ไมโครกริด ช่วยให้ธุรกิจเพิ่มความยืดหยุ่นด้านการจัดการพลังงาน | Techsauce

ไมโครกริด ช่วยให้ธุรกิจเพิ่มความยืดหยุ่นด้านการจัดการพลังงาน

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ โรงพยาบาล ท่าเรือ และระบบสาธารณูปโภคสำคัญต่างๆ ทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา ต่างเสริมความแข็งแกร่งด้วยไมโครกริด เพื่อช่วยเรื่องการไหลเวียนของพลังงานไฟฟ้าแม้กระทั่งในช่วงเวลาที่กริดล่มก็ตาม ร้านขายของชำ ร้านขายยา และระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ ที่มีความต้องการใช้พลังงานน้อยกว่าภาคธุรกิจอื่นๆ ไม่เคยอยู่ในวงสนทนาเรื่องไมโครกริด จวบจนปัจจุบัน

การแพร่ระบาดของ COVID-19 เปลี่ยนมุมมองของสังคมที่เราอยู่โดยสิ้นเชิง ทั้งเรื่องความจำเป็นด้านธุรกิจและการบริการ ผลก็คือผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมหลักตอนนี้กำลังหันมาทบทวนและประเมินใหม่ว่า ใครหรือธุรกิจใดบ้างที่ต้องการความยืดหยุ่นด้านพลังงาน

โชคดีที่ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีไมโครกริด และความสามารถในการเข้าถึงโมเดลธุรกิจต่างๆ ทำให้บริษัททุกขนาดธุรกิจสามารถได้รับประโยชน์จากเครือข่ายไฟฟ้าที่สร้างไฟฟ้าได้เอง และในบทความนี้ ผมได้อธิบายถึงเหตุผลและการที่ไมโครกริดช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า อาคารของคุณจะมีระบบพลังงานที่น่าเชื่อถือได้โดยไม่ต้องกังวล

ทำไมเราจึงสามารถคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงได้

ในปี 2012 สภาพอากาศที่รุนแรง ทำให้เกิดไฟดับทั่วมอนต์โกเมอรีเคาท์ตี้ รัฐแมรีแลนด์ ทำให้ผู้อยู่อาศัยจำนวนกว่า 250,000 คนไม่มีไฟฟ้าใช้หลายวัน ระหว่างช่วงฤดูใบไม้ร่วงในปี 2019 บริษัทผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา Pacific Gas and Electric ตัดไฟในครัวเรือนผู้พักอาศัยกว่าล้านราย เพื่อป้องกันไฟป่าลาม และในตอนนี้ รัฐเท็กซัส ก็กำลังเผชิญกับปัญหาไฟดับที่เกี่ยวเนื่องจากสภาพอากาศในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้ไฟดับไปทั่วเนื่องจากอุณหภูมิลดลงต่ำเป็นประวัติการณ์

สภาพอากาศรุนแรงมากขึ้นทุกที และระบบกริดก็มีอายุการใช้งานมากขึ้น สำหรับธุรกิจส่วนใหญ่ คำถามไม่ได้อยู่ที่คำว่า “หาก” เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานขึ้น แต่อยู่ที่ “เมื่อไหร่” และเรื่องนี้ก็ทำให้ไมโครกริดเข้ามามีบทบาทสำคัญ

ยืดหยุ่นด้านพลังงานอย่างไร

ไมโครกริด คือเครือข่ายไฟฟ้าที่กักเก็บไฟได้ในตัวเอง ช่วยให้คุณสร้างไฟฟ้าได้เองที่ไซต์ และใช้พลังงานได้ในเวลาที่ต้องการ ระบบไมโครกริดสามารถเชื่อมต่อกับกริดของระบบสาธารณูปโภคได้โดยตรง โดยการเก็บพลังงานส่วนเกินไว้ในระบบกักเก็บพลังงานในรูปแบตเตอรี่ หรือ “island” เพื่อกระจายพลังงานภายในพื้นที่

หรือถ้ากริดที่ให้พลังขับเคลื่อนระบบสาธารณูปโภคเกิดล่มขึ้นมา ในกรณีนี้ คุณสามารถใช้ระบบควบคุมอัจฉริยะ (intelligent controls) จากในระบบงานคุณ ปรับเปลี่ยนแหล่งพลังงานจากกริดของระบบสาธาณูปโภคไปใช้ไมโครกริด ณ ไซต์งานได้โดยอัตโนมัติ

เพื่อเข้าใจถึงการทำงานของไมโครกริด ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก ในวิดีโอนี้

ความยืดหยุ่นด้านพลังงานและความยั่งยืน เป็น 2 อรรถประโยชน์ที่ได้จากระบบไมโครกริด แต่ถ้าหากคุณต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในแต่ละรอบบิล  ไมโครกริดช่วยได้เช่นกัน เพราะไมโครกริดจะช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนแหล่งพลังงานในปัจจุบันได้คุ้มค่าใช้จ่ายมากที่สุด ด้วยการใช้ระบบควบคุมอัจฉริยะตัวเดิม

ก้าวข้ามความกังวลได้ตั้งแต่ตอนนี้

คุณอาจจะสงสัย หากเทคโนโลยีนี้ดีมากขนาดนั้นจริง ทำไมทุกธุรกิจถึงไม่มีระบบไมโครกริดเป็นของตัวเอง? คำตอบก็คือ คุณอาจต้องพิจารณาว่าเทคโนโลยีและโมเดลธุรกิจมีการพัฒนาไปแล้วมากน้อยแค่ไหน

โดยอดีตที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายที่รับรู้ได้ รวมถึงค่าซ่อมบำรุงของระบบงาน อาจทำให้เป็นอุปสรรคในหลายธุรกิจ การปรับเปลี่ยนแหล่งพลังงาน การกำเนิดไฟฟ้า และการกักเก็บพลังงานแยกไว้ ยังคงเป็นแนวคิดใหม่สำหรับหลายธุรกิจที่ไม่ต้องการใช้พลังงานสูง

ในช่วงเวลาสองถึงสามปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีไมโครกริดมีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันหลายระบบมีขนาดเล็กลง และขยายขีดความสามารถได้มากกว่าที่ผ่านมา เช่นเดียวกัน โมเดลธุรกิจด้านพลังงานเชิงการบริการ หรือ energy as a service (EaaS) business model ก็ทำให้สามารถเข้าถึงพลังงานได้ ไม่ใช่แต่เฉพาะองค์กรใหญ่แต่ยังรวมไปถึงองค์กรในทุกขนาดและทุกอุตสาหกรรมเช่นกัน 

โซลูชัน EaaS เช่น AlphaStruxure™ นำเสนอโซลูชันไมโครกริดให้องค์กรระดับคอร์ปอเรตที่มีขนาดใหญ่ ผ่านข้อตกลงด้านการให้บริการพลังงานตามประสิทธิภาพการใช้งาน องค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กจะได้รับประโยชน์ในโมเดลเดียวกับพันธมิตรอย่าง GreenStruxure

โซลูชัน EaaS ช่วยให้องค์กรธุรกิจไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องการซ่อมบำรุง การบริการต่างๆ หรือการดำเนินการ ดังนั้น คุณจะได้รับประโยชน์จากความยืดหยุ่นด้านพลังงานและได้ความยั่งยืนมากขึ้นโดยไม่มีความเสี่ยงด้านการเงินหรือต้องทำอะไรพิเศษเพิ่มเติม

ความสำคัญลำดับต่อไปคือ การเชื่อมโยงกับพันธมิตร

ความท้าทายของความยืดหยุ่นด้านพลังงานยังคงมีอยู่ต่อไป สำหรับในฐานะผู้จัดการอาคาร ควรระบุเป้าหมายด้านพลังงานให้ชัดเจนเป็นอันดับแรกเพื่อมองหาโซลูชันที่ตอบโจทย์ ลองคิดว่า คุณต้องการผสานรวมพลังงานหมุนเวียนเพื่อสร้างความยั่งยืน หรือต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย หรือต้องการป้องกันปัญหาไฟดับในระยะยาว หรือ คุณต้องการตอบโจทย์ทั้งสามเรื่อง และเมื่อคุณรู้ว่าคุณต้องการอะไร ก็สามารถติดต่อพันธมิตทางธุรกิจที่เชื่อถือได้ เพื่อแนะนำแนวทางที่เหมาะสมต่อไป 

บทความโดย เจมส์ ฮอกกินส์ ผู้จัดการโครงการฝ่ายกลยุทธ์นานาชาติ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric)

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สงครามห้างไทย: ใครจะครองตำแหน่ง Landmark แห่งกรุงเทพ?

ห้างสรรพสินค้าในประเทศไทยนั้นกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว บทความนี้ Techsauce จึงอยากชวนมาจับตามองสงครามห้างใหญ่ใจกลางเมืองของไทยจาก 4 ผู้เล่นหลักอย่าง Siam Piwat , Central, เครือ TCC ...

Responsive image

จาง อีหมิง เจ้าของ TikTok ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในจีน!

ปี 2024 ดูเหมือนเศรษฐกิจจีนจะไม่สู้ดีนัก ส่งผลให้จำนวนมหาเศรษฐีจีนเติบโตช้าที่สุดในรอบ 20 ปี รายงานจากสถาบันวิจัย Hurun เผยว่าในปีนี้มีเศรษฐีหน้าใหม่เพียง 54 คนที่ได้เข้าสู่รายชื่อ...

Responsive image

PwC นำประสบการณ์ผสานเทคโนโลยี SAP สร้างเครื่องมือ ‘ESG Solution’ ช่วยลูกค้าเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน

PwC ร่วมมือกับ SAP สร้างโซลูชันด้าน ESG เพื่อช่วยลูกค้าองค์กรเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน ชื่อว่า ‘SAP Sustainability Control Tower’...