และ ‘ยุนอึนซอง’ สองแม่ลูกที่วางแผนล้มอำนาจเดิม กำลังทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ในความเป็นจริงแล้ว ตระกูลฮงจะกลับมายึดคืนอำนาจบริหาร Queens Group อีกครั้งได้อย่างไร? Techsauce จะพาทุกคนหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน
ในตอนที่ 8 ตระกูลฮงสูญเสียสิทธิ์บริหาร Queens Group ด้วยกลยุทธ์ของ ‘โมซึลฮี’ ภรรยาคนปัจจุบันของประธานฮง ผู้ก่อตั้งบริษัท เนื่องจากประธานฮงได้มอบอำนาจฐานะผู้ปกครองโดยธรรมในกรณีที่อยู่ในอาการโคม่า ทำให้มีอำนาจในการตัดสินใจแทนประธานฮงโดยชอบตามกฎหมาย
ที่ผ่านมาโมซึลฮีและลูกชาย ‘ยุนอึนซอง’ แอบทยอยซื้อหุ้นและแปลงสภาพหุ้นกู้ จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นอันดับสองของบริษัท และใช้เสียงส่วนใหญ่โหวตปลดประธานฮงและครอบครัวออกจากตำแหน่งบริหาร ด้วยอัตราส่วนกว่า 68.1% และแต่งตั้งตัวเองขึ้นเป็นประธานแทน
แล้วในชีวิตจริง การรวมหัวปลดประธานมันเป็นไปได้หรอ ? ต้องบอกว่าเป็นไปได้จริง ในวาระการประชุมผู้ถือหุ้น มติจะชี้ขาดจากเสียงข้างมากของผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุมและออกเสียงลงคะแนนในวาระปกติ และเสียง ¾ ของผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุมและมีสิทธิ์ลงคะแนนในวาระพิเศษ ดังนั้นมติในที่ประชุมสามารถชี้ขาดวาระต่างๆ ได้ รวมถึงวาระการปลดประธานบริหารของบริษัทด้วยเช่นกัน
หลายคนอาจจะมองว่าการเสียสิทธิ์การบริหารในบริษัทของตัวเองฟังดูแล้วน่าเหลือเชื่อ แต่ความเป็นจริงแล้วมีเหตุการณ์ที่คล้ายๆ กันเกิดขึ้นจริง
ตัวอย่างเช่น ตระกูล Gucci แบรนด์แฟชั่นหรูสัญชาติอิตาลี ที่ก่อตั้งในปี 1921 โดยดีไซเนอร์ชาวอิตาลี Guccio Gucci ที่ถูกบังคับขายหุ้นกว่า 50% หลังการบริหารที่ล้มเหลวของเหล่าทายาท ปัจจุบัน Gucci ได้อยู่ภายใต้เครือ Kering และตระกูล Gucci ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับแบรนด์หรูนี้อีกแล้ว
ถึงแม้ว่าตระกูลฮงจะเสียสิทธิ์การบริหาร Queens Group ไปแล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสกลับเข้ามาบริหารบริษัทได้ดังเดิมด้วยสองวิธีที่เป็นไปได้ ได้แก่
บอร์ดบริหารมีอำนาจในการแต่งตั้งผู้บริหารได้หากมีการโหวตเห็นชอบ ซึ่งตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงได้แก่ Steve Jobs ที่กลับเข้ามาบริหาร Apple อีกครั้งหลังจากการเข้าซื้อบริษัท NeXT และถูกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง CEO โดยคณะกรรมการบริหาร รวมถึง Sam Altman ที่ถูกปลดจากบริษัทตัวเองและถูกเชิญกลับมาเป็น CEO อีกครั้งภายในไม่ถึงสัปดาห์
โดยในตอนที่ 10 ของซีรีส์ได้มีกล่าวถึงแนวทางนี้ด้วยเช่นกัน โดย ‘ยุนอึนซอง’ วางแผนจะแต่งตั้ง ‘ฮงแฮอิน’ จากตระกูลฮงกลับเข้ารับตำแหน่งประธานของห้างควีนส์ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Queens Group ดังเดิม
ผู้ถือหุ้นสามารถตั้งวาระการประชุมผู้ถือหุ้นได้หากมีสิทธิ์ในการออกเสียงอย่างน้อย 5% ของทั้งหมด ซึ่งหากสามารถรวมหุ้นได้มากเกินกึ่งหนึ่งของทั้งหมดได้ ในฐานะเสียงข้างมากก็จะสามารถที่จะโหวตชนะในวาระต่างๆ รวมถึงแต่งตั้งบอร์ดบริหารในฝ่ายของตัวเอง และสามารถแต่งตั้งประธานได้อย่างปลอดภัย
หลังการเสียชีวิตของประธานและสิทธิ์การปกครองโดยธรรมหมดไปในตอนที่ 13 ทำให้ตระกูลฮงมีหุ้นของ Queens Group อยู่ 34.7 และยุนอึนซองถือหุ้นอยู่ 38.1 ดังนั้นทางที่ตระกูลฮงจะดึงสิทธิ์บริหารกลับมาได้ จะต้องรวบรวมหุ้นให้มีเสียงให้เกินกึ่งหนึ่ง
และด้วยเปอร์เซนต์หุ้นที่ไม่ห่างกันมาก ‘ยุนอึนซอง’ จึงเลือกใช้เงินจากกองทุนลับเพื่อซื้อหุ้นของ Queens Group ซึ่งเป็นกองทุนที่ได้มาโดยมิชอบ ทำให้เขามีโอกาสโดนข้อหายักยอกเงิน ประพฤติมิชอบและละเมิดกฎหมายธุรกรรมเงินต่างประเทศ
นี่น่าจะเป็นหนทางที่ทำให้ Queens Group รวบรวมเสียงของผู้ถือหุ้นได้เกินกึ่งหนึ่งและสามารถปลดยุนอึนซองออกจากตำแหน่งประธาน และเรียกประชุมบอร์ดบริหารเพื่อแต่งตั้งตระกูลฮงให้กลับเข้าสู่ตำแหน่งบริหารได้อีกครั้ง
Queen of Tears นำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเบื้องหลังการบริหารธุรกิจครอบครัว ที่ขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์ การชิงไหวชิงพริบ และกลโกงต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของอำนาจที่ได้มาแล้วก็สูญเสียไปได้ง่ายๆ หรือแม้แต่โอกาสในการกลับมายึดอำนาจ ยิ่งตอกย้ำถึงความสำคัญของการมีหุ้นส่วนทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบได้จริง ไม่ใช่เชื่อเพราะเป็นคนรู้จักหรือมีคอนเน็กชันส่วนตัว รวมถึงต้องรู้ทันเกมธุรกิจ และทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา
แล้วคุณคิดว่าตระกูลฮงจะเรียกคืนสิทธิ์บริหารได้ด้วยวิธีไหน?
อ้างอิง: businessinsider, gotoknow, sec, time, setlink
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด