ในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราต่างเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรมผู้บริโภค เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อรูปแบบการดำเนินธุรกิจทั้งสิ้น โดยไม่ได้กระทบแต่กับธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ธุรกิจ SMEs ก็ย่อมหนีไม่พ้นความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเช่นกัน ดังนั้นหาก SMEs ต้องการที่จะเติบโตได้ท่ามกลางสมรภูมิที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดนั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องอาศัย ‘นวัตกรรม’ เข้ามาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ

แม้ว่าทุกวันนี้คำว่า Disruption ได้ถูกนำมาใช้กับธุรกิจ SMEs มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความเพียงว่าจะส่งผลเสียกับธุรกิจเสมอไป ในทางกลับกันสามารถพลิกโฉมธุรกิจได้ด้วยการอาศัยนวัตกรรม เข้ามาสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ ซึ่งนวัตกรรมนั้น อาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่หรือลงทุนมหาศาล แต่ต้องเป็นสิ่งที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดนั่นเอง 

ต้องยอมรับว่าความท้าทายของธุรกิจ SMEs ส่วนใหญ่ หนีไม่พ้นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ความเสี่ยงทางการเงิน เวลา รวมถึงพละกำลังในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ เพื่อให้เกิด นวัตกรรม ที่จะกลายเป็นกุญแจสำคัญของธุรกิจ เพราะฉะนั้นการมองหาโอกาสรอบตัวเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องมี เพราะจะทำให้ SMEs สามารถที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดที่เป็นความท้าทายต่าง ๆ เหล่านั้นได้ 

นวัตกรรมที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโต ไม่ได้เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขนาดใหญ่ และการใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนเท่านั้น นวัตกรรมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ เพียงแค่เรารู้วิธีการในการเติมช่องว่างที่ถูกต้องผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นเอกลักษณ์ ดังนั้นการทำความเข้าใจความต้องการของกลุ่มลูกค้า พฤติกรรมผู้บริโภคเป้าหมาย และ Passion ในการสร้างสิ่งใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก 

SMEs จะทำอย่างไรถึงจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างนวัตกรรมต่อยอดธุรกิจได้ ?

ในบางครั้งหลายธุรกิจสามารถที่จะมีไอเดียใหม่ ๆ ในการคิดผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ แต่อาจจะเจออุปสรรคทั้งในเรื่องของการต่อยอดเพื่อหาทางไปต่อ การต่อสู่กับคู่แข่ง การวางโมเดลธุรกิจ การสร้างอัตลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ หรือแม้แต่การเข้าถึงลูกค้า ดังนั้นทางธนาคารไทยพาณิชย์จึงได้ร่วมกับสถาบันวิทยาการนวัตกรรม (NIA Academy) ภายใต้สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จัดทำหลักสูตรอบรมพัฒนาธุรกิจ NIA|SCB Innovation Based Enterprise (IBE) รุ่นที่ 3 Disruptive Business Innovation ขึ้น เพื่อช่วยผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยพัฒนาสินค้า บริการ หรือกระบวนการการทำงานใหม่ให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 

นอกจากนี้ในหลักสูตรนี้ยังมีการพัฒนาวิสัยทัศน์ผู้เข้าร่วมหลักสูตรให้เกิด Global Mindset ผ่านระบบนิเวศน์ของผู้ประกอบการ และเพิ่มศักยภาพผู้เข้าหลักสูตรในการพัฒนาขีดความสามารถโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผ่านวิธีการเรียนรู้แบบ Project-based learning ความร่วมมือเพื่อสร้างธุรกิจใหม่ และการแก้ปัญหาแบบ Business Model Collaboration อีกทั้งหลักสูตรนี้ยังมีการให้คำปรึกษาผ่าน Mentoring Support  เพื่อให้เกิดความยั่งยืนทางธุรกิจ พร้อมทั้งเปิดโอกาสสร้างเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจอีกด้วย 

ดังนั้นหลักสูตรนี้จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจ SMEs ที่ต้องการใช้เทคโนโลยี หรือนวัตกรรม เพื่อสร้างโมเดล หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อต่อยอดและสร้างการเติบโตแบบ 10X และ SMEs ที่มีไอเดีย หรือกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด และต้องการปรับ Business Model ให้แข็งแกร่ง พร้อมออกสู่ตลาด

2 ผู้ก่อตั้ง divana แบรนด์สปาชื่อดัง ร่วมเป็น Course Director หลักสูตร IBE รุ่นที่ 3

หลักสูตร NIA|SCB Innovation Based Enterprise (IBE) รุ่นที่ 3 ซึ่งเป็นการเน้นสร้างนวัตกรรม พัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อยอดธุรกิจ ทางหลักสูตรจึงได้รับเกียรติจาก คุณตี๋ - พัฒนพงศ์ รานุรักษ์ และ คุณตง - ธเนศ จิระเสวกดิลก CEO & Co Founder บริษัท ดีวานา เวลเนส จำกัด เจ้าของแบรนด์สปาชื่อดัง divana (ดีวานา สปา) มาเป็น Course Director ที่จะเข้ามาช่วยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการสามารถที่จะพัฒนาต่อยอดธุรกิจให้ถึงเป้าหมายได้

สำหรับ divana เป็นธุรกิจสปาและผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม มีการปรับตัว แตกไปเป็นธุรกิจต่างๆ  เช่น Dii Aesthetic Institute สถาบันสร้างสรรค์สุนทรียะแห่งความงาม, Dii Supplements วิตามินเสริม, Divana Urban Forest ผลิตภัณฑ์ในบ้านรักษ์โลก ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากความเข้าใจแก่นของปรัชญาการบริการอย่างแท้จริง ด้วยความชำนาญของทั้งสองผู้ก่อตั้งที่มีความชอบในด้านเดินทาง สุขภาพ จึงได้นำทั้งการท่องเที่ยวกับสุขภาพมารวมกันและสร้างจุดแข็งและจุดเด่นให้กับธุรกิจผ่านระบบการบริการที่ดี ที่มีมาตรฐานระดับโลก  

divana เป็นแบรนด์ที่ใช้หลักสำคัญ 3 เรื่อง คือ ‘ธรรมชาติ ภูมิปัญญา และนวัตกรรม’ โดยทั้งสองผู้ก่อตั้งมองว่า ธรรมชาติถือเป็นหมอที่ดีที่สุดในการบำบัด ซึ่งเป็นตัวตั้งหลักของธุรกิจสปา ที่ไม่ว่าจะออกผลิตภัณฑ์หรือบริการใดก็ตามจะต้องอยู่บนพื้นฐานของธรรมชาติ 

ต่อมา คือ ภูมิปัญญา ที่ได้มีการผสมผสานระหว่างความเป็นไทยกับความเป็นตะวันออก ที่มาสร้างความต่าง และแก้ปัญหาในเรื่องของสุขภาพ ที่ไม่ได้มีแค่ด้านร่างกาย แต่รวมไปถึงการฟื้นฟูจิตใจด้วย และสุดท้ายคือ นวัตกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถเข้ามาแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่และดีที่สุด 

จากหลักสำคัญของทั้ง 3 เรื่องที่ทำให้ divana เป็นแบรนด์ที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก และด้วยประสบการณ์ของผู้ก่อตั้งทั้งสอง จึงมีความตั้งใจที่จะส่งต่อความรู้ แชร์ประสบการณ์จริง เพื่อช่วยพัฒนาธุรกิจ SMEs รุ่นใหม่ ๆ ผ่านการร่วมมือกับ SCB SME ให้ SME ไทยเก่งขึ้น เพื่อสร้างระบบนิเวศน์ผู้ประกอบไทยให้มีความแข็งแกร่ง และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยให้เติบโตในที่สุด

ติดตามความรู้ดี ๆ และข่าวสารการเปิดรับสมัคร โครงการหลักสูตร NIA SCB IBE-Innovation Based Enterprise รุ่นที่ 4  ได้ที่ https://www.scb.co.th/th/sme-banking/events-listing.html

บทความนี้เป็น Advertorial